29 กรกฎาคม 2549 23:14 น.
ลมรำเพย
ก็ตะวัน...ดวงเดิมเดิม...ที่เคยมอง
ก็คือท้อง...ฟ้าผืนเดิม...ที่สดใส
ก็ดินเดียว...ผืนนี้...ที่กว้างไกล
ก็คือใจ...ดวงเดิม...ที่รอคอย
กาลเวลา...เลื่อนคล้อย...ดั่งนกบิน
เหินผกผิน...บินลับ...มิกลับหัน
แล้วความรัก...ที่เฝ้ารอ...จะมีวัน
ได้สบกัน...บ้างไหมเล่า...เจ้านกเอย
ค่ำคืนนี้...มีเพียงเงา...จันทร์เคียงข้าง
รักเลือนลาง...ห่างไกล...สุดเฉลย
จันทร์เจ้าขา...บอกเล่ามา...อย่างที่เคย
ว่าคนไกล...มิละเลย...คิดถึงกัน...
1 มิถุนายน 2549 22:20 น.
ลมรำเพย
ลมหนาวคราวใดพาใจมืดหม่น
หนึ่งใครสักคนเธอนั้นอยู่แห่งหนใด
หากรักที่มีล่องลอยถึงใจ
ช่วยส่งความนัยเสียงแห่งใจมาให้ชื่นชม
อยู่กับความฝันดั่งนกที่หยุดโผบิน
หมดทางผกผินสิ้นรักแล้วช่างขื่นขม
อยากนอนหลับฝันมิฟื้นให้ใจระทม
หลับตาสิ้นลมหลับฝันไปชั่วนิรันดร์
ลมรำเพยเชยรักแล้วช้ำซ้ำซาก
ฟ้าคงจะพรากรักแท้ให้ไกลสุดฝัน
คอยแล้วคอยเล่าเจ้ารักก็มิมีวัน
ได้พบสบกันเช่นนั้นใช่ไหมเล่าลม
หลับตาคราฝันแล้วล่องลอยไป
สักแห่งหนไหนคอยเจ้ารอวันสุขสม
หากไม่พบขอจบด้วยการสิ้นลม
ให้ดินผันเป็นผ้าห่มหลับฝันไปชั่วกาล...
29 มกราคม 2549 21:10 น.
ลมรำเพย
ตะวันผันเหินสู่เวหากว้าง
ทอกระจ่างร้างจิตกระไรหนอ
วันเวลาเคลื่อนผ่านมิอาจรอ
ยังวอนขอรักกลับมาทักทายใจ
การรอคอยเนิ่นนานมิอาจเว้น
ลมพัดเย็นลู่ลอยอย่างอ่อนไหว
การเดินทางที่เดียวดายมิคลายไป
มีสิ่งใดซ่อนอยู่ในการรอคอย
ยังค้นหาคำตอบที่เพียรถาม
เดินไปตามทางที่ฝันมิได้ถอย
เพียงแต่ทางที่ดูเหมือนไร้ร่องรอย
ทำใจพลอยเหนื่อยหน่ายพ่ายแพ้พลัน
หากจะมีหนึ่งคนคอยเดินเคียง
มิหลีกเลี่ยงเบี่ยงจากพรากแปรผัน
มิเคยลืมห่วงหาคิดถึงกัน
คงวันนั้นคำเฉลยเผยในทรวง
24 มกราคม 2549 13:16 น.
ลมรำเพย
พ่อหลวงของปวงไทย
ดุจดวงใจไทยทั้งชาติ
บำบัดทุกข์ปวงราษฎร์
มิได้ขาดพระเมตตา
ทรงเปี่ยมล้น ด้วยพระ ปรีชาญาณ
ให้ทวยราษฎร์ ผ่านทุกข์ โดยถ้วนหน้า
มิได้ทรง เหน็ดเหนื่อย พระกายา
ไทยใต้ฟ้า เป็นสุขด้วย พระบารมี
วันนี้ลูก ขอเดิน ตามรอยพ่อ
และสานต่อ ความดี เป็นวิถี
ด้วยหัวใจ คนไทย ที่ภักดี
สังคมนี้ มีสุขได้ ด้วยปวงไทย
**ขอจงทรงพระเจริญ**
22 มกราคม 2549 21:48 น.
ลมรำเพย
ดาวดวงน้อยล่องลอยอยู่บนฟ้า
มีจันทราเคียงข้างร่วมพร่างฉาย
แม้ดารามีจันทราเคียงข้างกาย
ทำไมฉันต้องเดียวดายภายใต้ดาว
เหงาจนเกินสรรหาคำใดมาเล่า
อยู่กับเงาใต้ผ้าห่มยังเหน็บหนาว
เหลือเพียงจันทร์เจ้าดาราที่พร่างพราว
และน้ำตาที่วับวาวเคียงข้างกาย
นานเท่าใดที่ลำพังใต้ฟ้ากว้าง
ยังเคว้งคว้างล่องลอยไร้จุดหมาย
ดั่งสายลมที่พัดไปมิเว้นวาย
สุดทางปลายอยู่ที่ใดเฝ้ารำพัน
อยากเป็นลมที่หยุดพัดล่องลอย
ไม่ต้องคล้อยเรื่อยไปไร้ความฝัน
อยากมีใครที่อยู่เคียงข้างกัน
ด้วยผูกพันสันนิวาสให้พบเจอ
ยังคงรออยู่ที่หนึ่งในโลกนี้
หวังเพียงมีใครที่รออยู่เสมอ
หนึ่งคนนั้นที่ยังคอยร่ำละเมอ
ได้พบเธอสักวันใต้ดวงดาว