15 ตุลาคม 2554 01:23 น.
ลำน้ำน่าน
โรยละอองน้ำทิพย์วะวิบวาว
จับเมฆขาวครืนครืนบนฝืนฟ้า
เหนื่อยไหมพระพิรุณบุญเทวา
เฝ้าชุบชีวาทุ่งกร้านละหานไพร
ปรารถนาอะไรในโลกเล่า
ทุกข์เรงเร้าทุ่งหมองคลองสมัย
ผีพรายน้ำร้อนกายร่ายอาลัย
เงือกคระไลปลาตายสาหร่ายสุสาน
เติมมิเต็มสายธารทอดผ่านเมือง
อย่าขุ่นเคืองรามสูรขว้างขวาน
เมขลาหลับไหลอนันตกาล
ปิดตำนานล่อแก้วแววแสงทิพย์
งามเกล็ดน้ำพรายทองยองยวงเมฆ
สรวงเสกการะเวกฟ้าบินมาจิบ
หยาดน้ำพราวขนสร้อยพลอยระยิบ
เกาะขลิบปีกทับทิมสู่หิมพานต์
สลัดฝนโอยธาตุน้ำรุกขเทวา
อ้อมฟ้าห่มดินถิ่นไพศาล
ปรารถนาอโนดาตชาติตระการ
เริงวิมานกินรีศรีมนุษย์
รัตนากรมหาธาราแผ่นดิน
แต้มศิลป์แต่งหล้าคงคาสมุทร
เสกทิพย์ขลังประพรมน้ำมนต์พุทธ
วิเศษสุทธิ์ปราบอเวจีผีพราย
น้ำท้นตาชาวนายากจน
รดดอกผลกสิกรรมล้ำหลาย
ชโลมแล้งแห้งผากจากวาย
ชลชาติแหวกว่ายปิติน้ำตา
สูงศักดิ์น้ำอมฤตนิมิตมนตร์
เทวาวนกวนเกษียรเวียนเวหา
แก่นสุเมรุอสูรยุดสมุทรนาคา
อสัญแดหวาชนะอสุรี
น้ำมะพร้าวล้างหน้าอสุภซาก
ฟื้นฝากธรรมเนียมเยี่ยมเมืองผี
น้ำอาบศพสงบพบดุษณี
ไหลรี่ธารน้ำตามหาญาติ
ปรารถนาสายน้ำสนานสมัย
โบกธงชัยยุคทองผองนักปราชญ์
สิ้นอโศกกำสรวลโซ่ตรวนทาส
อเนจอนาจน้ำเลือดเหือดคาตา
ชีวิตอิ่มธาตุมนุษย์บุตรเรืองรอง
มิเคยพร่องน้ำนมแม่ไร้ริษยา
เมืองน้ำเงินน้ำเน่าเปล่าราคา
ขุ่นข้นกว่าน้ำมันพรายจากโลกันตร์
ปรารถนาอะไรสมัยนี้
สายวารีธารทองละอองสวรรค์
หรือสายเลือดธารโศกโลกจาบัลย์
ไหลดิ้นดั้นพรากฆ่าอารยชน
ฤามิปรารถนาพระนิพพาน
น้ำทิพย์อภิญญาณมรรคผล
ฤาน้ำกามกิเลสจับสัปดน
อุทกท้นธารากามานคร
ฉันปรารถนาคงคาสวรรค์
โบกขรณีเทพธรรพ์ปัญจสิขร
ธาราธรรมรองเรืองกว่าเมืองรอน
ล่องเรือจรข้ามฟ้าปราการนที
สู่สายน้ำนิรันดร์สวรรค์ทิพย์
เอื้อมหยิบปาริชาตดาษวิถี
จุติพรหมโลกกวินสตินทรีย์
นิมิตทิพย์วารีชโลมแผ่นดินฯ
-----------------------------------
พระพิรุณแห่งวสันตฤดูลาฟ้าไปไม่นานนัก
พลบค่ำแล้ว หากข้าพเจ้ายังได้กลิ่นกรุ่นละอองเย็นแห่งฝน
จิตวิญญาณของนักอยากจะเขียนมักจะบรรเจิดในสายฝนพรำ
ท่ามกลางม่านฝนและม่านฟ้าไกลแสนไกล
ทำให้ประหวัดไปในอดีต ที่ติดฝนอยู่ในกระท่อมเถียงนา
เมื่อลมฝนบนฟ้ามาลิ่ว.......
ในยามที่ทุ่งข้าวอาบฝน ระบัดใบพลิ้วไหวในตำบลท้องทุ่ง
ชาวนาก็ยิ้มได้ นึกขอบคุณเทพพิรุณบนสวรรค์
สายฝนก่อเกิดสายธารน้ำ หล่อเลี้ยงผืนแผ่นดินและผู้คน
สายน้ำในวันนี้นั้นมีความหมายนิรันดร์
เป็นตัวแทนแห่งความสงบร่มเย็น อารยธรรม ความดีงามทั้งปวง
แต่อีกแง่มุมหนึ่งก็เป็นสายน้ำที่ระทมทุกข์เพราะโลกแปร
จิตวิญญาณของผู้คนก็เปลี่ยนไป ดีเลวคละเคล้ากันเป็นครรลอง
แล้วสายน้ำสายใดเล่าจักนำเราไปสู่ความหมายนิรันดร์แห่งฝั่งนิพพาน
และนำความดีงามและความอุดมสมบูรณ์สู่ผืนแผ่นดิน?
สู่สายน้ำนิรันดร์สวรรค์ทิพย์
เอื้อมหยิบปาริชาตดาษวิถี
จุติพรหมโลกกวินสตินทรีย์
นิมิตทิพย์วารีชโลมแผ่นดินฯ
(๑) แว่วตะโพนแผ่วพ้น...............เพลบุญ
โพ้นวรรษาราพิกุล............................เกี่ยวข้าว
ปรางค์สางสว่างอรุณ...........................ระดะยอด อวดแฮ
บุญสยามค่ำเช้า...............................ชาติฟื้นเกษตรศานต์ฯ
(๒) ปรารถนาภาพลึกล้ำ...............ละเลงบุญ
เกล็ดทิพย์ลิบละมุน.............................ม่านน้ำ
อารยธรรมค้ำจุน.................................จวบค่ำ
เจ้าพระยาพาข้าม...............................ล่องฟ้าสวรรค์สยามฯ
(๓) เงาเมรุเงาวัดเวิ้ง..................ไพหาร
พุทธะหลั่งวิญญาณ..............................หยาดไว้
ชะรอยพุทธเพรงกาล..........................มาล่ม ลงแล
ธารพระธรรมผากไร้...........................ร่อยร้างมลายขวัญฯ
(๔) พรายน้ำวาววับน้ำ.................นองพระยา
เงาโบสถ์คร่ำลำนาวา...........................ลิ่วลื้น
ไหลลอยล่องชีวิตมา.............................มาดมุ่ง เมืองแล
จมคลื่นกระแสไป่ฟื้น...........................ฝากน้ำซากสลายฯ