2 ตุลาคม 2548 03:10 น.
ลมหลงจันทร์
ใครบางคนโทษฟ้าว่าลำเอียง
ที่ให้เพียงชีวิตอันขัดสน
เกิดต่ำต้อยด้อยค่าราคาคน
แสนอับจนโชคร้ายคล้ายมีกรรม
แต่ลองพิจดูเถิดหนาว่าฟ้านำ
คนลงต่ำแลย่ำเหยียบจนติดดิน
หรือศรัทธาของเรานั้นสูญสิ้น
แลขาดวิ่นเป็นมนุษย์สุดสามานย์
แต่รู้เถิดเกิดเป็นคนโชคไพศาล
มีสังขารมีปัญญาสูงค่ายิ่ง
แม้อับทรัพย์วาสนาในทุกสิ่ง
หาได้ทิ้งคุณค่าราคาคน...
30 กันยายน 2548 19:23 น.
ลมหลงจันทร์
ในท่ามกลางหมู่ชนพ้นคณา
ฉันไข่วคว้าหาสิ่งหนึ่งซึ่งหายไป
เป็นสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยมีไว้
ให้หัวใจอันริบหรี่และโรยรา
ฉันเฝ้าไขว่เฝ้าคว้าเฝ้าตามหา
จนอ่อนล้าสิ้นศรัทธาในฟ้ากว้าง
เหลือแต่เพียงความหวังอันเลือนลาง
แลสีจางในดวงตาอันไร้แวว
นับจากนี้คงไม่มีต่อไปแล้ว
เหมือนดั่งแก้วแตกแล้วไม่อาจฝืน
ฉันไม่รู้จะผ่านพ้นวันและคืน
ที่ต้องยืนลำพังได้อย่างไร
30 กันยายน 2548 03:01 น.
ลมหลงจันทร์
ริมธาราฝั่งธารสีเขียวหม่น
น้ำเอ่อล้นขอบตลิ่งนิ่งและไหว
ฉันนั่งลงค้นและคิดในจิตใจ
นั่นภาพใครเธอหรือไม่ในธารา
ฟ้าสีฟ้าในวันนี้เป็นสีเทา
ด้วยใจเหงาว้าว้างและร้างรัก
เหมือนอัมพรโศกาอาดุลย์นัก
หรือฉันจักไม่ลืมเธอเลยหรือไร
ฉันนั่งอยู่ริมสายชลที่ฝนพรำ
ตอกและย้ำโลกภายในให้จำจด
จะลบเธอเลือนลางไปจนหมด
หรือจักจำจดไว้ให้ช้ำใจ