6 กันยายน 2551 22:27 น.

นิทานหิ่งห้อย (ภาคสอง)

ฤทธิ์ ศรีดวง

คืนนั้นวาหลับอย่างเป็นสุข ฝันว่าเดินเคียงคู่พี่เมี่ยงเดินไปใต้ต้นลำพู สายลมเย็นฉ่ำ ดวงจันทร์ทอแสงนวล
พี่เมี่ยง เห็นปะ โน่นไง หิ่งห้อยเต็มต้นเลย วาออกท่าทางตื่นเต้น
เข้าไปดูกันใกล้ๆดีกว่า พี่เมี่ยงชวน แต่คนเป็นฝ่ายถูกลากกลับกลายเป็นพี่เมี่ยงซะนี่

ทั้งคู่ยืนอยู่ใต้ต้นลำพู วามองหาหิ่งห้อยที่แสงริบหรี่ตัวนั้น บางทีเธออาจจะแอบอยู่ที่ไหนสักแห่ง 
พี่เมี่ยงช่วยวาหาหิ่งห้อยตัวนั้นหน่อยซิ
ตัวไหน
ก็ไอ้ตัวที่เป็นแฟนกับต้นลำพูไง
โน่นไง
ไหนๆ พี่เมี่ยง หิ่งห้อยเหรอ
เปล่าลูกลำพูสุก อยากกินหรือเปล่า ฝาดดี กินแล้วท้องผูกดีนะ
พี่เมี่ยง! วาทำเสียงดุ
โอ๋ๆ  พี่ล้อเล่น

แต่..เอ๊ะ พี่เมี่ยงทำไมวารู้สึกคันๆ
เออ จริงซิ พี่ก็รู้สึกเหมือนกัน
ทั้งคู่เริ่มคันมากขึ้น วาเกาแขนจนเป็นผื่นแดง มองขึ้นไปที่ต้นลำพู แสงจันทร์สว่างพอที่เห็นบุ้งตัวเท่านิ้วโป้งจำนวนนับร้อยอยู่เต็มลำพู
คันๆๆๆๆๆ วาตะโกนสุดเสียงด้วยความรังเกียจ

วาๆ..ตื่นได้แล้วลูก  สาวน้อยลุกขึ้นจากที่นอน เธอฝันไป โล่งอก มองแขนเธอเป็นรอยเกาจนเป็นผื่นแดง
นี่นอนละเมอ อีกแล้วใช่ไหม ตะโกนซะเสียงลั่นบ้านลุกขึ้นล้างหน้าล้างตาซะ.. เมี่ยงเค้ามาหาแน่ะ รอลูกอยู่ข้างล่าง คำว่า เมี่ยง ทำให้เธอผุดลุก รีบทำภารกิจอย่างรวดเร็ว

บนโต๊ะมื้อเช้า
พี่บอกคุณแม่ของวาแล้ว ว่าจะชวนวาไปดูหิ่งห้อยคืนนี้
โนวาไม่ไปเด็ดขาด
อ้าว ทำไมล่ะ..
วากลัวบุ้ง พี่เมี่ยงไม่เคยบอกวาว่าต้นลำพูบุ้งเยอะ 
ก็จริงนะวา แต่ต้นนี้ รับรองได้ว่าไม่มีบุ้ง ไม่มีหนอนแน่นอน
จริงๆ นะ
จริงซิ พี่จะหลอกวาทำไม ตุ๊กแกมันกินหมดแล้ว
จ๊าก..อื๋ย มีตุ๊กแก! ไม่เอาดีกว่า 
พี่เมี่ยงหัวเราะมองหน้าวาอย่างเอ็นดู
ไม่มีทั้งสองอย่าง..พี่ล้อเล่น ก็ไหนวาเคยบอกพี่ว่า วาไม่เคยกลัวอะไร วาแข็งแรงจะตายไป
แน่นอน พี่เมี่ยง วาไม่กลัวซักกะหน่อย  แค่ไม่ชอบเฉยๆ  แต่วาแข็งแรงจริงๆนะ แข็งแรงกว่าพี่เมี่ยงสิบเท่า เอาไว้วาจะพิสูจน์ให้ดู วาทำหน้าเชิดอย่างน่าเอ็นดู
.....................................................................................................................
  คืนนี้เป็นคืนเดือนหงาย หนุ่มสาวคู่หนึ่งเดินท่อมๆ มาในดงลำพูริมคลอง น่าแปลกที่คืนนี้ไม่มีผู้คนมาดูหิ่งห้อยเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา หรือว่ายังหัวค่ำอยู่ หรือว่าอยู่ที่ทำเนียบกันหมด  หรือช่างเถอะ ป่วยการคิด   ก็ดีที่ทั้งคู่จะได้อยู่กันตามลำพังวาหาโอกาสนี้มานานแล้ว 
แล้ววาก็โดดขี่คอพี่เมี่ยง
เย้ พี่เมี่ยงพาวาเดินชมหิ่งห้อยหน่อยนะ
พี่เมี่ยง คืนนี้ดูจะใจดีเป็นพิเศษ ให้วาขี่คอเดินไปรอบๆ  แต่ ก็เพียงรอบเดียว 
พอเถอะวา ไม่ไหวแล้ว..ลดน้ำหนักบ้างนะเราน่ะ พี่เมี่ยงนั่งหอบไปบ่นไป
ก็ได้ วาตอบเสียงสั้นปนงอนเล็กน้อย

