1 มิถุนายน 2553 13:05 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
สิ้นเสียงสายสีดีดสังคีตสดับ
ที่กล่อมขับเคียงเรือนแล้วเลือนหาย
จ้องราตรีศรีกระจ่างดาวพร่างพราย
เปล่งประกายแลสลอนบ้างซ่อนเมฆา
พลันลมเอื่อยเรื่อยไหลไหวเส้นขน
ไหวพัดวนตวัดเน้นเส้นเกศา
ไปปลิวปกคิ้วคอล้อกายา
ไซร้ขอบตายั่วกระซิบกระพริบถี่
หริ่งเรไรประสานเสียงสำเนียงเหมาะ
ยิ่งยั่วเยาะจิ้งหรีดไพรให้ไหวหนี
การเวกรับกู่ร้องก้องราตรี
ปลอบปฐพีให้หลงเคลิ้มเยิ้มภิรมย์
เขียดจะนาตั้งท่ารอต่อประสาน
ที่หน้าลานระงมก้องร้องประสม
ฝนหยาดแล้วเสียงเปาะแปะแตะผืนพรม
ทอดอารมณ์ถมสำเนียงเสียงเสนาะนัก
.แบบว่า อยากจะทอดอารมณ์
31 พฤษภาคม 2553 09:03 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
ว่านามนั้นท่านได้ แต่ใด มานา
นามซึ่งลิขิตใน ภพหล้า
ควรค่าประการใด วานบอก
บอกเถิดจะเร็วช้า ย่อมได้ อานิสงค์
นามเราก็เท่านี้ สามนาม
นามหนึ่งพึงจำความ แม่นได้
ลมแปรผ่านทุกยาม ยวดยิ่ง
ผวนพัดระลอกไซร้ ทั่วพื้น แขมร์เลอ ( ลมแปรแขมร์เลอ)
นามสองต้องตกห้วง ภิรมย์
ด้วยชอบคารมคม กล่าวอ้าง
จอมปราชญ์นักควรชม ยิ่งนัก นานเทียว
แดนหนึ่งพึงส่งสร้าง แม่นแคว้น อาคเนย์ (จอมปราชญ์แดนอาคเนย์)
นามสามตามติดห้วง ประวัติศาสตร์
จะไม่เด็ดจึงวาด เสน่ห์ฟุ้ง
กลการรักช่างบาด- ลึกยิ่ง นาพ่อ
คำหว่านเวียนคละคลุ้ง ไม่แม้นปล่อยวาง (จะไม่เด็ด)
...อิอิ...แบบว่า..กำลังอยากได้นามปากกาใหม่อยู่ครับ
28 พฤษภาคม 2553 19:56 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
พิรุณเอยเชยผกานวลหน้าแย้ม
ที่ผลิแซมสวยสยายปรายสวนศรี
ก่อนสกาว...หล่นกรูพรูพรั่งนที
แกว่งยวนยี..ล้อพระพายเจ้าสายลม
พิรุณสาด...ซบธรณีขจีผืน
ซับกลมกลืนรอยระแหงทุกแห่งหน
จากดาษฟ้ามาหล่นเคียงเพียงบัดดล
คลายกังวล..แด่พงไพรไกลวิมาน
พิรุณหนุ่มกลุ้มใจในนางสวรรค์
จึงรำพันเพียงน้ำตามาส่งสาส์น
สู่นางมนุษย์กินรีนาคีบาดาล
ได้สราญย์เริงรมย์สมฤดี
พิรุณร่าย..ร่วมเรียงสำเนียงสวรรค์
แจ้วจาบัลย์รามสูรย์มูลสักขี
เมฆขลาเอย..มาล่อแก้วแล้วจรลี
เคว้งปฐพี..คว้างฟ้า..พริบตาดาว
...แบบว่า
26 พฤษภาคม 2553 23:59 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
มาตรฐานเดียว..คือเกี่ยวข้องปองมิหน่าย
มิวางวายจากใจปอง....มิหมองหมาง
ปองรักเดียวไม่เหมือนว่าระอานาง
มิก้าวย่างจากคนสวยด้วยลำพอง
มิหมางเมินด้วยตรรกะมาตรฐาน
แม้นมีมารมากลัดกลุ้มรุมเราสอง
ให้ต้องสิ้นดินฟ้าจะคว้าครอง
หากเป็นสอง..ชาตินี้คงหมองตรม
แม้นหนึ่งนี้ที่ใจจะใคร่สมัคร
ผูกพันรักอยู่เรื่อยไปมิได้สม
ขอมาตรฐานแห่งรักสมัครนิยม
จงภิรมย์อยู่เรื่อยไปอย่าได้คลาย
เพราะมาตรฐานรักนี้มีเพียงหนึ่ง
คือสุดซึ้ง..อยู่แดนไกล..หากใจหมาย
ไม่ได้ครอง..ชาตินี้คงเปล่าดาย
ภาพนิยาย..ช่างงามนัก..รักสองเรา
...แบบว่า........มาตรฐานรัก...ไม่อาจคลาดเคลื่อนได้โดยง่าย..เว้นเสียแต่...อิอิ...ได้ที่..เอิ้ก..
ภาพจาก..http://picpost.mthai.com/view_picpost.php?cate_id=33&post_id=406483
24 พฤษภาคม 2553 08:10 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
เด่นฤดูฤดีดั่งพิศฝั่งฟ้า
เหมือนเมฆามาไกลลิบกระซิบหู
ประโลมจิตให้คิดหวามตามฤดู
โสตสดับรู้..รอยสัมผัสชัดสายลม
มวลอณูไอไล่เล่นเป็นทิวแถว
โน้มเป็นแนวแล้ววาดสาดผสม
กับพงไพรไร่นาพาอุดม-
สมบูรณ์ชม...หลากน้ำไหลท่วมใจเรา
ฝนเดือนห้าพาดื่มด่ำย่ำสัมผัส
พลอยถูกมัดด้วยมนตราหน้าเดือนเหงา
มองฝนหล่นหน้าวสันต์หวั่นใจเรา
ว่าอาจเศร้าอีกฤดู..อยู่อีกปี
อยู่กับท้องทุ่งนาพาสุขสันต์
หยิบเมล็ดพันธุ์โรยลงนาพาสุขขี
โรยความเหงาและความเศร้าเข้าอีกที
ข้าวนาปี..คงงามดีที่ทุ่งทอง..อิอิ
...แบบว่า..จินตนาการไปเรื่อย