28 กรกฎาคม 2549 13:42 น.
ลอยไปในสายลม
"อย่าคิดมากนะ ก้อย ยังไง ชีวิตเราก็ต้องเดินต่อไป แม้ว่าวันนี้ เขาจะไปจากเธอ แต่เธอก็ยังมีฉันคนนี้ยืนอยู่ข้างๆนะ"
คำพูดของปลื้ม ที่พูดกับฉันในวันที่ฉันเลิกกับไตรนั้น มันยังตราตรึงใจฉันมาจนถึงวันนี้
แม้ฉันจะไม่เคยบอกเขา แต่เพราะเขาทำให้ฉันรู้ว่า ฉัน ยังคงมีค่าอยู่ แม้จะไม่ใช่สำหรับไตร แต่ฉันก็มีความหมายสำหรับคนอื่นๆอีกมาก
"ก้อย ยังรักเขาอยู่หรือเปล่า เราแค่อยากบอกว่า หากเธอยังรักเขาอยู่ก็รักต่อไปเถอะ แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เธอรู้ว่าเธอไม่รักเขาแล้ว ขอให้เธอกลับมาหาฉันนะ ฉันจะอยเธออยู่ตรงนี้"
ใต้ต้นไม้ใหญ่ วันนั้น เขาบอกกับฉันก่อนที่เขาจะเดินจากไป ทิ้งให้ฉันนั่งอยู่บนโต๊ะไม้คนเดียว เหมือนเขาต้องการจะบอกว่า เวลายังมีให้ฉันตัดสินใจ นั่นซินะ กว่าที่ฉันจะตัดสินใจได้ มันก็เกือบสายไปเสียแล้ว ฉันเกือบจะต้องเสียเขาไปแล้ว
ฉันมารู้ตัวอีกทีก็เมื่อเราจะเรียนจบ วันนั้น เขาเดินเข้ามาหาฉัน เพื่อจะบอกลา เพราะเขาต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัด เขาบอกให้ฉันไม่ต้องเป็นห่วง เพราะอย่างไรเขาก็ดูแลตัวเองได้ นอกจานั้น เขายังบอกให้ฉันดูแลตัวเองให้ดี ถึงเขาจะไม่อยู่ เธอก็ต้องอยู่ให้ได้ ก่อนไป เขาถามย้ำกับฉันว่า ฉันยังรักไตรอยู่หรือเปล่า วันนั้นฉันเลือกที่จะไม่ตอบ แม้ฉันจะรู้แน่ชัดแล้วว่า ฉันรักปลื้ม ฉันไม่ได้รักไตรแล้ว แต่นั่นแหล่ะ เพราะฉันมัวแต่เงียบ คิด เพื่อนของเขาจึงเดินมาลากเขาไป ฉันกับเขาประสานสายตากันครั้งสุดท้าย
นี่ ฉันจะต้องเสียเขาไปจริงหรือ
ในตอนนั้น ฉันแทบอยากจะร้องไห้เลยทีเดียว ฉันสงสัยว่าทำไมตัวเองไม่ยอมบอกออกไป เพราะเขาอุตส่าห์รอฉันมาตั้งนาน นานมาก นี่ฉันทรมานเขาอยู่หรือเปล่า หรือฉันกำลังทรมานตัวเองกันแน่ แต่นั่นแหล่ะ เขาไปแล้ว เขาเดินจากไปแล้วจริงๆ
สามปีแล้ว ที่เขาหายหน้าไป ปลื้มไปทำงาน แล้วไม่กลับมาอีกเลย จนฉันรู้สึกใจไม่ดี ฉันไม่รู้เลยว่าเขาจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร เขาจะอยู๋กับใคร หรือเขาจะมีคนใหม่ไปแล้ว ฉันไม่รู้ ฉันรู้แต่ว่า ฉันจะรอเขาอยู่อย่างนี้ เรื่อยไป ใช่ จะรอ แต่แล้วอะไรบางอย่างก็ดึงฉันขึ้นมาพบกับความจริง ความจริงที่มันช่างเจ็บปวดยิ่งนัก
ปลื้ม เขามากับผู้หญิงคนใหม่ หัวร่อต่อกระซิกกันจนหน้าอิจฉา สามปีที่ไม่ได้เจอกัน สามปีที่เขาเดินจากไป เขายังจะจำผู้หญิงคนนี้ได้หรือไม่ แล้วนี่ฉันเป็นตัวอะไร ที่ยอมให้เขามาเหยียบย่ำหัวใจฉัน
