30 เมษายน 2552 09:50 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
ยืนมองสายลมพลิ้วปลิวลอยห่าง
ยินเสียงครางของหัวใจที่ปลายสาย
ลมลัดทุ่งสู่คุ้งน้ำคลื่นกำจาย
ยะเยือกกายยามนี้เศร้าซากเหงาลอย
ยามลมลูบวูบมาพาใจสั่น
ให้เหหันตามลมสวาทที่สาดสอย
ลมปลิดทิ้งตัดติ่งใจไหลล่องลอย
ได้แต่ชะม้อยตาตามยามลิ่วลม
หญ้าแกว่งไกวไถลลู่รู้ทางทิศ
ช่างแผกผิดกับสายใจไถลหล่ม
วายุพัดสะบัดหลุดก็หยุดจม
เถลิงลมลอยเรื่อยไปไร้ทิศทาง
ใจหลุดลอยหวังคอยหยุดที่สุดสาย
มิอาจหมายห้ามสายใจอย่าไกลห่าง
แม้นไร้ทิศ..ไร้สิทธิ์...ลิขิตทาง
ขอได้วาง....เขตหัวใจ....ให้รู้แดน..ก็คงพอ
...แบบว่า
28 เมษายน 2552 16:27 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
ยังไม่คลายยังไม่สายหมายมีรัก
อ้างว้างนักเธออยู่ไหนใยห่วงหาย
ก่อนเคยมีสัมพันธ์ซ่านเรือนกาย
อย่าแหนงหน่ายโปรดเห็นใจชุบชีวา
ใจหลอกหลอนแม้ยามนอนไม่เคยหลับ
ภาพเธอกลับมาสะท้อนหลอนดวงหน้า
อย่าจากไปหวลมาใหม่ใคร่นำพา
โปรดกลับมาสานสัมพันธ์เช่นวันวาน
ใจเฝ้าคอยอธิษฐานอยู่นานนับ
รำพันกับสายลมพรมประสาน
ใจเป็นอยู่ดูดูสิทรมาน
อย่าหย่อนยานปล่อยสัมพันธ์นั้นเลือนราง
พิษรักซ่อนสวาทเร้น เยื่อใย
อธิษฐานรักอย่าไกล จากร้าง
สัมพันธ์ก่อนฝังใจ ยากลบ เลือนลาง
โปรดอย่าปล่อยอ้างว้าง ชุบสร้าง ชีวา
27 เมษายน 2552 18:34 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
สิ้นเสียงซอคลอขับสดับจิต
เกิดนิมิตสะกิดตาอุราหวาม
หลงมนต์เจ้าอัปสราโฉมหน้างาม
นิรนามเฝ้าตามแลชะแง้คอย
แสงจันทร์นวลอวลอาบทาบในฝัน
ที่หน้าบันคืนนี้พี่เหงาหงอย
ไร้สำเนียงเสียงซอเจ้าเหงาล่องลอย
หรือเนื้อกลอยหายลับกับปราสาทงาม
รอยสลักนูนต่ำย้ำสำเหนียก
ยินเสียงเพรียกเรียกหาพี่ยาถาม
อัปราสูงส่งดุจหงส์งาม
คงมองข้ามใจรักแท้ชายแขมร์เลอ
ร่ายคำขอพะนอรักสลักหิน
ว่าแม้นสิ้นดินธาตุมิอาจเผลอ
ปล่อยใจหลุดหยุดสวาทขาดจากเธอ
หนุ่มแขมร์เลอจะขอเคียง..เนียงลออ
17 ธันวาคม 2551 23:04 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
ก่อนลมแปรแขมร์เลอจะเผลอหนัก
ต้องลมรักลมกวี....นี้พัดสิ้น
ขอบอกกล่าวเพื่อนชาวกลอนวอนได้ยิน
จะจบสิ้นนามนี้ที่........แขมร์เลอ
วันพรุ่งนี้จะมีแต่นามใหม่
นามนั้นไซร้...ไม่สำคุญนั้นจริงเหรอ
ลองเปลี่ยนเศร้าของลมแปรแขมร์เลอ
ให้พบเจอ " จะไม่เด็ด "เข็ดไม่เป็น......อิอิ
แบบว่า....อยากปลี่ยนแซ่อะครับ
16 ธันวาคม 2551 23:21 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
กลิ่นราตรีนี้เสน่ห์สนเท่ห์นัก
ทั้งกลิ่นรักละอองเจือไม่ขาดสาย
เตะจมูกเข้าคราใดใจละลาย
อยากเลาะสายลมมุดสุดฟ้าไกล
กว่าจะหมดกลิ่นหอมคงนานนัก
ทั้งกลิ่นรักกลิ่นเศร้าเคล้าหมอกสาย
ลมเบื้องบนพัดกลิ่นดาวพราวกระจาย
เป็นลมใต้ที่หอมหวลชวนดอมดม
กลิ่นราตรีนี้หนา....พาให้ฝัน
กลิ่นกรุ่นครันแตกซ่านซ่อนหวานขม
กลิ่นราตรี...คืนนี้คงจะเหมือนลม ฯ
ที่ซานซมกับความเศร้า....เศร้าวิญญา