29 กรกฎาคม 2552 17:01 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
จดรอยจำคราก่อนตอนเริ่มรัก
รอยฟูมรักที่รักสองครองเสน่หา
รอยยังอุ่นกรุ่นสรรพางค์กลางอุรา
ชื่นหนักหนาคราคิดหวลชวนติดตรึง
รอยไม่เหมือนว่าจะร้างระหว่างนั้น
หากแค่ฝันรอยทำไมหายซาบซึ้ง
หรือรอยจำถลำไถลไกลรำพึง
รอยจาก..จึงเริ่มเด่นชัดมามัดใจ
เหตุนี่หนอรอยใจจึงได้เจ็บ
เพราะถูกเหน็บจากรอยจำย้ำเงื่อนไข
ทิ้งรอยทางร้างละห้อยรอยอาลัย
สลัดรอยใจให้จมซากขวากติดทรวง
รอยเจ้าเอยมาเปิดเผยให้คิดมาก
เหลือรอยจากไว้ทำไมให้คิดหวง
ลบอาลัยแต่ไว้รอยเหมือนคอยลวง
ใจหรือล่วงพ้นรอย...ที่คอยผลาญใจ..อิอิ
...แบบว่า
25 กรกฎาคม 2552 13:17 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
จู่จู่..ความหวังก็พังสลาย
ขาดเพื่อนกายที่หมายชิดเสน่หา
มิอาจชื่น..คืนกลับซึ้ง...ตรึงกานดา
เจ้าน้ำตาก็กระไรมาไหลนอง
ดูดู๊เถิด..หัวใจที่ไร้รัก
ไม่น่ารักให้อยากเห็นเป็นเจ้าของ
ไม่อาจยื้อให้ใครใครมาใฝ่ปอง
จำทนหมองอยู่เดียวดายในสายลม
ลมหนอลมก็มาซัดสะบัดทิ้ง
ให้ใจยิ่งเหินลอยพลอยขื่นขม
กลั้วความช้ำความระกำซ้ำระทม
หลุดสายลมจมนทีที่เชี่ยวไหล
นทีเอย...เจ้าไม่เคยจะซ้ำซาก
ไหลพัดลากจนซากคว้างสุดหว่างใหน
ซากไหลเลี้ยวเกี่ยวกระชากกับรากไพร
จึงหยุดไว้ให้ซากแห้งแล้งแดดเลีย
แดดหนอแดด..มาแผดร้อนจนกร่อนทั่ว
ยิ่งหวาดกลัวอยู่เดียวดายให้ใจเสีย
ยามนี้แล้งจนแห้งกรอบแถมตอบเพลีย
ฟ้าสั่งเสียด้วยน้ำฝนหล่นท่วมใจ
ฝนเจ้าเอย...หล่นมาเลยไม่ปราศรัย
บ่าท่วมใจท่วมอุราพาหมองไฉน
หล่นปานว่าจะหมดฟ้าสุราลัย
ท่วมทะเลไกลจนไม่เหลือเจือความเค็ม
ทะเลเอย..โปรดอย่าเย้ยและถากถาง
ระหว่างทางถูกผลักไสไร้ความเกษม
หวังทะเลช่วยดองใจใว้ให้เค็ม
ช่วยเติมเต็มเกลือในใจ.ใคร่อ้อนวอน..อิอิ
....แบบว่าเอาใจไปดองไว้ก่อนเพื่อ..ถนอมอาหาร..เอ๊ย..หัวใจ..ให้คงคุณค่าได้นาน..อิอิ
16 กรกฎาคม 2552 22:32 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
โปรดเถิดดวงใจ
อย่าได้ลาจร
ใจร้อนหุนหัน
ใจนี้อ้อนวอน
มิหย่อนสักนิด
ให้คิดจาบัลย์
สิ้นสุดคิมหันต์
อกร้าวหรือนั่น
ประหวั่นว่าจริง
อย่าจรลาจาก
ใจหากครวญคร่ำ
ยังร่ำเรียกหญิง
หวั่นในน้ำคำ
ที่พร่ำเอื้อนเอ่ย
ว่าเผยใจจริง
ใยกลับเฉยนิ่ง
ปล่อยพี่ประวิง
หรือหญิงเปลี่ยนไป
...แบบว่า.....ใครก็ได้ช่วยบอกทีครับว่านี่...เขาเรียกว่ากลอนอะไรครับ..คือ..อารมณ์มันพาไปอะ
13 กรกฎาคม 2552 17:05 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
เก็บอารมณ์ระทมใจไว้เสียบ้าง
หรืออาจวางปล่อยไว้เพียงในฝัน
เพราะสเน่หามิอาจคลายในเร็ววัน
คงก่อนนั้นอาจตกบ่วง..สรวงสเน่หา
สรวงสวรรค์ใดในหล้าจะมาเหมือน
สเน่ห์ลอยเลื่อนแห่งเล่ห์บ่วงสรวงเสน่หา
เข้าเขตซึ้งครึ่งค่อนคืนได้ตื่นตา
กลับพรรณนารักมากมายหลายราตรี
นี่แหละหนาว่าแดนสรวงลวงเสียสิ้น
แทบลาดินลาเดือนเลือนเหลือที่
ปลงมิตกตระหนกซ้ำย้ำฤดี
มิอาจมีแม้ทางเดียวจะเยียวยา
จึงเขตสรวง...ลวงดูดดื่มลืมกำพืด
ลืมเคยจืดสำลักหวานจนซ่านซ่า
กลั้วกล้ำจิตจนจริตจม...สมอุรา
จึงสเน่หามิรู้คลาย...มิหมายลืม
....แบบว่า