21 มกราคม 2554 18:44 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
คนึงยามโพล้เพล้รักเห่จาก
มองอีกฟาก..ฟ้าสลัวมัวใจหาย
โอ้ตัวเราหงานักเมื่อรักคลาย
แคลงแหนงหน่ายทิ้งรอยคล้อยอาลัย
ทั่วแผ่นพื้นธรณีแห่งนี้หนอ
เคยเคลียคลอจมรักมิผลักไส
ข้ามวันคืนตื่นพบสบอำไพ
สมัครใจ...เป็นทาสทุกหยาดอณู
มาบัดนี้ทอดทิ้งนาแล้วลาหาย
เหลือกลิ่นกายสาบสากที่ลากถู
หยาดเหงื่อไคลไหลรินสิ้นฤดู
ไปไกลกู่เกินหวัง...คืนรังรอ
ปลักรัญจวนหวนให้เฝ้าใฝ่หา
มหิงสาหนึ่งนั้นทุกวันหนอ
ดินเริ่มกรอบตอบแห้งแล้งวันรอ
จะอยู่ต่อเช่นไร..ไม่รู้เลย...
...แบบว่า...ไม่รู้สิ...มาวววว
20 มกราคม 2554 18:04 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
มองดูจันทร์ชันแสงทั่วแหล่งหล้า
พลันนัยน์ตาก็อาบซึ้งตรึงเสมือน
โสมโลมดาวพราวแสงส่องแจ้งเตือน
ราวออดเอื้อนแสงละไมให้ชิดเชย
ยิ่งยามพบสบเนตรดั่งเจตน์แจ้ง
ว่าสำแดงดื้อรั้นจนหวั่นเผย
ว่าหวังคุ้นครุ่นจิตคิดเกินเลย
กว่าที่เคยรู้จัก...อยู่พักนาน
ดวงจันทราอาทรสะท้อนแสง
อย่าหน่ายแหนงถ้อยคำที่พร่ำขาน
เรียกดวงขวัญคงอยู่คู่เนาว์นาน
อย่ารีบรานรอนจากพรากลาไกล
มองจันทราคราใหนก็ได้แจ้ง
รูปรอยแฝงปลิวคว้างสว่างไสว
มาบรรจบพบร่างที่หว่างใจ
ดวงหทัย..ได้สุนทรีย์ศรีสมบูรณ์
...แบบว่า......จโกระมาเองครับ