29 พฤศจิกายน 2553 14:37 น.
ลานจันทร์ฝันกวี
.นี่ไม่ใช่ความฝัน ข้ามองนางผู้เป็นดวงใจของข้า
มองเข้าไปในจิตวิญญาณของนาง
ยามนางถ่ายทอดเสียงอันไพเราะ
ถ่ายทอดหัวใจแทนคำพูดระหว่างเรา
ผ่านเรียวนิ้วงดงามบอบบางคู่นั้น
ข้าสบตากับนาง ยามนั้นโลกของข้าพลันบรรเจิดเพริศแพร้ว
ข้าค่อย ๆ จรดปลายพู่กันลงบนกระดาษอันว่างเปล่า
ก่อนร่างภาพนางขึ้นมา นางงามของข้า
กลายเป็นภาพจริงบนกระดาษอันว่างเปล่าของข้า
ข้าบรรจุหัวใจของข้าลงไปทั้งหมดในการวาด
บรรจุหัวใจของนางลงไปเคียงข้างข้า
แต่ละครั้งที่ข้าลากไล้ปลายพู่กัน
หัวใจข้ามั่นคงเฉกเช่นกับเส้นสายของข้า
สิ่งเดียวที่ทำให้หัวใจข้าอบอุ่น
คือ..การได้วาดภาพคนที่ข้ารักลงไปในภาพวาดของข้า
ทุก ๆ ภาพมีนางอยู่ในนั้น
ทุก ๆ ภาพมีหัวใจสองดวงพูดคุยกันผ่านภาพเขียน
ข้าใช้ภาพวาดของข้าบ่งบอกความรักทั้งหมดที่ข้ามีต่อนาง
ข้ารักนาง..ยามเมื่อข้าเห็นรอยยิ้มบนใบหน้านาง
ข้ามักนึกไปถึงดอกไม้ที่งดงามที่สุด หอมหวานที่สุด
หัวใจของข้าสว่างไสว ชีวิตข้าไม่ปรารถนาสิ่งใด
นอกจากได้รักนาง ได้วาดภาพของนาง
ความรักของเราไม่จำเป็นต้องอาศัยคำพูด
ความรักของเราต่างอยู่ในภาพวาดและเสียงพิณ
26 พฤศจิกายน 2553 16:31 น.
ลานจันทร์ฝันกวี
พฤกษ์สวรรค์สะพรั่งประดับนภา
ประดิษฐเคียงมณีนิศา
มิห่างหาย
.......ยามยล......
เรืองคำนึงสิเนืองสินอง..ฤ..คลาย
ณ..จิตตมานระคนมิวาย.
จะเอ็นดู
หลากกระแสประพันธผูกวธู
อุราละลานรตีดำรู
ประจักษ์มน
ท่องวะฏาอนันต์คณา..ธ..หน
ก็คุ้นก็เคยสิเกยกมล
ณ...แรกเห็น
เจตจำนรรจ์ผิว่า..จะเคยบำเพ็ญ
ปะรามิตา..มโนฯ..ก็เห็น
อตีกาล
จารวจีฤดีอธิษฐาน
ลุวารจะล่วงจะลับจะผ่าน
มิแปรผัน
เคียงชไมฤทัยถวายพระธรรม์
ตลอดสมัย..ฤ..จนนิรันดร์
มิเว้นวาง
เพียรบำเพ็ญกมลสิจนกระจ่าง
ประพฤติฤดีผลิผลสล้าง
ณ..มานสอง
เฝ้าประกอบประกับประคับประคอง
สถิตพระธรรมระเรืองระรอง
ธ..กัญญา