30 พฤษภาคม 2552 15:13 น.
ลิลิต
พอใครทัก ตักเตือน ทำเบือนหน้า
ใครเขาว่า ผิดหวัง ก็ช่างเขา
เพื่อนสะกิด ผิดแปลก รักแรกเรา
ก็คิดเผา เหมาโกรธ ขอโทษที
ใครทักท้วง ล่วงเกิน เมินเสียเถอะ
ว่าสะเออะ ใส่ร้าย คิดป้ายสี
ใครต่อต้าน พาลด่า ว่าไม่ดี
สิบห้าปี ที่คบหา เธอช้านาน
พอจากไป ไกลเธอ สั่นเพ้อพก
ใจตระหนก ตกต่ำ รสฉ่ำหวาน
พอสูดกลิ่น กายเจ้า เร้าสำราญ
กลับใสซ่าน ซาบซึ้ง ถึงแนบอิง
เสียงเย้าหยอก บอกเตือน จากเพื่อนซี้
พบกี่ที ก็กระทุ้ง เลิกสุงสิง
ว่าเธอนั้น อันตราย เลวร้ายจริง
ทุกส่วนสิ่ง สดใส ข้างในโทรม
เธอฉอเลาะ เพาะโรค ทั่วโลกตื่น
ผมขัดขืน มิเชื่อฟัง ยังหักโหม
จะให้เลิก ยังงัยเล่า เธอเล้าโลม
เพราะแม่โฉม งามหรู ดูเร้าใจ
เมื่อวันผ่าน คืนพ้น จนใกล้จบ
ผมได้พบ กับหมอ ก็หวั่นไหว
เพราะไม่ฟัง คำเพื่อน เสียงเตือนใคร
เธอแพร่ใส่เชื้อพิษฤทธิ์รุนแรง
บอกอำลา เจ้านั้น ในวันนี้
แม้ยังมี อาลัย ให้แอบแฝง
ขอตัดใจ ให้ลืมหลง แม้ลงแดง
ดีกว่าแกล้ง ใจดำ ทำร้ายกัน
รณรงค์ ต่อต้าน ขนานใหญ่
ถึงโรคภัย ร้ายเธอ หยุดเพ้อฝัน
สามสิบเอ็ด พฤษภา มาถึงวัน
ที่ผมหัน หาฤกษ์ ...บอกเลิกเธอ
29 พฤษภาคม 2552 19:55 น.
ลิลิต
มิหวั่นไหว ในความรัก เลยสักนิด
ไม่เคยอยู่ ในความคิด เรื่องอิจฉา
มิใช่คน ชอบหวงหึง ติดตรึงตรา
เพราะคุณค่า รักเรานั้น มีมั่นคง
มาวันนี้ พี่ใจหาย วุ่นวายหนัก
เมื่อเธอรัก เจ้าเด็กหนุ่ม อย่างลุ่มหลง
คิดลืมพี่ อย่างนี้หรือ คนซื่อตรง
รักสูงส่ง จึงสามเส้า เฝ้าฟูมฟาย
เห็นเธอจูบ ลูบไล้ ทั่วใบหน้า
เขายิ้มร่า จูบตอบ ชอบโฉมฉาย
เนื้อต่อเนื้อ แน่นสนิท แนบชิดกาย
เขาปีนป่าย ตะกายร่าง อย่างรู้ทัน
ต่อหน้า ต่อตา ยังกล้านัก
ก่อนเคยรัก พี่เที่ยงแท้ กลับแปรผัน
ไปรักเขา ดูดดื่ม หลงลืมกัน
เธอขบขัน มิเคืองขุ่น ต่างคุ้นเคย
เธอคงรัก เขามาก ไม่อยากนึก
ทุกค่ำดึก ลองคิดดู ใช่อยู่เฉย
ปรนนิบัติ พัดวี อย่างดีเลย
พิโธ่เอ๋ย กระอักอ่วน เราส่วนเกิน
ถ้าจะคิด เคียงคู่ เขาอยู่ข้าง
พี่จะขอ สักอย่าง อย่าห่างเหิน
เธอมีเขา เข้าใจพี่ อย่าหนีเมิน
ยอมเผชิญ ชะตากรรม ถูกย่ำยี
ทนเห็นภาพ บาดตา พาร้อนผ่าว
ก็ยังเข้า ใจแจ้ง แกล้งสุขขี
แม้อิจฉา เขาบ้าง ในบางที
แต่ใจพี่ นั้นมีแต่ เพียงแค่เธอ
เพราะว่ามอบ ใจให้ ไปหมดแล้ว
จึงไม่แคล้ว ถูกตอกย้ำ นำเสนอ
จะไม่ขอ ตีจาก ยังอยากเจอ
เพราะที่รัก ของเธอ........พันธุ์เปอร์เซีย
28 พฤษภาคม 2552 17:52 น.