ในห้างสรรพสินค้าวันนั้น ฉันไปกับเพื่อนของฉันเพื่อไปซื้อเสื้อผ้า และที่นั่น ฉันก็ได้พบกับปลื้ม ฉันเห็นเขาครั้งแรก ฉันดีใจมาก กำลังคิดที่จะเดินไปหาเขา แต่แล้ว ผู้หญิงคนหนึ่งกลับเดินมากอดแขนเขาไว้ ฉันไม่รู้จะทำอย่างไร วินาทีนั้น ฉันตัดสินใจหันหลังกลับ ฉันไม่อยากเห็นภาพที่มันาดตาบาดใจฉัน ฉันไม่รู้ว่ามีใครตามฉันมาหรือไม่ รู้แต่ว่า ฉันต้องเดินไปให้ไกลไกลจากที่แห่งนั้น
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น ไหนเขาบอกว่าเขาจะรอฉัน ทำไมล่ะ แล้วทำไม"
ฉันได้แต่ร่ำร้องอยู่ในใจ ยังไม่ทันที่จะเดินออกจากห้างไป ก็มีมือของใครคนหนึ่งมาจับมือของฉันไว้ ฉันไม่รู้ว่าฉันเดินเร็วแค่ไหน แต่พอรู้ตัวอีกทีก็เมื่อโดนดึงไว้ ฉันรู้เหนื่อยเหลือเกิน เมื่อหันไปก็พบว่า คนที่จับฉันไว้ก้คือ ปลื้ม
แต่ฉันไม่มีแรงแม้แต่จะมองหน้าเขา ตอนนี้ฉันรู้เพียงว่า หยดน้ำมันไหลอยู่บนใบหน้าฉันมากมาย แล้วอยู่ดีดี โลกทั้งโลกก็มืดมนลง
..
ฉันตื่นมาอีกที พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องนอนของใครคนหนึ่ง มันเป็นห้องที่ดูอบอุ่น ฝาผนังมีรูปวิวหลายรูป แต่ที่ทำให้ฉันสะดุดก็คือ ภาพของผู้หญิงคนหนึ่ง ติดอยู่ที่หัวเตียง นั่น มัน รูปของฉันนี่นา ทำไมมาอยู่ที่นี่ แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะมองอะไรต่อไป ปลื้มก็เดินเข้ามาทรุดลงข้างเตียงตรงที่ฉันกำลังนอนอยู่ ฉันมองเขา เขามองฉัน สุดท้าย เขาพูดขึ้นมาว่า
"รู้สึกดีขึ้นหรือยัง ก้อย" น้ำเสียงเขายังห่วงใยฉันเหมือนเดิม แต่ว่า ภาพเขาก็ใครคนหนึ่งผุดขึ้นมา ทำให้ฉันไม่อาจที่จะทนอยู่กับเขาได้ต่อไป ฉันไม่ตอบเขา แต่กลับลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินออกจากห้องไป แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะเดินออกไป เขาก็กลับดึงฉันเข้าไปกอดไว้ มันเป็นความรู้สึกอบอุ่นที่ฉันสัมผัสได้ มันช่างอบอุ่นเหลือเกิน ฉันโหยหาอ้อมกอดนี้มานานแล้ว
"ก้อย ก้อยเกลียดผมแล้วหรือ ทำไมไม่พูดกับผมสักคำล่ะ ผมทำอะไรผิด ผมขอโทษนะ ขอโทษที่ไม่ติดต่อมาเลย สามปีที่ผ่านมาผมคิดถึงก้อยมาก แต่ผมม่รู้ว่าก้อยคิดอย่างไร ผมถอย เพื่อรอโอกาส รอที่จะกลับมาหาก้อยอีกครั้ง แล้วมันก็เป็นจริง เหมือนฟ้าบันดาล เราได้พบกันอีก ผมคิดถึงคุณมากเลยรู้ไหม.." เขาพร่ำพูดถ้อยคำต่างๆ ออกมา จนฉันรู้สึกว่าตัวเองได้ทำร้ายคนที่รักฉัน แต่สิ่งที่ฉันเห็นล่ะ มันคืออะไรกันแน่
"แล้ววันนี้ คนที่เดินกับปลื้มที่ห้างนั่นใครคะ" ฉันถามในสิ่งที่ฉันอยากรู้ เพราะแม้ฉันจะรู้ว่าเขารักฉัน แต่หากมีอีกคนที่เขารัก ฉันก็จะไป
"ผู้หญิง ปอย น่ะเหรอ คุณอย่าบอกนะว่าคุณจำปอยไม่ได้" เขาปล่อยฉันออกจากอ้อมกอด แต่จับฉันแขนทั้งสองข้างของฉันไว้แทน
ปอย ปอยเป็นน้องสาวของเขา แต่ฉันเจอปอยแค่ไม่กี่ครั้ง ฉันก็เลยจำไม่ได้ ที่แท้เขามากับน้องสาวเขาเองหรือนี่ แล้วที่ฉันทำอะไรลงไป ฉันหึงคนที่ไม่ควรหึงหรือ
