15 พฤษภาคม 2548 21:53 น.
ละอองทราย
ปัจจุบัน ..เรามักจะเห็น ได้รับรู้เรื่องราวที่น่าสลดใจมากมาย ผ่านทางสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางหน้าจอโทรทัศน์ ทางวิทยุ หรือรายการต่างๆที่ช่วยเหลือสังคม แต่ก็คงจะไม่มีสิ่งไหน ที่กระทบจิตใจของฉันเท่ากับข่าวที่พ่อ-แม่ถูกลูกทอดทิ้งให้เผชิญชีวิตเพียงลำพัง
พ่อแม่ ...ที่คอยเลี้ยงดู ฟูมฟัก ทะนุถนอมลูกจนเติบใหญ่ หวังเพียงแค่ได้เห็นลูกเป็นคนดี มีชีวิตที่สวยงาม พ่อแม่ ...ทำทุกอย่างได้เพื่อลูก
ยอมอด...เพื่อให้ลูกได้กิน
ยอมเหนื่อย...เพื่อให้ลูกได้มีสิ่งที่ทัดเทียมกับผู้อื่น
ยอมขายทุกสิ่งทุกอย่าง...เพื่อให้ลูกได้เรียนสูงๆ
ยอมให้ได้แม้กระทั่งชีวิต...เพื่อลูก แต่..คนที่เป็นลูก เด็กเล็กๆคนหนึ่งที่ค่อยๆเติบโตขึ้นจากหยาดเหงื่อแรงกายแรงใจของพ่อแม่ จนกระทั่งปีกกล้าขาแข็ง เริ่มออกไปโบยบิน มีชีวิตเป็นของตัวเอง และเมื่อบินไปแล้วก็ไม่เคยคิดที่จะย้อนกลับมาดูแลรังเก่า ที่มีพ่อแม่ที่เริ่มแก่ชรา พร้อมกับรังที่ค่อยๆทรุดโทรมตามวันเวลาที่ผ่านเลยไป
หลังคาที่เคยกันแดดกันฝน ไม่สามารถต้านทานกับภัยธรรมชาติที่กำลังคืบคลานเข้ามา บวกกับสังขารที่ร่วงโรย ล้วนก่อความเวทนาให้กับผู้พบเห็นยิ่งนัก ..แต่ลูกจะรู้หรือไม่ ว่าพ่อแม่ต้องทนทุกข์ยากเพียงใด...หรือพวกเขาได้ลืมบุคคลที่สำคัญที่สุดในชีวิตไปเสียแล้ว
บางวันแทบไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ บางวัน..ไม่มีแม้แต่เรียวแรงที่จะขยับเขยื้อนไปไหน...และ การรอคอย โดยหวังว่า..ลูกรักที่จากไปแสนนานจะกลับมาเยี่ยมเยียนสักครั้ง
หลายคน ...หวังแค่ได้เห็นหน้าลูกก่อนหมดลมหายใจก็เพียงพอ เพราะทุกลมหายใจเข้าออกของพ่อแม่ก็คือลูก...และภายใต้จิตสำนึกของคนเป็นลูกล่ะ นำผู้มีพระคุณทั้งสองคนไปไว้ที่ไหน
หลายครั้ง...ที่ปล่อยปละละเลยท่าน
หลายครั้ง...ที่ต่อว่าให้เจ็บช้ำน้ำใจ
และหลายครั้ง...ที่ทอดทิ้งไปอย่างไม่สนใจไยดี....แต่พ่อแม่ก็ไม่เคยปริปากบ่น หรือแม้จะต่อว่าเลยซักนิด
ลองหันกลับไปมองซักนิด ว่าเบื้องหลังยังมีใครที่รอเราอยู่ เพราะมือของพ่อแม่มิใช่หรือที่ทำให้เรามีวันนี้ มือที่คอยป้อนข้าวป้อนน้ำ มือที่คอยซับน้ำตา มือที่คอยคุ้มครองป้องภัย ลองหันไปจับซักครั้ง และเราจะรู้ว่า..มือนี้คอยเราอยู่เสมอ
อย่าปล่อยให้หัวใจหยาบกระด้าง จนละเลยสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตไป เพราะเมื่อถึงวันหนึ่ง คุณอาจจะเสียใจกับการสูญเสียอันใหญ่หลวง...และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ คุณไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดในอดีตได้
1 เมษายน 2548 12:10 น.
