14 กรกฎาคม 2552 07:17 น.
ละไมฝน
ยานี ๑๑
รุ่งรางยามสางสาย
มวลดอกไม้สดชุ่มฉ่ำ
น้ำค้างพร่างพรมพรำ
โชยกลิ่นป่าหอมหวนเหย
กลิ่นชื้นช่วงป่าเช้า
ดอกเห็ดหาวผาดผุดเผย
กางดอกงามงอกเงย
เกยแกมก่ายก้านกลีบกลม
หอยทากเลียบลากเปลือก
และเล็มเลือกกัดแทะถ่ม
ก้านเห็ดหวิ่นแหว่งล้ม
ลิ้มรสอันเฝื่อนฝาดเมา
กิ่งกือวเนจร
เตี้ยมไต่ขอนไม้ผุเน่า
เลาะผ่านน่านลำเนา
ข้ามร้อยป่าพันภูผา
ดูคล้ายรถไฟน้อย
แฝงฝากรอยรอนแรมป่า
จุดหมายมุ่งหมายมา
เสาะแสวงหมายสิ่งใด
ฝูงปลวกแกร่งกลั่นกล้า
นึกเหนื่อยล้าสักคราไหม
ทั่วเถื่อนแถวแนวไพร
ขนดินหอมมาสร้างรัง
เป็นกลุ่มเป็นเกลียวนัก
มิผ่อนพักพรากเพียรพรั่ง
พลีแรงร่วมพลัง
ด้วยวาดหมายและดิ้นรน
มดดำขบคาบเหยื่อ
เก็บไว้เผื่อยามขัดสน
สะสมในรังตน
ก่อนผ่านผันวสันต์กาล
ผึ้งโฉบรอบรังรวง
คล้ายแหนหวงยวงน้ำหวาน
สะสมมาช้านาน
จากดอกไม้ราวชานไพร
ต่อกล้าเจ้าท้ารบ
ต่อสยบผู้ผ่านใกล้
พิษสงแห่งเหล็กใน
อาจถึงตายได้เช่นกัน
แมงมุมชักใยย้อง
แยบยลยองเส้นใยฝัน
เล่ห์เหลี่ยมแมงมุมนั้น
ชั้นเชิงเหนือกว่าแมลง
ผีเสื้อบินเริงร่า
ตามแนวป่าทุกหนแห่ง
จุมพิตดอกไม้แดง
ดอกไม้ขาวเจ้าห่มไห้
ปีกสวยแต่งแต้มสี
ทุกถิ่นที่ทั่วป่าใหญ่
เริงร่อนล้อดอกไม้
ด้วยสร้างสรรค์รักเสรี
แมลงปอบินร่ายรำ
เหนือแหล่งน้ำธารวิถี
ปีกบางหางยาวรี
ดวงตาเจ้าสดใสวาว
ยามบินโฉบกินเหยื่อ
รวดเร็วเหลือเกินจะกล่าว
ยุงริ้นเร้นหลีกราว
เจอนักล่าเชี่ยวชั้นเชิง
เยาว์วัยอยู่ใต้น้ำ
ว่ายดิ่งดำยามน้ำเจิ่ง
เชื่องช้าไม่ร่าเริง
คล้ายหวาดกลัวในหัวใจ
รูปร่างอัปลักษณ์
จนพร้อมพรักลอกคราบใหม่
เป็นแมลงเปรียวไว
พร้อมบินฝันสู่เสรี
สรรพสิ่งหากสมดุล
ย่อมเกื้อกูลทุกถิ่นที่
มวลแมลงเล็กเล็กนี้
คือห่วงโซ่แห่งไพรพง
.....................
ละไมฝน
14 กรกฎาคม 2552 06:51 น.
ละไมฝน
กะเลอ กะเลอ ตุ๊กตาไม้รมดำ
เขาคือชายหนุ่มชาวมูเซอดำ
ยืนบ่ไหว บ่ติง อยู่ในร้านแม่อุ๊ยคำ
ท่าทีเงียบงำ ดูง่ายง่าย
.......................
กะเลอ กะเลอ ยืนถือหน้าไม้สีดำ
เฝ้ามองมั่นหมาย สาวเจ้าปะด่องคอยาว
บ่พูดจา บ่ทักทาย
สาวเจ้าปะด่องคอยาว...ย้าวยาว
.........................
กะเลอ กะเลอ ตุ๊กตาไม้มูเซอดำ
เฝ้าฝัน เฟื้อแฝง...สาวเจ้า
ปะด่อง กะเหรี่ยงคอยาว...ย้าวยาว
สาวเจ้าบ่แลมองมา แม้เงา...ล้าลา
.......................
แล้วแลงหนึ่งแดดอ่อน มีชายเมืองใต้ตัวด้ำดำ
มาซื้อตุ๊กตากะเหรี่ยงคอยาว...ย้าวยาว
กะเลอ ยืนร่ำไห้
สาวเจ้าหายไปจากร้านแม่อุ๊ยคำ...ล้าลา
..........................
กะเลอ กะเลอ ตุ๊กตาไม้มูเซอดำ
วิงวอนกื่อซา...เทพเจ้าผู้สร้างโลก
นำสาวเจ้ากลับมา
คืนสู่ดอยสูงถิ่นเฮา...
....................
ละไมฝน
12 กรกฎาคม 2552 12:24 น.