"ก็ .. ฉันนึกว่าคุณ เอ่อ มีใครไปแล้ว แล้วฉันก็จำปอยไม่ได้ด้วย"
"นี่คุณหึงผมหรือ ก้อย" เขายังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของฉัน ฉันได้แต่อายที่เข้าใจเขาผิด ฉันผิดอีกแล้วเหรอเนี่ย
"ก็ คือ ฉันรักคุณนี่" นี่เป็นคำพูดสุดท้ายของฉันจริงๆ เพราะหลังจากนั้น เขาก็กอดฉัน แล้วก็พร่ำขอบคุณฉัน ขอบคุณฟ้า ขอบคุณอะไรต่อมิอะไรมากมาย จนฉันไม่มีโอกาสได้พูดอะไรอีกเลย
แม้มันอาจจะเป็นเรื่องราวที่ธรรมดาสำหรับใครต่อใคร แต่สำหรับฉันแล้ว มันเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุดสำหรับฉัน
อย่างน้อย ฉันก็ได้รู้ว่า ครั้งหนึ่งในชืวิต ฉันจะมีคนที่รักฉันจริงสักคน
ฉันรักเธอ ปลื้ม
............
24 เมษายน 2549 10:21 น.
ลอยไปในสายลม
ในชีวิตฉัน ฉันไม่เคยสนใจสินค้าเเหล่านั้น ที่มันอยู่ตรงหน้าฉัน
ไม่เคยให้ความสำคัญกับอะไรเลย
ซื้อ ก็ทิ้งมันไป เบื่อ ก็ซื้อใหม่
เพราะคิดว่าอย่างไรซะ มันก็ไม่มีคุณค่าให้ต้องเก็บรักษาอะไร
แต่มาวันนี้ ฉันพึ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่า ฉันก็ไม่ต่างอะไรกับสินค้าเหล่านั้น
.............................
"เราเลิกกันเถอะนะ" เขาเอ่ยกับฉัน
"ทำไมล่ะ ทำไม" ฉันถามออกไป ด้วยความตกใจ
"เราเข้ากันไม่ได้ อีกอย่างตอนนี้ฉันก็ไม่ได้รักเธอแล้วด้วย"
"ไม่จริงอ่ะ เรารักกันนี่นา"
"เธอพูดเข้าใจเหรอไง หนิง ฉันเบื่อเธอแล้ว เธอมันก็เดิม ไม่มีอะไรแปลกใหม่ อีกอย่างตอนนี้ ฉันก็กำลังคบอยู่กับน้องส้มด้วย เธออย่ามายุ่งแล้วกัน เราจบกันแล้วตั้งแต่นี้เป็นต้นใหม่" เขาพูดออกมาหน้าตาเฉย ไม่สะทกสะท้านอะไรเลย
"ไม่จริง" ฉันได้แต่ยืนร้องไห้ แล้วก็วิ่งเข้าไปกอดเขาไว้
"อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ เธอไปไหนก็ไปเลย เธอไม่มีความหมายกับฉันแล้ว ไป๊!!!!" เขาไล่ฉันยังไม่พอ ยังผลักฉันล้มลงไปกองกับพื้นอีกต่างหาก
เขาเดินจากไปแล้ว ฉันได้แต่นั่งร้องไห้เพียงลำพัง อยุ่ๆ กระป๋องโค้กที่ใครก็ไม่รู้โนมันลงก็มาตกตรงหน้าฉัน ในใจฉันคิดว่า
'มันก็คงเหมือนฉันตอนนี้ซินะ ฉันคงไม่ต่างอะไรกับสินค้าชิ้นหนึ่ง ที่ตอนแรกซื้อ มันมีคุณค่า น่าทะนุถนอม แต่พอมันหมดคุณค่า มันก็ไม่ต่างอะไรกับขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น ไม่ต่างกันเลย'
ฉันรู้แล้วล่ะ ว่า คนเรา ไม่ได้มีอะไรเลิศเลอไปกว่าสินค้าที่เราใช้เลย ทุกคนมองคนอื่นเหมือนกับคนอื่นเป็นสินค้าไปหมด
จะมีใครสักคน ที่จะมองมนุษย์แตกต่างจกาสินค้า
หากมีฉันขอสักคนได้ไหม
ขอให้มาอยู่เป็นเพื่อนกัน
ต่อจากนี้ ฉันคงไม่ทิ้งกว้างสินค้าที่ฉันซื้อมาอีกแล้ว
ฉันจะต้องดูแลรักามันอย่างดี จนกว่ามันจะถึงเวลาของมันเอง
ไม่ให้มันต้องเหมือนฉันในตอนนี้
ที่ถูกทิ้งด้วยคนที่ฉันรักมากที่สุด
.........
