24 มกราคม 2548 21:31 น.
ลักษมณ์
...
หันหลังให้ความรัก..........ที่โหมหักปักใจช้ำ
หันหน้าหาหลักธรรม...........ที่โน้มหนำฉ่ำใจครัน
อกหักจากความรัก..........ที่โถมถักหักใจฉัน
หันหน้าหาหลักพัน..............ร้อยหมื่นวันปั้นใจคืน
หันหลังให้ความรัก..........ไม่หันหักชักใจฝืน
หันหน้าหาหลักยืน..............ที่รวยรื่นดื่นดาษธรรม
อกหักจากความรัก..........เป็นสื่อชักดักใจขำ
จากเขลาเข้าหาธรรม.........เป็นหลักนำทำชีวี
หันหลังให้ความรัก..........เพื่อผ่อนพักชักใจหนี
จากทุกข์หนักที่มี...............เป็นสุขนี้ที่เบาใจ
อกหักจากความรัก..........เพื่อรู้จักหักใจไข
จากธรรมน้อมนำไป...........ดับทุกข์ให้ใจสุขจริง
หันหลังให้ความรัก..........ที่ฟูมฟักตักไฟผิง
หันหน้าหาหลักพิง...............ก่อนแน่นิ่งอิงอุ่นไอ
อกหักจากความรัก..........ที่ตวงตักปักใจใฝ่
หันหน้าหาหลักชัย...............ก่อนพ้นวัยมิไหวติง
หันหลังให้ความรัก..........ที่กุมกักดักชายหญิง
หันหน้าหาหลักอิง................ก่อนใจดิ่งทิ้งทอดกาย
อกหักจากความรัก...........เพื่อรู้จักหลักความหมาย
มิตรภาพอันมากมาย...........มิห่างหายคลายจากกัน
หันหลังให้ความรัก...........ที่คอยกวักกักกุมฝัน
หันหน้าหาหลักยัน................หวังคงมั่นพลันกลับกลาย
อกหักจากความรัก...........ที่กุมกักหลักความหมาย
ปิดกั้นความพร่างพราย.........แห่งความหมายหลายหลากธรรม
หันหลังให้ความรัก หันหน้าหาหลักธรรม
(ฉบับจบบริบูรณ์) :]
ลักษมณ์
มกรา ๔๘
24 มกราคม 2548 03:15 น.
ลักษมณ์
โอ้ก.. อี.. โอ้ก.. โอ้ก... โอ้ก.. อี.. โอ้ก.. โอ้ก...
เสียงไอ้โต้ง ปลุกคน ประโลมสวรรค์
โก่งคอแข็ง ยามเช้า ทุกวี่วัน
ไอ้โต้งขัน ปลุกคน ว่าอย่างไร
ตื่น.. แต่เช้า..จะมี.. โชค... ตื่น.. แต่เช้า.. จะมี.. โชค...
เสียงไอ้โต้ง ปลุกโลก ไม่เฉไฉ
โก่งคอขัน ปลุกคน ทุกเช้าไป
ฟังกันไว้ ให้ดี มีคุณเอย
โอ้ก.. อี.. โอ้ก.. โอ้ก...
ลักษมณ์
มกรา ๔๘
ป.ล. กลอนบทนี้เขียนขึ้นหลังจากชมรายกาย ธรรมรส ธรรมรัฐ ตอน สวัสดีปีไก่ ๒๕๔๘ โดยท่านพระพิพิธธรรมสุนทร(พระราชวิจิตรปฏิภาณ)แห่งวัดสุทัศนฯ และพระคู่เทศน์อีกรูปหนึ่งแห่งวัดประยุรวงศฯ เมื่อหลังเที่ยงคืนวันก่อนทางช่อง ๑๑ ครับ
23 มกราคม 2548 19:53 น.
ลักษมณ์
...
แสงที่ทอทาบกายาองค์สัมพุทธ
แสงที่ส่องผ่องผุดฉุดกายฉัน
แสงที่สาดพาดพิภพจบคืนวัน
คือแสงจันทร์ดวงเดียวกันหรือเปล่าเอย
แสงที่ทอทาบกายาองค์สัมพุทธ
ในคืนอันวิมุตวิสุทธิ์เฉลย
ส่องหทัยพุทธะตรัสรู้เคย
ดับอวิชชาเผยโมหันธ์อันมืดมน
แสงที่ทอทาบดวงจิตให้พิสุทธิ์
แสงที่สะอาดเอี่ยมอุตตม์วิสุทธิ์ผล
แสงที่คอยประคองภพจบคืนวน
ยังนภาอร่ามล้นผ่องอำพัน
แสงที่ทอทาบกายาองค์สัมพุทธ
แสงที่ส่องผ่องผุดฉุดกายฉัน
แสงที่สาดพาดพิภพจบคืนวัน
คือแสงจากพระจันทร์ดวงเดียวกัน
คือแสงจากพระจันทร์ดวงเดียวกัน
ลักษมณ์
ป.ล. กลอนบทนี้เขียนขึ้นหลังจากได้ชมจากรายการเจาะใจ ตอนฤๅษีศิลปิน อาจารย์ศมประสงค์ ชาวนาไร่ เมื่อคืนวันพฤหัสที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๔๘ ครับ
23 มกราคม 2548 19:27 น.
ลักษมณ์
สุดขอบฟ้า
อาจจะตามหาเธอได้
อาจจะไขว่คว้าเธอมาครอบครองดวงใจเปลี่ยวเหงา
สุดขอบฝัน
คือเธอคนนั้นที่ฉันใฝ่
คือใจดวงนี้ที่มีเพียงเธอครอบครองคนเดียวจากนี้
สุดขอบเหงา
จะมีฉันยืนเคียงข้าง
จะไม่อ้างว้างให้ใจแชเชือนเลือนลางห่างหาย
สุดขอบหนาว
มีใจดวงนี้มอบไออุ่น
มีใครคนนี้เฝ้าคอยโอบกอดคุณอยู่ไม่ไกล
มีใครคนนี้เฝ้าคอยไออุ่นคุณอยู่อย่างเหน็บหนาวจับใจ
สุดขอบ กลางใจ
ลักษมณ์
มกรา ๔๘
17 มกราคม 2548 03:10 น.
ลักษมณ์
ธรรมชาติมิได้...................อำพราง
แต่กลับตั้งอยู่อย่าง................โจ่งแจ้ง
เราและท่านมัวต่าง...............สืบเสาะ
เหมือนถูกโดนมันแกล้ง........ต่อหน้าต่อตา
ธรรมชาติมิได้อำพราง
แต่กลับตั้งอยู่อย่างโจ่งแจ้ง
ให้เราและท่านต่างสืบเสาะทุกหนแห่ง
เหมือนถูกโดนมันแกล้งต่อหน้าต่อตาเอย
ธรรมชาติมิได้ลึกลับ
แท้จริงกลับตั้งอยู่อย่างเปิดเผย
เราและท่านต่างละเลย
เหมือนถูกเย้ยต่อหน้าต่อตา
มกรา ๔๘
ธรรมชาติผู้เปิดเผย
ลักษมณ์