28 กันยายน 2553 17:08 น.
ลานจันทร์ฝันกวี
คคนางค์ย่างสู่ฤดูวสันต์
หลากเฉดวรรณศยามลปนสดใส
ตราบวรุณโปรยปรายสลายไป
นภาลัยจักงามงดหมดราคี
เสียงสังคีต ประณีตเพลงพิณพาทย์
บรรเลงศาสตร์ดุรีย์พลีแด่ขวัญ
หวังกล่อมนวลก่อนนิทราใต้แสงจันทร์
ให้เจ้านั้นฝันงาม..ก่อนยามอรุณ
จำปานวลอวลกลิ่นระรินหอม
โน้มกิ่งดอมชื่นจิตพิสมัย
เพียงแค่ยลชมชื่นรื่นฤทัย
ใช่..คิดใฝ่เอื้อมคว้าเพื่อมาครอง
คนสดับรับคำนึงถึงนวลพากย์
กลั่นคำฝากจากจิตร่วมคิดฝัน
แม้นนภามาพรากเราจากกัน
ยังรักมั่นกนิษฐ์สนิทนาน
กี่ปีกี่ยุคสมัย
หทัยไม่เคยไร้หวาน
รอเพียงหนึ่งใจในกานต์
ร่วมสานคำรักถักทอ
เดียวดายดั้นด้นค้นหา
ผู้มาร่วมเรียงเคียงฝัน
ร้อยความร้อยคำจำนรรจ์
ให้กันตราบสิ้นจินต์ราน
ลานจันทร์ลานฝันเคยสิ้น
ถวิลหาใครกันหนอ
เพียงภาพไร้ร่างคว้างรอ
ที่ท้อคือเราเล่าเอง
14 กันยายน 2553 12:18 น.
ลานจันทร์ฝันกวี
หรือเพราะสายสวาทขาดช่วงแล้ว
เคยตรึงแน่วล้อมเกี่ยวเรียวรวงฝัน
มาบัดนี้จืดจางร้างสัมพันธ์
ดวงใจขวัญจึงรานเช่นกาลเลย...
ลั่นทมทิ้งร่างเกลื่อนอยู่กลางลานดิน..แม้ฟากฟ้าสดใสเพียงใด
ก็ไม่อาจรับรู้ถึงความเศร้าเสียใจของกลีบสีขาวที่ปลิดดอกร้างต้น
คงเป็นเช่นเดียวกับความรักที่ร้าวรานเกินจะผสาน..แม้แต่เศษเสี้ยว
ของความสมหวังก็พังทลาย..ยากแก่การฉุดรั้ง..จวบจนลมหายใจสุดท้ายที่ลาลับไป
13 กันยายน 2553 17:03 น.
ลานจันทร์ฝันกวี
วาสนาแห่งรักถูกสะบั้นระหว่างภพ..
มาให้รู้จัก..ผูกพันด้วยสายใยก่อนร้างจากไกล..สุดสิ้นไร้หนทาง
กลีบแก้วสีขาวไหวสะท้านอยู่กลางฝน..หยาดเพชรร่วงหล่นสู่พื้นดิน
ก่อนซับสลายไร้ร่าง..ไร้รอย
ดุจห้วงเสน่หา..ดุจเสียงคีตาที่ชื่นหวาน
เมื่อผ่านไปเนิ่นนาน..เหลือเพียงความขื่นขม
ธารน้ำใจเลือนหายไปในสายลม...ที่พร่างพรมคือน้ำตาแทนอาลัย
กี่กาลยาวนานเกินนับ..ฟ้าพยับสีเทาคนเหงาหงอย
ชีวิตพ้นผ่านอย่างเลือนลอย..มีแต่ความท้อถอยมาคอยเยือน
12 กันยายน 2553 16:03 น.
ลานจันทร์ฝันกวี
ม่านน้ำสีขาวเทกระหน่ำลงมาจากฟากฟ้าไม่ขาดสาย
กลีบบอบบางของบุปผา..บานรองรับแรงจากหยาดน้ำฟ้าเบื้องบน
จนยากแก่การต้านทาน..
ดอกน้อย ๆ ค่อย ๆ ปลิวคว้าง..หล่นลงสู่พื้นเบื้องล่างอย่างยอมจำนน
ใจคนเล่า..ความรักเล่า..
เมื่อดอกรักราน..ใช่จะปลิดปลิวเคว้งคว้างเช่นเดียวกับบุปผาดอกนั้นหรือไม่
10 กันยายน 2553 20:17 น.
ลานจันทร์ฝันกวี
มองดูหยดน้ำฝนหยดน้อยหยาดย้อยแต้มอยู่บนปลายใบพฤกษา
ร้อยรำพัน...ฝันคำนึงไปถึงนางพญาแห่งป่าอันไกลโพ้น
เจ้าหญิงแห่งป่าในความฝัน..คล้ายยลยินเสียงบุหรงร่ายร้อง..ลำตัวอ่อนฟ้อนเริงรำงามงอน
..กลิ่นเอื้องป่า โชยมาแต่ไกล...หอมนัก....หอมจนใจรู้สึกสะอาด..สงบเย็น..ปานว่า ได้พบกับ...จอมนารีเทพีแห่งพฤกษ์ไพร..ยากหาผู้ใดเสมอเหมือน