ละอองทราย
อีก2เดือน เพื่อกลับไปเผชิญหน้า
และยอมรับกับความเป็นจริง ที่ฉันได้แต่หลบเลี่ยงมันในตอนนี้
วันเวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน
บางครั้งก็รู้สึกว่า....เร็ว..จนน่าใจหาย
มีกี่คนแล้วนะที่เข้ามาทักทายกับความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนที่สุดของหัวใจ
แต่ไม่ว่าจะมีซักกี่คน
สุดท้าย..ก็ไม่มีใครหลงเหลือให้ได้จดจำเช่นเดิม
คำว่ารักในวันนี้ จะไม่ใช่แค่รักอีกต่อไป
มันไม่ได้มาจากหัวใจและความรู้สึกล้วนๆอีกแล้วล่ะ
แต่มันรวามเข้ากับเหตุผลและสมองประกอบกัน
ก่อนจะรักใคร..ต้องคิดให้ดี..ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน
"ใช่เค้าแล้วหรือ คนที่เราจะเอาหัวใจไปฝากไว้"
เพื่อว่าต่อไป..หัวใจจะได้ไม่เจ็บหนัก
บางที..การหยุดรัก เพื่อให้หัวใจได้พักผ่อนบ้างก็เป็นเรื่องที่ควรทำ
"สงสารหัวใจ" ที่บ่อยครั้ง มันถูกผลักไสจากคนที่ไม่สนใจไยดี
หัวใจที่มีรักอันแสนบริสุทธิ์ กลับถูกทำลายจากใครที่ไม่เห็นค่าของมัน
สมควรแล้วหรือ
จะสนใจไปไย....ว่าใครจะรักเราหรือไม่
ขอวันนี้มีแค่พ่อ แม่ที่น่ารัก พี่ชายพี่สาวที่คอยดูแล
เพื่อนที่แสนดี และ รักตัวเองให้ดีที่สุดก็น่าจะพอ
27 มีนาคม 2548 16:16 น.
ละอองทราย
ถึงแม้มันจะเป็นแค่การเริ่มต้น
แต่ฉันก็เหนื่อยเกินกว่าที่จะวิ่งต่อไปไหว
เพื่อพบว่า..เบื้องหน้านั้นไม่มีอะไร
นอกจาก....ความว่างเปล่า
เธอ...เพิ่งเจ็บช้ำมาจากใครบางคน
และมันคงยากที่จะลืมได้ภายในเวลาไม่กี่ข้ามคืน
ฉันจะไม่คาดหวังอะไรทั้งนั้น
เพียงแต่วันนี้..จะขอหยุดวิ่งตามเธอ......