  หิ่งห้อยนับร้อยทอแสงเรืองๆอยู่รอบต้นลำพู พี่เมี่ยงเก็กท่าเหมือนเจ้าชายในฝัน ดับไฟฉายซุกกระเป๋ากางเกง ขณะที่สาววาเล็งสายตามองสำรวจตามใบและต้นเพื่อให้แน่ใจว่า ไม่มีบุ้งและ..ตุ๊กแก
วาจำได้ไหมว่าหิ่งห้อยตัวผู้กับตัวเมียต่างกันยังไง  
 หิ่งห้อยตัวเมียจะมีช่วงท้องแค่ปล้องเดียว กะพริบแสงได้ระยะสั้นๆถี่ๆ ส่วนตัวที่บินได้ไกลๆจะ เป็นตัวผู้ซึ่งมีลำตัวช่วงท้องสองปล้อง กะพริบแสงได้ยาวๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจจากตัวเมีย 
วาลอยหน้าลอยตาตอบ .แน่นอนเธอตอบถูก

เก่งมั่กๆ  ถ้าเรียนหนังสือได้ยังงี้ก็ติดแพทย์แน่นอน พี่เมี่ยงแซวกลับ ขณะที่สาววามองอะไรบางอย่างอยู่ที่กิ่งลำพูเบื้องหน้า
พี่เมี่ยงๆ
อะไร
หิ่งห้อยตัวที่เป็นแฟนกับต้นลำพูตัวใหญ่แค่ไหน
ก็ปรกติ เหมือนหิ่งห้อยทั่วๆไป แต่แสงเธอริบหรี่เพราะกำลังจะตาย
ถ้าตายแล้วเธอจะมีแสงอีกหรือเปล่า
ไม่มี หิ่งห้อยตายจะมีแสงได้ไง

งะ..งั้นหิ่งห้อยที่อยู่บนกิ่งลำพูนั่นก็ไม่ใช่นะซิ  ดะ..ดวงไฟมันใหญ่มาก เท่ากำปั้น เป็นตัวเมียแน่นอน เพราะผมมันยาวหน้าเหมือนผู้หญิง มันต้องตายแล้วจริงๆ เพราะมันมีไส้และ..
วาพูดอะไรไม่ออกนอกจากยืนสบตากับอะไรบางอย่าง พี่เมี่ยงมองตามมือวาที่ชี้ไปข้างหน้า มือเธอสั่น ตัวแข็ง   พี่เมี่ยงเห็นภาพนั้นถึงกับผงะ
กระสือ! คำเดียวสั้นๆแต่มีความหมาย เรียกสติวาคืนกลับมา เธอโกยอ้าวอย่างไม่คิดชีวิต ระยะทางกว่าร้อยเมตรกว่าจะถึงรถเธอใช้เวลาไม่ถึงสิบวินาที ทั้งๆที่มีร่างพี่เมี่ยงโดดขี่หลังเธอมาตลอดทาง

นี่คงเพียงพอที่พิสูจน์แล้วว่าเธอแข็งแรงกว่าพี่เมี่ยงจริงๆ



ภาพประกอบจาก www.oknation.ne				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฤทธิ์ ศรีดวง
Lovings  ฤทธิ์ ศรีดวง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฤทธิ์ ศรีดวง
Lovings  ฤทธิ์ ศรีดวง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฤทธิ์ ศรีดวง
Lovings  ฤทธิ์ ศรีดวง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงฤทธิ์ ศรีดวง