23 เมษายน 2549 15:52 น.
ลอยไปในสายลม
"ไม่ว่าเธอจะเป็นอย่างไร เธอคือคนที่ฉันเลือก เลือกที่จะรัก และจะรักตลอดไป"
"แอน เราเลิกกันเถอะนะ"
นี่เป็นประโยคเดียวที่เขาพูดกับฉัน
ฉันไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเพราะเหตุผลอะไร เขาถึงบอกเลิกฉัน
ฉันทำผิดอะไรกับเขามากนักหรือ
ฉันทุ่มเท่ให้เขาทุกอย่าง
เขาต้องการอะไร ฉันหาให้เขาหมด
แต่มาวันนี้ เขากลับทำแบบนี้กับฉัน
นี่มันอะไรกัน
"เอ ทำไมล่ะ แอนทำอะไรผิด เอถึงบอกแบบนี้" ถ้อยคำที่พูดออกไป พร้อมทั้งน้ำเสียงที่สะอื้นของฉัน
"ไม่ แอน ไม่ผิดหรอก แต่เราคงไปด้วยกันไม่ได้อีกแล้ว หวังว่าแอนคงเข้าใจนะ"
แค่นี้จริงๆ เพราะเขาพูดจบ เขาก็เดินจากไป
ไม่แม้แต่จะหันมามองฉันสักครั้ง
ฉันต้องเสียเขาไปจริงๆเหรอ
2 ปีที่คบกันมา ไม่มีความหมายกับเลยใช่ไหม
ไม่มีความหมายกับเขาเลยใช่ไหม
ฉันไม่เข้าใจเขาเลยสักครั้ง ว่าเขาคิดอย่างไรกันแน่?????
..............................................
"แอน เราเลิกกันเถอะนะ"
ผมพูดคำนั้นออกไป ทั้งๆที่ผมก็เจ็บ เจ็บเหลือเกินที่ต้องพูดมันออกมา
ผมไม่ได้บอกเหตุผลเธอ
เธอไม่ผิดเลย
เธอทุ่มเทให้ผมทุกอย่าง
เธอตามใจผมทุกอย่าง
แต่วันนี้ ผมกลับใจร้ายกับเธอ
"เอ ทำไมล่ะ แอนทำอะไรผิด เอถึงบอกแอนแบบนี้" นั่นซินะ เธอทำอะไรผิด
เธอไม่ผิดเลยสักนิด ผมเอง ผมเองที่ผิด
ผิดที่ไปทำเล-ว ผิดที่ไม่ซื่อสัตย์กับเธอ
ผิดที่หลงระเริงไปกับใครอีกคนที่ไม่ใช่เธอ
"ไม่ แอน ไม่ผิดหรอก แต่เราคงไปด้วยกันไม่ได้อีกแล้ว หวังว่าแอนคงเข้าใจนะ"
บางทีมันก็คงจะดี หากเธอได้เจอกับคนที่เขาเหมาะสมคู่ควรกับเธอ
แต่ผมก้ยังรับไม่ได้ ยิ่งผมเห็นน้ำตาของเธอ ผมทำใจไม่ได้เลย
ดังนั้น ผมจึงเลือกที่จะเดินจากมา จากมาพร้อมกับน้ำตาลูกผู้ชาย
ผมจะไม่ยอมให้เธอต้องมาแปดเปื้อนกับผม
ผมต้องยอมรับในสิ่งที่ตัวเองกระทำลงไป
.............................................
