12 มีนาคม 2551 07:23 น.
ฤทธิ์ ศรีดวง
เศษข้าวสุกคลุกดินทนกินได้
หากทำให้ร่างกายพอหายหิว
แม้วันนี้ชีวิตไม่ปลิดปลิว
ก็เหมือนลิ่วร่วงเหวกลางเปลวไฟ
มองคนที่มีพ่อยิ่งท้อแท้
มองหาแม่ไม่รู้ว่าอยู่ไหน
นั่งกอดเข่าหนาวสั่นข้างบันได
หวังอะไรกันหนอ..เด็กขอทาน
มีเศษเสื้อเหม็นสาบกลิ่นคราบเหงื่อ
ไว้ห่อเนื้อหุ้มใจที่ไร้บ้าน
มีคุณค่าแค่ขยะใต้สะพาน
มีวิญญาณผุผุเท่าธุลี
ลูกนกคงหลงทางอยู่กลางป่า
หมดปัญญาสูญสิ้นแรงบินหนี
หวังใดใดเจ้าเอยไม่เคยมี
ใจดวงนี้แหลกลาญไปนานแล้ว
1 มีนาคม 2551 23:08 น.
ฤทธิ์ ศรีดวง
หนาวสะท้านกว่าวานซืนหรือคืนไหน
คืนนี้ไฟส่องสลัวดูมัวหม่น
ในซอกสุดอุดอู้ร้างผู้คน
ชีพหนึ่งหล่นกลางทะเลแห่งเวลา
อยากกลับหาแม่พ่อเพื่อขอโทษ
หรือแม่โกรธไม่ถามไม่ตามหา
ซุกกายนอนค่อนคืนชื้นน้ำตา
ไร้ผืนผ้ากันลมเคยห่มนอน
หนาวจนสั่นไส้กิ่วหิวจนหลับ
ฝันว่ากลับบ้านอุ่นได้หนุนหมอน
ในอ้อมกอดปลอดภัยแม่ให้พร
ฝันเลยย้อนคืนไปเมื่อวัยเยาว์
แม่ชราร่างกายดูผ่ายผอม
ลูกผู้พร้อมรับบาปมากราบเท้า
กอดกระชับรับขวัญลูกสั่นเทา
น้ำตาเคล้าคลอคลอ..แม่รอคอย
สุขชั่วยาม..ความจริงยิ่งท้อแท้
ไม่เคยเห็นหน้าแม่ตั้งแต่น้อย
หลับตาคว้ากลัวสุดฝันหลุดลอย
จะไม่ปล่อยฝันลับไปกับเงา
ลมราตรีดึกสงัดยังพัดโบก
คืนนี้โลกเย็นเฉียบดูเงียบเหงา
ลมชีวิตแผ่วจางและบางเบา
ฝันของเจ้ามืดสนิทอนิจจา