6 เมษายน 2552 12:57 น.
ลำน้ำน่าน
ประหวัดขลุ่ยครวญเพลงบรรเลงค่ำ
เลาะลำนำแนวนาคราคราดไถ
ขอนิยามยากจนจากคนไกล
เป็นฝนใหม่ไอรักสักเวลา
โดยประเลงเพลงหวังโลกยังรุ่ง
เพื่อหมายมุ่งจิบชาติปรารถนา
หยดน้ำค้างเปลี่ยวปล่อยย้อยคบคา
แปรน้ำตาหยาดสงบกระทบใจ
ให้เหงื่อไคลคลายกลิ่นจนสิ้นเหงื่อ
ทุกชนเชื้อค่าวทุ่งคุ้งไสว
แหละรวงข้าวแกร่วเกรียวได้เกี่ยวไป
ยังยุ้งใหม่เก็บคอยค่อยค่อยยัง
กระจาบทุ่งจากจรคบขอนเก่า
ทิ้งลูกเต้าเกิดใหม่ไว้เบื้องหลัง
โผไปเป็นนกหลวงลืมรวงรัง
ลืมเสียงสั่งฟางหอมกระท่อมทับ
มโหรีเขียดเก่าเร้าบรรเลง
พร่ำบทเพลงเพรียกนกโผผกกลับ
เรียกแดดอุ่นบอบบางสว่างวับ
มาระยับทอทองท่ามคลองตา
รอสิบห้าขึ้นค่ำวันพระพุทธ
เทียนทองจุดจันทร์กระจ่างพ่างพรรษา
สิ้นคืนหนาวนานนิจอวิชชา
ตื่นมาหุงข้าวปลาหาทำกิน
ข้าวเสาไห้หุงหอมพร้อมใส่บาตร
จิตสะอาดธรรมชาตินิวาสศิลป์
บุญมณฑลรวงข้าวแหละดาวดิน
เลี้ยงชีวินมวลมนุษย์ทุกยุคไป
ผ้าซิ่นสวยผืนใดให้หนาวคลาย
เท่าผ้าผวยพรรลายฝ้ายทอใหม่
ทอด้วยหยาดเหงื่ออุ่นละมุนละไม
ยามผู้สาวซับไหล่ใกล้รุ่งนี้
อีกไม่นานทุ่งทางสว่างแสวง
ปิ่นโตแกงหวดข้าวดาวเรืองสี
จักถวายสงฆ์แสดงแหล่งความดี
หว่างวารีเรือล่องคลองบัวบาง
อุษาโยคปลุกตื่นคืนสมดุล
ปลุกมาหมุนสามัญวันรุ่งสาง
ปลุกวิถีชีพจรอันอ่อนบาง
ปลุกรอยทางเสรีที่ครรไล
นกกู่ไก่ขันขับรับหริ่งพฤกษ์
จากดื่นดึกจวนรุ่งทุ่งทิวไผ่
กังสดาลหวานหวังวังเวงไป
บ่มพอเพียงพงไพรให้ยิ่งงาม
ชนบทร้องเรียกพร่ำเพรียกหา
เราบากหน้ามาไฉนใจยังถาม
เมื่อรอยควายแอกไถไร่นาทาม
ยังนิยามอัศจรรย์..ตราบวันนี้!
โถ..รอยควายแอกไถใครนิยาม
คืนนาทามดับฝัน..เสียวันนี้!
--------------------------------
ทุกฤดูกาลชีวิตที่ว่ายเวียนอยู่มิรู้เหน็ดเหนื่อย
หลังฤดูเก็บเกี่ยวรวงข้าว ตะแบกแหละคูนพากันบานพราว
ให้แสนจะคิดถึงชนบทที่เคยพาใจไปพัก
กับบึงบัวบานสะพรั่งและกองฟืนลอมฟางซีดเซียว
สะแบงหลวงต้นใหญ่ทิ้งใบลงลาเลือนยามอาทิตย์อัสดง
ท่ามยากไร้และแล้งแห่งคิมหันต์ ธรรมชาติเปลี่ยนสี
หากสุดแสนจะงดงามยินดีในความรู้สึกสามัญ...
และดำรงไว้ซึ่งคุณค่าแห่งธรรมที่ไม่ปรุงแต่ง
แหละในวันนี้ที่พบว่า...
ท้องถิ่นชนบทกำลังรอให้จิตวิญญาณที่แสนจะอ่อนล้า
ได้ชุบชื่นและมีพลังหวังอีกครั้ง แค่เปิดใจให้เห็นงาม
ลำน้ำน่าน บุรุษแห่งสายน้ำนิรันรด์
กับวันที่ชนบทเรียกหา 6 เมษายน 2552