" แอน เธอรู้หรือเปล่า เอ เขาจะแต่งอาทิตย์หน้าแล้วนะ"
เหมือนฟ้าผ่าลงมาตรงหน้า 'เอกำลังจะแต่งงานหรือ' เธอไม่ได้พูดอะไรอีกเลย ยืนอึ้งจริง
ไหนที่เขาบอกว่าเขารักฉัน
ไหนที่เขาเคยบอกว่า เขาไม่มีใคร
ไหนที่เขาเคยบอกว่า จะอยู่กับฉันตลอดไปยังไงล่ะ
ทำไม?????
"ดีใจด้วยนะ เอ"
"แอน" ผมได้แต่ยืนอึ้ง ไม่คิดว่า เธอจะมาในงานวันนี้
"ไม่เห็นบอกแอนเลยล่ะ ว่าเอจะแต่งงาน ใจร้ายมากเลยนะ" ผู้หญิงตรงหน้าผมเขายิ้มให้ผม แต่ผมรู้ว่า ข้างในเขาเจ็บเพียงไหน
"เอ ขอโทษ" ผมได้แต่ก้มหน้ายอมรับความผิดครั้งนี้
"ขอโทษทำไม เอไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ แอนเสียอีกที่อาจทำผิดต่อเอ ทำให้เอ เลือกที่จะไป ทำให้เอบอกเลิก เพราะแอนทั้งนั้น" ยิ่งพูดเธอยิ่งร้องไห้ ผมทนไม่ได้ ผมจึงได้แต่ดึงเธอมากอด ปลอบโยนอย่างที่เคยทำทุกครั้ง แม้ครั้งนี้ มันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็ตาม
ผมจะไม่มีวันยอมให้เธอ ต้องเสียน้ำตาให้กับคนอย่างผมอีก
"แอน อย่าร้องไห้นะ เอขอร้อง เอไม่อยากเห็นแอนร้องไห้อีก นิ่งซะนะคนดีของเอ ฟังเอนะ แม้ว่าเอกับแอนจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่เออยากบอกแอนไว้ว่า ในนี้ ในใจของเอ มีเพียงแอนเท่านั้นที่เป็นที่หนึ่ง มีเพียงแอนเท่านั้นที่เอ รัก แม้เอจะแต่งงานแล้ว แต่เอก็จะรักแอนตลอดไป เพราะ แอนเป็นคนที่เอเลือกแล้วที่จะรัก เลือกที่จะรักอยู่อย่างนี้ ตลอดไป"ผมพูดในสิ่งที่เป้นความจริงที่สุดเท่าที่ผมเคยพูดมันออกมา
เธอสบตาผม สายตาเต็มไปด้วยความรักเปี่ยมล้น รวมถึงความสับสนที่เห็นในสายตาของเธอ
"อย่าถามว่าทำไม เอต้องแต่งงานกับเขา อย่าถามว่าทำไมเอถึงบอกเลิก ขอให้แอนรู้เอาไว้ว่า เอ จะไม่ยอมเป็นคนเล-ว รักกับแอน โดยทิ้งเขา แต่เออยากจะเป็นคนดีที่แอนเห็นเสมอ ว่าเอเป็นคนมีความรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ แม้มันไม่ใช่ความสุข แต่มันเป็นสิ่งเดียวที่เอจะทำได้ตอนนี้ เอเลือกที่จะรับผิดชอบเขา แต่เอเลือกที่จะรักแอนตลอดไป เข้าใจเอนะครับคนดี นิ่งซะนะ" แล้วมือผมก็ช่วยเกลี่ยน้ำตาบนแก้มเนียนนั้นอีกครั้งก่อนที่จะตัดใจปล่อยเธอไป เธอเงียบ ผมเงียบ ผมรู้สึกว่าบรรยากาศ มันช่างวังเวงเหลือเกิน