เพื่อรอว่า..วันใดที่เธอพร้อม..เธอคงหันมา
หากมีวันนั้น ฉันจะบอกเธอ
" ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่สวยงาม หรือเพียบพร้อม
เหมือนใครที่เธอเคยรักหรอกนะ
ฉัน..ก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
ที่ต้องการความรักที่จริงใจจากใครซักคน
ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้รักเธอเป็นคนแรก
ไม่ได้มีหัวใจที่แสนบริสุทธิ์
แต่กลับตรงกันข้าม
มันเป็นหัวใจที่เคยบอบช้ำ
จนผ่านการเยียวยามาอย่างดีจากกาลเวลา
ฉันไม่สัญญาว่าหากเราได้รักกัน
ฉันจะรักเธอเป็นคนสุดท้าย
แต่ถ้าหากเราได้รักกัน ฉันสัญญา
เธอจะเป็นคนเดียวของปัจจุบัน..ที่ฉันจะรักให้ดีที่สุด "
ฉันไม่รู้หรอกนะว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
ฉันจะมีเธอหรือไม่...ฉันไม่รู้
เพราะฉันจะเป็นแค่ผู้รอ
และขอมอบให้เธอ.เป็นผู้ตัดสิน
ฉัน..ไม่อาจปล่อยทุกอย่างให้ดำเนินไปตามทางที่ฉันปูไว้ได้
เพราะใช่ว่าจะมีแค่เธอคนเดียวที่มีหัวใจ
ฉันนั้นก็เช่นกัน
ฉันกลัวความเสียใจ และคงต่อสู้กับมันไม่ไหว
หัวใจมันหนักเกินพอ
และสิ่งที่ฉันอยากทำ ฉันก็ได้ทำแล้ว
คือทำให้เธอเห็น เธอรู้
ว่ายังมีฉันที่ยืนอยู่ตรงนี้..ไม่ไกลจากเธอ
สิ่งสุดท้ายที่อยากจะบอกเธอ
" ฉันก็เป็นผู้หญิง ใช่จะไม่คิดอะไรกับสิ่งที่ตัวเองทำ
การเดินเข้าไปเพื่อบอกว่าชอบเธอก่อนอาจเป็นเรื่องน่าอาย
แต่ฉัน..ก็ตัดสินใจที่จะทำ
และก็ไม่เสียใจที่ได้รู้จักคนดีๆ..เช่นเธอ
ต่อไปจะเป็นอย่างไรก็สุดแล้วแต่เธอนะ
ผู้หญิงคนนี้จะขอหยุด.....เพื่อรอ
21 มกราคม 2548 11:53 น.
ละอองทราย
ไม่บ่อยนักที่เราจะเจอใครซักคนที่ถูกใจ
และรู้สึกว่าเค้าคนนั้นคือคนที่เรารอคอย
บ่อยครั้ง...ที่ฉันรู้สึกเหงา นั่งอยู่ในห้องคนเดียว
รอบตัวว่างเปล่า.......ไม่มีใคร
คิดถึงบ้าน คิดถึงเพื่อนรัก คิดถึงใครบางคน
ที่รอคอย
บ่อยครั้งที่เฝ้าเพียรถามตัวเองว่า
เมื่อไหร่จะเจอ..ใครคนนั้น
แต่วันนี้ ....ฉันไม่ต้องหาคำตอบนั้นอีกแล้ว
ในวันที่ฉันได้เจอเขา นั่นแหละ คือคำตอบที่ลงตัวที่สุด
จากวันนั้นที่เราได้รู้จักกัน
ฉันมั่นใจว่า เขาคงรู้สึกดีๆกับฉันเช่นกัน
แต่..................................
ตอนนี้...มันเหมือนมีอะไรบางอย่างมาคั่นกลางระหว่างเรา
เขา...ไม่มีเวลามากนัก
ด้วยอาชีพที่ต้องใช้ความเสียสละ ทุ่มเท และอดทน
"เมื่อวานพี่มีผ่าตัดใหญ่"
"อาทิตย์หน้าพี่สอบทั้งอาทิตย์เลย"
ฉันจึงทำได้แค่เพียง แสดงความห่วงใยและ ให้กำลังใจ
บางทีถ้าฉันจะมีความรักครั้งใหม่
ฉันอาจจะต้องรอคอย และอดทนให้มากขึ้น
แต่บางทีฉันอาจจะต้องเดินออกไปจากเส้นทางนั้นในวันใดวันหนึ่ง
"บางที จบแล้วพี่อาจจะเลือกลงใต้" ทำไมฉันจะดูไม่ออก
คนแบบนี้ ลองถ้าไม่พร้อมแล้ว
เขาคงไม่เสี่ยง ดึงใครอีกคนมาลำบากด้วยแน่ๆ
แต่......................
