17 พฤศจิกายน 2547 16:26 น.
ละอองน้ำ
ฉันพรวนดินรดน้ำ
วางผังแปลงเล็กๆริมทาง
ตรงที่ดินที่ว่าง
เจือปุ๋ย .. ใส่ใจ
โรยเมล็ดดอกดาวกระจาย
ไม่นาน ผุดพราย เป็นดอกใหม่
เหลืองอร่าม ใบบาง พริ้วไป
ชื่นชมในใจ...ไม่จืดจาง
วันพ้นผ่าน
ดอกดาวกระจายที่บานอยู่ข้างๆ
นอนราบกับพื้นริมทาง
ทิ้งรอยเท้าจางๆบนดอกใบ
บางอย่าง...ก็เพียงเสี้ยววินาที
ที่จะพังบางอย่างที่มี ที่ทำไว้
แต่ต้องใช้เวลาและความรู้สึกเท่าใด
จะกอบกู้...อะไร อะไร ให้เหมือนเดิม
10 พฤศจิกายน 2547 13:15 น.
ละอองน้ำ
มืดบาดเนื้อเถือนิดไม่คิดเก็บ
จะมากเจ็บมากแผลก็แค่นั้น
แต่บาดจิตบาดใจอย่างไรกัน
ผ่านคืนวันเดือนปีไม่มีเลือน
ละลายบ้างจางจิตที่คิดเคียด
คิดจะเบียดเบียนกันหั่นเชือดเฉือน
สะสมกรรมเก่าใหม่ไม่ลดเลือน
ใจจะเบื้อนแต่มลทินไม่สิ้นเวร
ที่เคยเจ็บเคยพบซบเซาบ้าง
ใจเป็นกลางทุกอย่างจะมองเห็น
กรรมต่อกรรมก็ซ้ำกรรมให้ลำเค็ญ
คิดไม่เป็นก็เวียนวนไม่พ้นกรรม
9 พฤศจิกายน 2547 23:38 น.
ละอองน้ำ
...คลายปม...
เห็นคนไม่พึงนิยม...ปมยุ่งยาก
ต่างก็เบี่ยงก็บ่าย...ไม่ลำบาก
ปมทับปมมากๆ...ยากคลายปม
...ปมเล็กปมน้อย...ไม่ค่อยคิด...
รอปมติดสนิท แน่นทับถม
ปมนั้นปมนี้ มาทับปม
จนตัวจม ถมมิด ติดกับตัว
...ปมด้อยๆน้อยนิด...ปิดอีกหน่อย
ปมก็พลอยนูนเด่น เห็นถ้วนทั่ว
ยิ่งปิดยิ่งแสดง เหมือนแกล้งตัว
แย้มยิ้มหัว ปิดจนทั่ว.....จนชัดเจน
8 พฤศจิกายน 2547 18:51 น.
ละอองน้ำ
ในความรู้ความคิดที่ผิดแปลก
เธอไม่แยกไม่ยลคนหน้าไหน
วางตัวเองตรงกลางอย่างวางใจ
จนถลำลึกไปในแดนดิน
เป็นที่สรวลที่เสเฮสนั่น
เคลือบด้วยเปลือกที่เกลือกกันเป็นนิจศิล
ฟังคำชื่นรื่นรูหูอยู่จนชิน
ไม่รู้สิ้นดำ-ขาวในคราวเพลิน
จนฟ้าฝนดลบันดาลประทานฝน
แต่ละคนสบถฟ้า...ด่าสรรเสริญ
ที่เคลือบสีบนหน้าจนหนาเกิน
ก็เผชิญความจริง...ที่กริ่งเกรง
ฟ้าก็ผ่าลงกระบาลที่ลานกว้าง
ให้นอนค้างลืมตาไม่มาเก่ง
ไม่เหลือคราบคนจริง ใจนักเลง
เกือบจะนอนให้สวดเพลงส่งวิญญาณ
ฟ้าย่อมเปลี่ยนไม่เรียนรู้ก็ดูแปลก
รอร่างกายเหลวแหลกละสังขาร?
คิดว่าพ้นคิดว่าพอไม่ต่อการ
มันก็แค่เรื่องนิทาน ปลอบใจตน
สุขทางโลกย่อมหลอกล่อให้หลงใหล
จนหลงลืมละเลยไปในเหตุผล
พอคำว่าตัวเองเบ่งเกินคน
ฟ้าก็ดลให้พ่ายยับ...ไปกับตา