ละไมฝน
ดอกไม้บนถนนราชดำเนินเคยพิสุทธิ์
เปรียบประดุจจิตวิญญาณเบ่งบานล้ำ
ชูดอกกล้าท้าอำนาจอันมืดดำ
ถูกเหยียบย่ำบนลานโศกให้โลกลือ
มวลดอกไม้พลีดอกลับลงกับดิน
หากมิสิ้นอุดมการณ์อันสัตย์ซื่อ
ต้านอำนาจอำมะหิตเพียงหยิบมือ
ลืมแล้วหรือชัยชนะแห่งดอกไม้
ดอกไม้งามวันนี้มีความคิด
เมื่อเศรษฐกิจขวิดล้มระงมไห้
เจ้าเหลียวหน้าแลหลังระวังภัย
เหมือนดอกไม้ไร้ดินเหนี่ยวเยียวยาฝัน
ท่ามกลางวิกฤตแห่งปัญหา
แสนอ่อนล้าเรี่ยวแรงจะแข็งขัน
หยัดยืนบนดินแล้งแห่งอธรรม์
ภู่ผึ้งหยันดอกไม้งามไร้หนามคม
ทิ้งกลีบขาวหอมละมุนให้สูญหาย
ใต้กรวดทรายละลายค่าน่าขื่นขม
มิเหลือกลิ่นหอมละไมให้ใครดม
เมื่อเจ้าก้มหัวให้ใครสั่งการ
เจ้าสมยอมกับมือที่มองไม่เห็น
จึงทนเร้นเป็นผู้นำสองมาตรฐาน
ดอกไม้งามชูไสวในมือมาร
แม้นเบ่งบานก็มิชอบระบอบธรรม
............................
ละไมฝน
9 กรกฎาคม 2552 23:25 น.
ละไมฝน
ใครพรากศรัทธายิ่งใหญ่ไปจากรู้สึก
ใครแต้มสามานย์สำนึกในใจมหันต์
ใครเหยียบย่ำความถูกต้องแทบเท้านั้น
ใครทุบตีบีฑาขวัญ...ประเทศไทย
ใครบอกว่าการก่อการ...คือกู้ชาติ
ใครหนอสะอาดสะอ้านผ่านสมัย
ใครก้าวขึ้นมาด้วยเกียรติ...เชื่อถือไม่ได้
ใครพร่ำรักประชาธิปไตยยิ่งวิญญาณ์
บนเวที...ใครตะโกนกร่างอย่างทะนงตน
ใครดูคล้ายคล้ายคนวิปริตอุบาทว์บ้า
อาหารดีดนตรีไพเราะเสนาะอุรา
แล้วชักชวนปวงประชาร่วมอุดมการณ์
อัตตาอุดมการณ์กู้ชาติวิลาสล้ำ
ส่งใครมาตอกย้ำซากการเมืองไร้แก่นสาร
ใครคือปลาเน่า...ในนาวารัฐบาล
ใครประทานท่านมาต่างตอบแทน
เรารู้ว่า...นิติรัฐเอื้อมไม่ถึงวันยังค่ำ
นิติธรรมยิ่งน่าอเนจอนาถแสน
ผู้ก่อการยึดสนามบินแห่งไทยแลนด์
รับบำเหน็จเป็นตัวแทนไทยทั้งผอง
จะปิดใจให้มืดบอดนานถึงไหน
ยังยิ้มได้ทั้งใจที่มัวหมอง
ขอเรียนถามท่านผู้ผยองคะนอง
ท่านจะปกป้องเกียติภูมิไทยอย่างไร...
ละไมฝน
9 กรกฎาคม 2552 23:15 น.
ละไมฝน
คำทำนายของร่างทรงผีปู่ตาบ้านหนองหิ่งหาย ปี พ.ศ. ๒๕๕๒
ดงดอกฝ้ายท้ายบ้านผลิบานขาว
ทางมะพร้าวพร้อมพรักให้ถักสาน
รูปวัวควาย เป็ดไก่ สัตว์ใช้งาน
ถวายศาลปู่ตาขออาลักษณ์
ผู้เฒ่าจ้ำชำระกายบริสุทธิ์
นุ่งห่มชุดคลุมขาวยาวยิ่งศักดิ์
สวมชฏาดอกไม้มาลัยลักษณ์
จึงย้ายยักถือของ้าวเข้าพิธี
บุหรี่มวนพริกแห้งเหล้าแรงรส
ทั้งของสดของคาวเซ่นชาวผี
เหล่าปู่ย่า ตายาย วายชีวี
รับเซ่นพลีพร้อมพรั่งดังเจตนา
เฒ่าทรงผีปู่ตาว่าทายทัก
ปีนี้ผักพืชผลฝนล่าช้า
ขาดแคลนน้ำตอกย้ำปีที่ผ่านมา
ต้นข้าวกล้ากรอบแห้งเพราะแล้งนาน
โจรขโมยโหยกระหายผู้ร้ายเฟื่อง
นักการเมืองจักเฉือนเชือดจนเดือดพล่าน
พร่ำจะช่วยชาวประชาให้ชื่นบาน
กลับร้าวรานหนี้หนักมิจักสิ้น
เศรษฐกิจแก้ผ้าเอาหน้ารอด
กลุ่มคนรอดล้วนคนรวยด้วยทรัพย์สิน
ชนชาวนามากมายในแผ่นดิน
หิว...ดื่มกินน้ำตาประสาจน
ผีปู่ตาทิ้งท้ายคำทายทัก
ปีนี้ผักพืชไร่จะไร้ผล
ข้าวจะยากหมากจะแพงแล้งใจคน
จงอดทน ทนรออีกต่อไป
หมายเหตุ: ผู้เฒ่าจ้ำ คือหมอผีทำพิธีสื่อสารกับวิญญาณบรรพบุรุษของชาวอิสาน