"เอ ขอบคุณนะ" ฉันพูดกับเขา ในใจฉันเริ่มเข้าใจอะไรหลาย ๆ อย่าง เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องทำเช่นนั้น แม้ฉันจะสับสนตกใจ แต่ฉันก็ดีใจที่เขาเลือกทำเช่นนี้ เขาทำถูกแล้วล่ะ เพราะหากเขายังคบกันฉันอยู่ ถ้าฉันมารู้ทีหลัง ฉันคงรับไม่ได้
"เอ ฟังแอนนะ แอนไม่เคยโกรธเอเลย เพราะถึงอย่างไร เอก็คือคนที่แอนเลือกที่จะรักเหมือนกัน แอนเข้าใจเอทุกอย่างนะ และก็ดีใจมากด้วยที่เอเป็นคนรับผิดชอบ แอนจะรักเอตลอดไป และเอก็จะอยู่ในใจแอนตลอดไป ไม่มีทางเปลี่ยน แม้วันนี้เอจะมีใคร หรือวันข้างหน้าแอนจะมีใคร แต่เราสองคนก็อยู่ในใจของกันและกันตลอดไป เพราะยังไง เราก็เลือกที่จะรักกัน ขอให้โชคดีกับความชีวิตนะ" แล้วฉันก็ยิ้มให้เขา อย่างที่ไม่เคยยิ้มให้เขามาก่อนเลย ตั้งแต่ที่บอกเลิกกับเขา
ฉันหันหลังกลับ เดินจากเขามา ฉันไม่รู้ว่าเขาหยุดยืนมองฉันหรือไม่
ฉันรู้เพียงว่าตอนนี้ หัวใจของฉันนั้นอิ่มเอมกับความรักของเขาแล้ว
แม้ฉันจะไม่ใช่คนที่เขาเลือกที่จะแต่งงานด้วย
แต่อย่างน้อย ฉันก็คือ คนที่เขาเลือกที่จะรัก... ตลอดไป
...............
22 เมษายน 2549 11:34 น.
ลอยไปในสายลม
"คุณคะ ทำไมคุณถึงชอบมาที่นี่จัง"
"ผมชอบที่นี่ เพราะคุณไง"
"เพราะฉัน หรือ?????" สีหน้าไม่เข้าใจของคนรัก ทำให้โอมต้องอธิบายเพิ่ม
"เพราะที่นี่ เป็นที่ที่ผมพบคุณเป็นครั้งแรก
ที่นี่เป็นที่ที่เรารักกัน ผมบอกรักคุณ คุณบอกรักผม
ที่นี่เป็นที่ที่สายลมนำพาผมมาพบคุณ
ที่นี่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตผม
คุณเข้าใจไหม" โอมมองหน้าคนรักที่บัดนี้ ทำได้เพียงแต่หลบตาเขาอย่างเอียงอาย
เขาเชยคางของเธอขึ้นมาเพื่อมองหน้าเขา
"และผมก็อยากบอกคุณว่า ผม รัก คุณ และผมก็จะรักคุณตลอดไป"
หญิงสาวทำได้เพียงยิ้มและพยักหน้ารับ ไม่มีคำกล่าวใดหลุดออกมาจากปากของหญิงสาว
มีเพียงดวงตาที่เปิดม่านแห่งความรักหมดหัวใจ
ไม่ต้องได้รับคำตอบ แต่เพียงสบตาโอมก็รู้แล้วว่า
คนตรงหน้ารักเขาไม่น้อยกว่าที่เขารักเธอ
เธอคือดวงใจของเขา
โอมดึงหญิงสาวเข้ากอดไว้แนบอก
"ผมจะไม่ยอมให้เราแยกจากกัน และผมก็จะไม่ยอมให้คุณได้รับอันตรายใดใดเด็ดขาด ผมสัญญา"
หญิงสาวยิ้มอย่างยินดีในคำสัญญานั้น คำสัญญาที่มีเพียงสายลมเท่านั้น ที่เป็นประจักษ์พยานในครานี้
....................
.............
......
...
.