ฉันแค่อยากบอกเค้าว่า
ลองมองกลับมาหน่อยได้มั๊ย
มองให้ดีๆ แล้วจะรู้ว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ต้องการอะไร
ข อเพียงแค่ หัวใจที่จริงใจ เท่านั้นเอง
วันนี้...เขายังไม่พร้อมในทุกๆสิ่ง
วันนี้...ฉันยังไม่ได้รักเขา
วันนี้...เขายังไม่เห็นค่าของฉันซักเท่าไหร่
วันนี้...ฉันยังคงห่วงใยเขาเช่นเดิม
พรุ่งนี้...เขายังคงทำงานหนัก
พรุ่งนี้...ฉันอาจจะเริ่มรักเขา
พรุ่งนี้...เขาอาจเริ่มเห็นค่าของฉัน แต่..ยังไม่ทำอะไร
พรุ่งนี้...ฉันอาจเจอใครอีกหลายๆคน
บางที....ถ้าเขามองมา
บางที....ฉันคงต้องตัดใจ
และบางที...เขาอาจต้องเสียใจ
ในวันหนึ่งที่ฉันเดินจากไป
เพราะฉันเชื่อว่า
คงไม่มีใคร..ทำให้เขาได้..อย่างที่ฉันทำ
ฉันไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น
แม้จะไม่ได้พบเจอเธอ แต่รู้เสมอว่าเธออยู่ตรงไหน และฉันก็รู้ว่างานเธอหนักเพียงใด เธอต้องดูแลใครๆมากมาย
12 กันยายน 2547 10:23 น.
ละอองทราย
"กาสะลอง" คือ ดอกไม้ประจำคณะของพวกเรา
กาสะลองแสนงามยามสดใส เป็นดอกไม้สำหรับประดับฝัน
บนเส้นทางต่างมาพร้อมหน้ากัน ร่วมผูกพันสรรสร้างทางรื่นรมย์
ใช่แล้ว......เราทุกคนต่างมาจากคนละที่
แต่สุดท้ายเราก็ได้มาอยู่ร่วมกัน รวมกันเป็นกาสะลองช่อใหญ่
เพื่อ....................ร่วมกันสรรสร้างสิ่งที่ดีงาม
กลิ่นไม้หอมจะหอมมิยอมสิ้น หากใครยินชื่อลือไกลให้ชื่นชม
ด้วยความรักจากใจนี้แสนภิรมย์ ความเกลียวกลมสามัคคีมิเคลื่อนคลาย
เพลงน้องพี่จะกังวานอยู่นานนัก ทุกคนจะประจักษ์ถึงศักดิ์ศรี
เรามารวมน้ำใจและไมตรี ให้เรามีความรักกันนิรันดร
" กาสะลองล่องลอย ปลิดพลิ้วไปตามลม ให้ลมพาพัดไป ไกล....จากบ้าน"
และก็ช่างบังเอิญจริงๆที่ชีวิตของฉันและใครอีกหลายๆคนมาตรงกับเพลงนี้
พวกเรามีโอกาสได้ร้องเพลงนี้กันมาแล้วหลายครั้ง
แต่ครั้งล่าสุดกลับเป็นครั้งที่ทำให้พวกเราเสียน้ำตากันเกือบทุกคน
คงเป็นเพราะเหตุผลข้อนี้ข้อเดียวคือ ........ เราทุกคน ...... คิดถึงบ้าน
คิดถึงอ้อมอกของพ่อ-แม่
อะไร .....ทำให้ฉันมาได้มาอยู่ถึงที่ที่ไกลบ้านขนาดนี้
ก็คงจะตอบได้แค่เพียงว่า มันคือ ความตั้งใจของ.....ฉันเอง
และฉันก็ไม่เคยคิดจะโทษใคร นอกจากบอกกับตัวเองว่า" ทำให้ดีที่สุด"
"อีกไม่นานหรอก.......ลมก็จะพัดพาพวกเรากลับคืนสู่ในที่ๆจากมา เพียงแต่ว่าเมื่อถึงวันนั้น เราจะกลับไปอย่างภาคภูมิใจเท่านั้นเอง"