9 กันยายน 2548 21:34 น.
ลมรำเพย
ฉันจุดเทียนเพียรด้วยใจไว้หนึ่งเล่ม
คอยเติมเต็มความสว่างด้วยใจฉัน
เทียนเล่มนี้สว่างกลางคืนวัน
มอบให้กันเพื่อนรักเป็นผู้ครอง
เทียนเล่มนี้จงอบอุ่นยามเหน็บหนาว
เทียนเล่มนี้จงส่องพราวยามหม่นหมอง
เทียนเล่มนี้จงบันดาลตามใจปอง
เทียนเล่มนี้จงเรืองรองตราบนิรันดร์
ขอเรียบเรียงคำกลอนวอนต่อฟ้า
วอนจันทราบันดาลดั่งใจฉัน
มอบความรักความหวังดีทุกคืนวัน
ฟ้าดั่งฝันสวยใสขอได้ฟัง
อาจไม่ใช่เพื่อนที่ดีในใจเธอ
ไม่เลิศเลอเท่าที่ใจเธอเคยหวัง
ไม่อบอุ่นขำขันให้เธอฟัง
ไม่ระวังพูดตามคิดผิดขัดใจ
ยามอาทิตย์ส่องแสงบนขอบฟ้า
ยามดาราส่องไสวเด่นสดใส
ยามที่ฉันมีเธออยู่ข้างกาย
ทุกยามคลายเหงาได้ไม่ลำพัง
เธอเป็นเพื่อนที่ดีในใจเสมอ
เธอเป็นเพื่อนที่เลิศเลอตามใจหวัง
เธออบอุ่นขำขันให้ได้ฟัง
เธอระวังพูดตามคิดด้วยจริงใจ
มิตรภาพจะไม่สิ้นด้วยความรัก
มิตรภาพจักอยู่คู่ดาวใส
มิตรภาพเธอฉันจะไม่คลาย
มิตรภาพคู่กายมิหน่ายไป
ด้วยวันนี้วันสำคัญของเพื่อนรัก
ด้วยใจจักอธิษฐานได้ยินไหม
หากได้ยินจงอธิษฐานด้วยหัวใจ
ทุกสิ่งใดจงสมดั่งใจเธอปอง
จงมีสุขทุกคืนวันวอนต่อฟ้า
จงแกร่งกล้าสดใสไม่หม่นหมอง
ก้าวเดินไปด้วยใจที่หมายปอง
แล้วเมื่อมองข้างกายไม่เดียวดาย
จะเดินคู่อยู่เคียงคอยเคียงข้าง
เดินตามทางก้าวไปด้วยใจหมาย
จะวันนี้พรุ่งนี้คงข้างกาย
ไม่เดียวดายขอเธอมองด้วยหัวใจ
7 กันยายน 2548 01:30 น.
ลมรำเพย
พระอาทิตย์ฉาบฟ้าวันมาใหม่
เมฆสดใสลอยล่องละลู่หลง
น้ำค้างเย็นใสดุจเพชรเม็ดหยาดลง
ลมเย็นคงพัดมาพาชื่นใจ
นกโผบินกู่ก้องร้องทักทาย
ร่อนฟ้าหมายแดนดินถิ่นแห่งไหน
มองตามหานกร่อนบินถิ่นแดนใด
ไกลแสนไกลสุดฟ้าขอบนภา
ไม้สีเขียวเรียวสวยไหวลู่อ่อน
กลิ่นเกษรย้อนตามลมชวนหวนหา
ชวนใจคิดย้อนถึงกลิ่นเคยคุ้นมา
ผ่านโรยราตามสายลมลาลับไกล
สายน้ำรินไหลหลั่งลงตามดิน
ซึมซาบถิ่นชุ่มฉ่ำชื่นจิตใส
สายลมพัดพริ้วแผ่วแว่วต้องกาย
จิตแจ่มคลายฟ้าก่อนสายดุจภาพงาม