2 กรกฎาคม 2552 06:45 น.
ละไมฝน
เธอคืออรุณรุ่งของพรุ่งนี้
เธอคือบทกวีที่สร้างสรรค์
เธอคือแสงสว่างแห่งตะวัน
เธอคือความฝันแห่งวัยเยาว์
อิสระดังนกน้อยบินลัดฟ้า
กระพือปีกแกร่งกล้าท้าฝนหนาว
ฝันจุมพิตแก้มจันทร์พันดาว
แม้นเส้นทางทอดยาวบินไป
ดวงตาจำจดบทกวีชีวิต
มาแบ่งปันมวลมิตรน้อยใหญ่
เก็บกำประสบการณ์อำไพ
เก็บเกี่ยวดวงใจแห่งดวงดาว
ปวงดาวนับล้านราวหว่านโปรย
วิบวับโดยตะวันสาดส่องหาว
เปล่งประกายระยิบพริบพราว
เพื่อบอกเล่าเรื่องราวจักรวาล
ยิ่งใหญ่...ไร้ขอบเขตกว่ากว้าง
เวิ้งว้างกว้างไกลแผ่ไพศาล
หมายมุ่งสู่แกนหลักแห่งจักรวาล
ค้นหาฝันอลังการแห่งวัยเยาว์.
ละไมฝน
1 กรกฎาคม 2552 06:44 น.
ละไมฝน
รัตติกาลบันดาลฝันวิเศษยิ่ง
เงียบลมนิ่งดิ่งดึกพิสุทธิ์ฝัน
เย็นน้ำฟ้าพร่างพรมพฤกษ์ไพรพรรณ
เจื้อยเจื้อยแจ้วไก่ขันปลุกวนา
ดาริกาแสงเย็นเย้ยวันพรุ่ง
รอแสงสางรางรุ่งรองเรืองหล้า
หยาดน้ำค้างพร่างพรำจักร่ำลา
มวลมาลย์ไม้ใบหญ้าระบัดใบ
แสงอรุณซับน้ำค้างที่ข้างแก้ม
ดวงแดดแต้มสีสันแห่งวันใหม่
สกุณาขับขานกังวานไพร
แล้วเพลงฝัน"ผู้มาไกล" ก็เริ่มต้น....
เก็บผักหักฟืนมาหุงข้าว
ข้าวขาวหอมฝันผู้ดั้นด้น
มาจากเมืองแห่งอารยชน
ด้วยเหตุผลสุ่มเสาะแสวงหา
แสวงหาขุมพลังแห่งความคิด
เอื้อปลุกปลอบดวงจิตอันอ่อนล้า
พำนักใต้เพิงไม้ไพหญ้าคา
กลางวนาไกลล้ำจำพราก
โอ้...หญิงสาวชาวป่าช่างน่ารัก
เธอเก็บผัก หน่อไม้ หวายมาฝาก
อดหิวก็อิ่มหนำในยามยาก
ลืมฝันร้ายหลายหลากภาคนาคร
เริ่มงานฝันถางไร่แล้วไถหว่าน
เมล็ดพันธุ์จินตนาการดาลอักษร
หมั่นรดน้ำพรวนดินด้วยอาทร
แม้นหวานร้อนยังวาดหวังอลังการ
เฝ้ารอคอยเมล็ดพันธุ์พืชแทงหน่อ
งามชูช่อผลิดอกใบไหวหวาน
จึงเก็บเกี่ยวมาร้อยกลอนกานต์
ด้วยวิญญาณวรรณศิลป์สุนทรีย์...
30 มิถุนายน 2552 17:09 น.
ละไมฝน
สุมทุมพุ่มไม้ใกล้ที่พัก
มีเถาวัลย์พันหลักเลื้อยรักต้น
โอ้...กระเช้าสีดาระย้ายล
พุ่มพวงผลกลมกลึงคล้ายคลึงกัน
เมื่อยามแก่ก้านบนผลปริแตก
กางก้านแยกเป็นสาแหรกหิ้วกลีบนั้น
เป็นหกกลีบหกก้านงามปานกัน
มือสวรรค์สรรค์สร้างหรืออย่างไร
งามเถาวัลย์พันธุ์ไม้เลื้อยไล้ร่ม
ครั้นยามสายสายลมโชยพัดไหว
พวงกระเช้าสีดากราวแกว่งไกว
เสียงใสๆ กังวานแว่ววนา
ราวกับเสียงเพลงป่าเริงร่าล้ำ
เฉกเช่นเสียงลำนำส่ำพฤกษา
เริงบรรเลงเพลงจนตะวันลา
กล่อมเจ้านกน้อยป่านิทราฝัน
เพลงกระเช้าสีดายังเครงครื้น
ขับกล่อมวันคืนเกษมสันต์
แผ่วพลิ้วคลอสายลมเพยรำพัน
ว่ายินเสียงเพลงฝันหวานมิแล้ว
.................
