10 พฤศจิกายน 2553 21:21 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
คำจำนรรจ์หวั่นลมผสมเล่ห์
เหมือนไกลเปลเห่กล่อมให้ยอมขวัญ
กลุ้มยิ่งนักดำหริมิรู้ทัน
คลาดจากนั้น..เศร้ารุม..กลุ้มทรวงใน
เพียงหลงคำพร่ำเพ้อละเมอคว้า
ดวงดาราเรียงรายคล้ายผ่องใส
แสงเต็มเครือคราวนั้นหวั่นหรือไร
ทูนหัวใจถวายแด่แม่จอมนาง
ฤทธิ์ศรัทธาพาเพ้อละเมอหวล
เร้ารัญจวนให้หลงผิดจิตอ้างว้าง
หวลได้คิดอีกครา...หาอำพราง
มิพบนางจอมใจ..ให้โศกศัลย์
ดั่งเกสรว่อนลม..ระทมนัก
ไร้เขตรักหยัดยืนสะอื้นหัน
ถ่อสังขารอันร่วงโรยโหยจำนรรจ์
ข้ามคืนวัน...อยู่หยุด..สุดเดียวดาย
....แบบว่า...ชีวิตมันเศร้า
ฟังเพลง..คำหวาน..http://www.youtube.com/watch?v=m55N-IPrUNk&feature=related
8 พฤศจิกายน 2553 16:25 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
(..อันว่า..แสงจันทร์เปรียบประดุจอาหารอันโอชะฉันใด...จโกระก็ยังชีพได้ด้วยแสงจันทร์ฉันนั้น..)
จันทร์อาบฟ้าเพียงยลกมลซ่าน
เหลือประมาณสวาทแดแลลุ่มหลง
นวลวงแสงครานั้นช่างบรรจง
อร่ามองค์จันทรา..ครุ่นอาวรณ์
ดุจได้ทานอำมริดชิดสระสวย
มานระทวยหึงเศร้าเฝ้าถ่ายถอน
นิมิตโฉมโลมฝันนิรันดร
บรรจถรณ์ครุ่นวางกลางเมฆินทร์
อนุชน้องครองเคียงอยู่เวียงหงส์
ล้วนแต่องค์นารีกวีศิลป์
ผาดผ่านเพียงปลายเนตรเกศโสภิณ
หยาดมาดินบริสุทธิ์วิมุติวาง
สีทันดรเพียงนี้นทีสมัย
มโนนัยหรืออาจจิตมาปิดขวาง
ได้อิ่มอาบซาบซึ้งถึงรุ่งราง
สุดรอยทางล้วนวิมานตระการตา
.......แบบว่า
รับฟังเพลงที่นี่...http://www.youtube.com/watch?v=m55N-IPrUNk
27 ตุลาคม 2553 12:43 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
ริมสองฝั่งอลังการละหารห้วง
ลมหนาวล่วงโชยพัดหน้าวัดเหนือ
แลทิวธงเด่นตระหง่านงานแข่งเรือ
จากใต้เหนือร่วมประชันดั้นธารา
เสียงฝีพายเรียกพลอลกึกก้อง
ทั้งทุ้มกลองกังวานทั่วผ่านฟ้า
แม่ย่านางร่วมอัญเชิญเดินนาวา
ร่มศรัทธาแห่งผองเราลูกชาวเรือ
แลผู้คนมืดมัวทั่วสารทิศ
เข้าประชิดน้ำในใต้จรดเหนือ
เสียงปืนลั่นสนั่นฟ้าท่าปล่อยเรือ
พลันน้ำเนื้อฟุ้งกระจายท้ายนาวา
เสียงฝีพายจ้วงงัดตวัดก้าน
คะนองธารเป็นระลอกออกแผ่หรา
ผลัดหนีไล่เร่งรุดสุดธารา
แหวกน้ำมากระเพื่อมชลก้นสะเทือน
เสียงกองเชียร์เร่งเร้าเฝ้าสองฝั่ง
แผดประดังว่าเอามีดไล่กรีดเฉือน
เสียงพลพากษ์สุมไฟให้ย้ำเตือน
นาวาเลื่อนลอยหน้าผ่าเส้นชัย
....แบบว่า...เล่นเอาเหงื่อแตกเลย...อิอิ
ภาพจาก...http://www.cheersurin.com/forum/index.php?topic=1221.
24 ตุลาคม 2553 22:36 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
มองน้ำเปี่ยมฝั่งคลองพี่หมองเศร้า
ไร้ซึ่งเงานวลใจให้ถวิล
ทุ่งรวงทองโศกาอยู่อาจิณ
ขาดขวัญดินเหมือนจินต์สิ้นภิรมย์
นฤมลคนงามตามใฝ่หา
ตามประสาใจดลระคนขม
สะพานรักหลงคอยลอยน้ำตรม
ทุ่งระทมกำสรดหมดความหมาย
ข้าวออกรวงห่วงนักรักสนิทเชื้อ
เคยเอื้อเฟื้อนวลนั้นมิหวั่นหาย
ขาดขวัญเรือนขาดมิตรชิดเรือนตาย
เหมือนรักคลายมลายลงตรงฝั่งคลอง
หากขาดรักขาดน้องคงตรองช้ำ
วิบากกรรมคงอยู่คู่เราสอง
แม้นไม่ควรคู่มิตรชิดประคอง
ขออยู่ครองเรือนตายยอมวายชนม์
...แบบว่า...เพลงมันพาไปอะ...มาวววว
ภาพจาก...http://aichan.exteen.com/images/Photo/Boon/2008-04.jpg
24 ตุลาคม 2553 09:07 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
ยินกังหันต้องลมระทมจิต
ลมผ่านทิศโบยพัดครุ่นกลัดหมอง
จากประจิมมุ่งบูรพาสุดฟ้าทอง
ลมหนาวล่องสะทกมานสะท้านกมล
ทุ่งรวงทองรองทางระหว่างนี้
ก้านขจีเกี่ยวกระหวัดสะบัดต้น
ดอกคำใต้รายทางคว้างลอยวน
ลงสายชลวนไหลไม่หวลคืน
ตะวันรอนร่อนลงตรงหนองหาน
กลีบบัวบานทิ้งตัวกลั้วสะอื้น
กระโดนเดี่ยวเปลี่ยวใจหลายวันคืน
ถูกพัดครืนโค่นลงสรงโศกา
เดือนสิบสองปริ่มคลองนองเจิ่งน้ำ
ฝนกระหน่ำหลายระลอกออกพรรษา
น้ำเอ่อล้นรายรอบขอบธารา
โคราชาขื่นขมตรมยิ่งกว่าคลอง
...แบบว่า..
ภาพจาก...http://www.rd1677.com/backoffice/PicUpdate/56879.jpg
http://www.neutron.rmutphysics.com/teaching-glossary/images/stories/1/salt2.jpg