ลิลิต
ใช่เข้ามา หาเรื่อง ให้เคืองโกรธ
เพียงแต่มา ขอโทษ และถามถึง
หัวใจรัก ชักนำ คิดคำนึง
เคยคุยซึ้ง ทุกคืนค่ำ มาช้ำทรวง
ไม่เคยมี นอกใจ ในความคิด
หรือทำผิด พลั้งไป อย่างใหญ่หลวง
ไม่หลอกเล่น ลิ้นลม คารมลวง
มิเคยล่วง เกินเลย ใยเฉยชา
พี่อาจพลั้ง พลาดไป ในบางครั้ง
แต่ก็ยัง คิดถึง คนึงหา
ถึงไม่หล่อ ลึกซึ้ง ติดตรึงตรา
ก็ยังรัก รู้ค่า เกินกว่าใคร
มีคนไหน ใช่เลย ไม่เคยพลาด
ยังบังอาจ บอกรัก เธอผลักไส
หากไม่รัก แล้วหนา มิว่าไร
ขอหัวใจ ..อย่าเดียดฉันท์ ..แค่นั้นพอ..
2 มีนาคม 2552 20:25 น.
ลิลิต
ไม่บอกเธอ ยอดพธู รู้หรือเปล่า
ถึงเรื่องราว แอบหลงรัก เธอหนักหนา
เพียงครั้งแรก ที่พานพบ ได้สบตา
จึงรู้ค่า คำว่ารัก ประจักษ์ใจ
ไม่บอกเธอ ยอดพธู ไม่รู้แน่
ว่ารักพี่ นี้เทียงแท้ มากแค่ไหน
อยากชิดแนบ แอบหนุน อุ่นเนื้อใน
แต่หัวใจ ซิสับสน ชอบกลนัก
อยากบอกใคร สักคน ต้องทนเขิน
กลัวห่างเหิน เธอโกหก ให้อกหัก
ช่วยผ่อนคลาย ความเหงา ซึมเศร้านัก
เพราะความรัก มันแอบซ่อน ละอ่อนทรวง
เป็นหนุ่มเซอร์ เซ่อซ่า บ้าระส่ำ
ใช่หล่อล่ำ ทำหลงใหล อย่างใหญ่หลวง
เคยพ่ายลิ้น เล่ห์ล้น จากคนลวง
เกือบลับล่วง ลึกล้ำ คนร่ำลือ
ไม่บอกเธอ ยอดพธู รู้หรือเปล่า
ใจร้อนเร่าเจ้าแปลกไปมิใช่หรือ
อยากบอกรัก ชักหวั่นไหว ทำไมฤา
เพราะหัวใจ ดวงใสซื่อ ...มันพรือโฉ้
25 กุมภาพันธ์ 2552 20:17 น.
ลิลิต
อ๊ะ อ๊ะ อย่าทิ้งขยะ
ตาวิเศษ เห็นนะ จะบอกให้
ทิ้งให้มัน ถูกที่ เถอะพี่ไทย
หรือเอาไป รีไซเคิล ได้เงินทอง
ขยะเปียก ขยะแห้ง ทุกแห่งหับ
แยกกันครับ จับเข้าที่ ไม่มีหมอง
กลิ่นเหม็นเหม็น เช่นขี้หมา ไม่น่ามอง
เราก็ต้อง กำจัดทิ้ง สิ่งปฏิกูล
มีขยะ อยู่สามชิ้น ดูสิ้นท่า
มันช่างไร้ ราคา พาเสียศูนย์
ถึงจะรีไซเคิล เกินเกื้อกูล
ไม่เพิ่มพูน มูลค่า พวกกาลี
ชิ้นที่หนึ่ง หึ่งเหม็น เป็นปี้ป่น
เป็นขยะ จากสิชล คนหน่ายหนี
เละเป็นโจ๊กติดโรคแม้วแจ้ววจี
ขยะที่ มีสารพิษ จิตระอา
ชิ้นที่สอง มองดู รู้ตลอด
หน้าเหมือนร็อด ไวเลอร์ ดูเด๋อด๋า
ขยะเน่า ชาวสุราษฎร์ ฯ ประกาศมา
เขาบอกว่า อย่าเข้าใกล้ ไม่ต้องการ
ชิ้นที่สาม ห่ามมาก จากระโนด
เคยถูกโจทก์ ไล่จับ กลับขึ้นศาล
เป็นขยะ เพาะเชื้อโรค โลกประจาน
จนชาวบ้าน ว่าเนรคุณ สถุลจัง
แต่ทำไม ใยรากหญ้า บูชานัก
คอยฟูมฟัก ซักถาม เดินตามหลัง
แถมยังหลอก นายด๊อกเตอร์ เผลอจ่ายตังค์
เก็บใส่ฝัง ถังขยะ ตระกูลชิน
อย่ามักง่าย ชายหญิง ทิ้งขยะ
ตาวิเศษ เห็นนะ จะติฉิน
เรามาร่วม ทดแทน คุณแผ่นดิน
เอาสามชิ้น ที่ดิ้นเร่า....ไปเผาซะ