ละไมฝน
30 มิถุนายน 2552 06:55 น.
ละไมฝน
ถึงคราลาหลีกเร้น.......... กรงเมือง
นึกหน่ายแสงสีเรือง.......... เพริศแพร้ว
ลอยเรือล่องชมเมือง.......... หลวงพระบาง
ชมวัดวาอารามแล้ว.......... ชมน้อง หญิงลาว
น้ำคานงามปานธารทิพย์
ลิบลิบราวไหลจากสวรรค์
ยวงเมฆเสกฝนพรมไพวัลย์
จูบวสันตกาลสราญรมย์
หลากไหลบรรจบน้ำของ
ธารทองล่องรินสั่งสม
สายน้ำปวงชนอาบชม
ชุบอารมณ์เมืองหลวงพระบาง
เมืองอินทร์จำแลงแปงตั้ง
ริมฝั่งชลของ-เขาสลับสล้าง
วัดวาอารามงามรางชาง
ไสวสว่างกลางใจฝูงชน
บ้านเฮือนเก่าแก่แลหลัง
พระราชวังวิจิตรเลิศล้น
ท่ามกลางขุนเขางามยล
ดั้นด้นค้นขานตำนาน
หอพระบางอันลือเลื่อง
คู่เมืองคู่เจ้าสืบสาน
พระบางรูปทองเปรียบปาน
คู่บ้านยึดเหนี่ยวผูกพัน
อัญมณีล้ำค่าริมของ
วัดเชียงทองรองเรืองงามฝัน
ดอกรวงผึ้งอ่อนหวานหน้าบัน
สวรรค์สรรค์สร้างหรืออย่างไร
อร่ามรองดั่งทองทา
บนยอดผาเศวตฉัตรต้องแดดใส
เปล่งประกายสีทองผ่องอำไพ
เห็นแต่ไกลพระธาตุจอมษี
มรดกเมืองแห่งวัฒนธรรม
สงบล้ำไร้ควันแสงสี
ธรรมชาติอากาศสดดี
สุนทรีย์แห่งหลวงพระบาง
รอยยิ้มคลี่แย้มแก้มนวล
สาวลาวเชื้อญวนงามกระจ่าง
สวมซิ่นผ้าทอมือนาง
หอมปรางแกมกลิ่นจำปา
ถ้อยทีน้ำคำใสซื่อ
ยึดถือฮีต-คองศาสนา
ชาตินิยมเชื่อมั่นศรัทธา
พัฒนาชาติลาวยืนยง...
.......................
ละไมฝน...ลำนำ
29 มิถุนายน 2552 18:29 น.
ละไมฝน
รุ่งแสงสางสุรีย์ฉายทักทายฟ้า
สายลมหวานกระพือกล้าพัดฝ่าฝัน
ลดามาลย์บานประดับรับวานวัน
เจ้านกน้อยก็เริ่มฝันจะบินไกล
เจ้าบินจากท้องนาบ้านป่าทุ่ง
ด้วยมาดมุ่งหมายฝันวันยิ่งใหญ่
หนทางสู่ดวงดาวยังยาวไกล
จงก้าวไปไขว่คว้ามาทอฝัน
เจ้าบินจากรวงรังด้วยหวังว่า
จะศึกษาวิชาการเพื่อสานฝัน
หมั่นฝึกฝนฝีมือช่างชำนาญวัน
แล้วดาลฝันบรรเจิดให้เพริศพราย
จงบินไปด้วยปีกฝันสร้างสรรค์โลก
ทางแห่งโชคช่วงพิสุทธิ์ดุจรุ้งฉาย
อุปสรรคขวากหนามแม้นมากมาย
มีดอกไม้หอมกำจาย ณ ปลายทาง
เจ้าจงบินด้วยปีกกล้าค้นหารัก
รัก...คือหลักยึดมั่นยามฝันคว้าง
บางสำนึกรับผิดชอบอาจบอบบาง
แต่อย่าทิ้งแนวทางสร้างชีวิต
ละไมฝน