แม้กาลเวลาจะผ่านเนิ่นนานไปสักเท่าไหร่
แต่สถานที่แห่งรักของคนทั้งคู่
ก็ยังคงอบอวลไปด้วยสายลม สายลมที่คอยเป็นพยานแห่งรัก
ให้กับคนคู่แล้วคู่เล่า
รักในสายลม ที่ใครๆคิดแต่เพียงว่า จะได้รับความสุขจากมันเท่านั้น
ไม่มีใครเคบล่วงเลยว่า แท้จริงแล้ว สายลมนั้นยินดีหรือไม่
ที่จะต้องเป็นพยานรักให้ใครต่อใคร
ไม่มีใครเข้าใจสายลมเลย รักที่มีในสายลมนั้น
ใช่จะสุขก็หาไม่
แท้จริงแล้ว มันเป็นความสุขที่แสนจะโศกเศร้าของเจ้าสายลมนั้น
เพราะสายลมต้องทำหน้าที่นี้ ทำให้สายลมมิอาจทำตามที่ใจเรียกร้องได้
มิอาจพัดพาไปยังที่อื่นได้
นอกจากเป็นพยานอยู่ ณ ที่นี้
ใครเล่าจะเข้าใจ
จะมีใครเล่า
....................................
"ต้นไม้เอ๋ย เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ได้มาเสียนานเลย สบายดีไหม สายลมเพื่อนรัก เจ้าล่ะ หลับสบายดีไหม ขอโทษนะ ที่ไม่เคยมาเยี่ยมเลย เราไม่ได้ตั้งใจ ตอนนี้เราไม่เหลือใครอีกแล้ว โอม เขา... เขา... .... ... ช่างมันเถอะนะ สัญญาที่เขาเคยให้ไว้ ฉันเคยรู้สึกว่ามันดี มันวิเศษ มัน... แต่ตอนนี้ไม่แล้วล่ะ มันไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันต้องการเลย สายลมเอ๋ย ครั้งหนึ่ง เจ้าเคยเป็นพยานแห่งรักใช่ไหม .... งั้นครั้งนี้ ขอให้สายลมช่วยเป็นพยานทีว่า ณ ที่แห่งนี้ จะเหลือเพียงความทรงจำสำหรับเราเท่านั้น เท่านั้นเอง ลาก่อนนะ สถานที่แห่งความทรงจำ"
..........................................
แล้ววันเวลาที่ผ่านไป ความรักที่เคยมี กลับแปรเปลี่ยนไป
แล้วสายลมจะทำอย่างไรเล่า นอกจากจะรับฟัง
อยากที่จะหลีกหนี ไม่อยากที่จะรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น
พยานแห่งรักหรือ
มันไม่มีจริงหรอก มันก็แค่เพียงสิ่งที่มนุษย์ใช้บังหน้าเพื่อแสวงหาความสบายใจเท่านั้น
สายลม อย่างไรก็คือ สายลม ที่ไม่มีจิตใจ ไม่มีชีวิต สำหรับมนุษย์อยู่แล้ว
สายลมเพิ่งตระหนัก เดี๋ยวนี้เองว่า
"เขานั้นก็แค่อะไรสักอย่างหนึ่ง ซึ่งเวลาคนสุขก็ดึงเขาเข้าไปเกี่ยวด้วย เวลาทุกข์ก็ดึงเขาเข้าไปเกี่ยวด้วย เวลาที่รักกันแล้วก็ห่างหายไป ไม่สนใจไยดี นี่ล่ะหนา ความไม่แน่นอนของมัน โธ่ สายลมเอ๋ย เจ้าก็แค่เศษธุลีของเขาเท่านั้น"
และแล้ว เมื่อสายลม รู้ตัวเองดี เขาจึงไม่อยากฝืนตัวเองว่าจะต้องเป็นพยานรัก หรืออะไรอีกต่อไป แต่เลือกที่จะทำตามที่ตัวเขาต้องการ นั่นคือ ล่องลอยโบกโบยไปตามแต่จะต้องการ อารมณ์ดีก็สร้างความเย็น อารมณ์ร้อนก็กลายเป็นพายุ อย่างนี้เรื่อยมา จนในที่สุด ก็ไม่มีใครสามารถยื้อยุดสายลมให้เป็นพยานรัก หรือยึดไว้เป็นหลักพักพิงได้อีกตลอดกาล
13 มีนาคม 2549 11:45 น.
