16 เมษายน 2550 09:47 น.
ฤทธิ์ ศรีดวง
เก็บดอกไม้บอบช้ำจากขอบฟ้า
มาเยียวยาให้ฟื้นคืนมาใหม่
ปุ๋ยและน้ำบำรุงรดลงไป
ไม่เคยออกกิ่งใบให้งามตา
เหี่ยวแห้งลงทุกวันทุกวัน
แม้สิ่งนั้นจะเคยทรงคุณค่า
เปล่าประโยชน์จะรื้อฟื้นให้คืนมา
ถูกเวลาทำลายไปนานแล้ว
13 เมษายน 2550 19:47 น.
ฤทธิ์ ศรีดวง
ระลอกลมหนาวล่องมาเรื่อเรื่อ
ต้องผิวเนื้อหนาวเอ็นและเย็นขา
นั่งนอกชานบ้านแคบมันแสบตา
เขาเผาหญ้าสุมไฟไว้ให้ควาย
หยิบผ้าห่มห่มตัวแต่หัวโผล่
นั่งหัวโด่นอกเฉลียงบนเตียงหวาย
คอยไล่ริ้นขอบมุ้งตบยุงลาย
ทำไมเราต้องเฝ้าควายในคืนนี้
เสียงหมาหอนรับต่อเป็นทอดทอด
เสียงไผ่ออดไหวเอียงเหมือนเสียงผี
เหลียวเลิ่กลั่กซ้ายขวาท่าไม่ดี
จะวิ่งหนีก็ไม่กล้ามันน่ากลัว
เริ่มปวดท้องตุ่ยตุ่ยจนยุ้ยแล้ว
กลัวไม่แคล้วสาดกระเซ็นออกเป็นหัว
จึงห่มผ้าคลุมโปงนอนโก่งตัว
หอมกลิ่นถั่วในผ้าห่มดมคนเดียว
6 เมษายน 2550 00:55 น.
ฤทธิ์ ศรีดวง
กระยางยืนกลางนาจนขาโก่ง
ก้มโค้งหาปลานัยน์ตาใส
จ้องจิกปลาโผงเผงไม่เกรงใจ
กระดกปลากระเดือกใส่ในลำคอ
คิดถึงเจ้าจากไปไม่เคยกลับ
นั่งคอพับหลับบน บ.ข.ส.
น้ำลายไหลเลอะเทอะเปรอะลำคอ
ก.ท.ม. ดึงไว้ไม่กลับมา
เข้าบางกอกงุ่นง่านควานหาเจ้า
แม้แต่เงาก็ไม่เห็นเห็นแต่หมา
จนกระทั่งเงินหมดค่ารถลา
เดินวนไปวนมาเพราะหลงทาง
ระทดท้อระย่นย่อเพราะข้อล้า
หลับตาเกลือกกล่นหม่นหมาง
ดอกหญ้าอาภัพอับปาง
เลือนลางลับกายหายไป
เจ้าเหมือนไม้ประดับกับบ้านนอก
เข้าบางกอกไม่รู้ว่าอยู่ไหน
กลับเถิดหนาบ้านนายังอาลัย
ลมหายใจข้าวกอ..ยังรอคอย