2 มิถุนายน 2553 19:35 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
ช้อนกลีบสวยที่รวยรินกลิ่นเกษร
ด้วยสองกรบรรจงชมภิรมย์เสมือน-
หนึ่งภูมรินทร์บินร่อนเทียวเปลี่ยวแรมเดือน
เกือบคลาดเคลื่อนได้กำซาบ...กุหลาบไพร
เพียงสีสันพลันนิมิตสถิตซ้อน
ประสงค์ซ่อนซึ่งมนตราพาหลงไหล
ละอองว่อนกร่อนเนื้อเจือมนต์ใด
ประหลาดใจในรูปรอยน้อยภูมรินทร์
จะขืนขัดยิ่งเร่งรัดในรูปสวาท
ราวทวยทาสต้องถูกหน่วงถ่วงกระแสสินธุ์
สูญสดับสิ้นแดแลพังพิน
เพียงยลยินเสน่ห์ลอยสร้อยมาลี
โอ้ว่าเอ๋ยกุหลาบงามทรามสงวน
ช่างเชื้อชวนให้หลงลมถมทาสี
เจ้าสะคราญผ่องสกาวน้าวมนตรี
ผาดผ่านฤดีก็หลงเพลิน...เกินห้ามจินต์
...แบบว่า..ชอบดอกไม้อะครับ
1 มิถุนายน 2553 13:05 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
สิ้นเสียงสายสีดีดสังคีตสดับ
ที่กล่อมขับเคียงเรือนแล้วเลือนหาย
จ้องราตรีศรีกระจ่างดาวพร่างพราย
เปล่งประกายแลสลอนบ้างซ่อนเมฆา
พลันลมเอื่อยเรื่อยไหลไหวเส้นขน
ไหวพัดวนตวัดเน้นเส้นเกศา
ไปปลิวปกคิ้วคอล้อกายา
ไซร้ขอบตายั่วกระซิบกระพริบถี่
หริ่งเรไรประสานเสียงสำเนียงเหมาะ
ยิ่งยั่วเยาะจิ้งหรีดไพรให้ไหวหนี
การเวกรับกู่ร้องก้องราตรี
ปลอบปฐพีให้หลงเคลิ้มเยิ้มภิรมย์
เขียดจะนาตั้งท่ารอต่อประสาน
ที่หน้าลานระงมก้องร้องประสม
ฝนหยาดแล้วเสียงเปาะแปะแตะผืนพรม
ทอดอารมณ์ถมสำเนียงเสียงเสนาะนัก
.แบบว่า อยากจะทอดอารมณ์