ลอยไปในสายลม
เวลาที่ผ่านไป ฉันเคยคิดว่า ทุกอย่างคงจะสวยงาม
แต่ฉันก็ได้รู้ว่า ความรักมันไม่ได้เป็นอย่างที่เราฝันเสมอไป
ไม่มีความรักใดที่จะคงไว้ซึ่งความสุข
หากรักนั้น เกิดจากความอยากลอง ความไม่แน่ใจของคนๆนั้น
ใช่ซิ ฉันก็รู้อยู่เต็มอกว่า ตัวเขาเอง เขายังไม่แน่ใจแม้แต่ว่า เขาชอบฉันหรือเปล่า
ฉันมันคิดมากไปเองแท้ๆ ฉันพยายามปรับตัวทุกอย่าง
พยายามทำทุกทางที่เขาจะพอใจ
แต่มันก็คงเป็นได้แค่ในระยะแรกๆเท่านั้น
หลังจากนั้น ทุกอย่างก็เหมือนเดิม เหมือนทุกครั้ง
ทำไมฉันจะต้อง เจอเรื่องราวอย่างนี้ด้วย
และตอนนี้ ฉันก็รู้สึกได้ว่า กำแพงระหว่างเรามันก่อตัวหนาขึ้นทุกที ทุกที
และในวันนั้น ฉันก็ได้รู้ว่า สิ่งที่เขาทำทุกอย่าง นั้น มันคืออะไร
บางทีก็รู้สึกดีที่ได้อยู่กันสองคน
แต่บางทีก็เบื่อ ไม่อยากคุยด้วย รำคาญ
เรารู้แล้วล่ะว่าเรา ไม่สมควรเลยที่จะมีแฟน
อย่างไรเสีย เราก็ทิ้งนิสัยเดิมของเรา ไม่ได้
ขอโทษนะ แต่อย่าเสียเวลากับเราอีกเลย
เราคงไม่ดีพอที่เธอจะมาตั้งความหวังด้วย
ขอโทษที่เคยบอกว่าจะไม่ทำให้เธอร้องไห้
แต่ก็รักษาสัญญาไว้ไม่ได้
ขอให้เรากลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้ไหม
สิ่งที่เขาบอกกับฉันมันก็ทำให้ฉันรู้แล้วล่ะว่า สิ่งที่ฉันทำมันไม่มีประโยชน์กับเขาเลย
ขอบคุณมากนะ ที่ทำให้เราว่ารักมันเป็นยังไง
เราเคยคิดว่า เราจะไม่มีความรัก
แต่พอเรามาเจอเธอ เรากลับรู้ว่ารักมันเป็นอย่างไร
แม้เราจะไม่ยอมรับว่าเรารักเธอ เราแค่เพียงแต่ชอบเธอเท่านั้น
แต่สิ่งที่มันเกิดขึ้น มันคงทำลายความรู้สึกเกี่ยวกับผู้ชายลงไปมากเลยทีเดียว
ครั้งแรก เราไม่เคยเสียใจ มากมาย
แต่ครั้งนี้กลับเจ็บลึก เจ็บเหลือเกิน
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะเยียวยารักษาได้
เดี๋ยวคบ เดี๋ยวเลิก ฉันก็เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่า
จะตัดใจจากใครสักคน มันไม่ได้ทำกันง่ายๆ
รักแล้วมันก็จำ แม้บางครั้งฉันจะบอกใครต่อใครว่าไม่เป็นไร
แต่หัวใจของฉันมันกลับยิ่งตอกย้ำว่า เธอไม่ลืมเขา เธอไม่ลืมเขา
นั่นซินะ หากเป็นคุณ คุณก็คงไม่ลืมหรอก ว่าไหม
เส้นทาง สายสุดท้ายของฉันมันจะจบอย่างไร
ฉันก็ไม่อาจรู้ได้ แต่สิ่งที่ฉันรู้ในตอนนี้ก็คือ
แม้ว่าความรักฉันจะไม่สมหวัง แต่ฉันไม่มีวันยอมแพ้ต่อโชคชะตาเด็ดขาด
ชีวิตของฉันยังต้องก้าวไป ยังมีสิ่งอื่นๆ อีกมากที่กำลังรอฉันอยู่
ฉันจะไม่จบปรักอยู่กับอดีตเด็ดขาด
ขอให้ช่วงเวลาดีดีจงกลับมาหาฉันอีกครั้ง
ฉันจะรอวันนั้น
วันที่ เส้นทางของฉัน จะมาถึงจุดจบ เสียที
ฉันจะรอ.
แม้ในวันนี้ ไม่มีเส้นทางที่หวังไว้
แต่สองเท้ายังก้าวไป ด้วยใจมุ่งมั่น
ฉันจะไม่ท้อ รอว่าสักวัน
มันจะเป็นวันของฉัน ที่ฉันเดินไปสุดทาง
.