10 สิงหาคม 2555 21:12 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
เห็นข่าวนี้แล้วทำให้ลุ้นระทึก ว่ากระทรวงกลาโหมจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีการตรวจสอบคุณสมบัตินายอภิสิทธิ์ หลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหารและใช้เอกสารปลอม ในการสมัครเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยจปร. ว่า ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีก 1 ชุด เมื่อหลักฐานที่ออกมาชัดอย่างนี้แล้วกระทรวงกลาโหมจะทำอย่างไรได้บ้าง เรียกเงินคืนได้หรือไม่ หรือจะถอดยศได้หรือไม่ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ถ้าทำได้ก็จะทำ แต่การทำอะไรก็ต้องทำอย่างรอบคอบ ซึ่งได้ให้กรมพระธรรมนูญส่งเรื่องให้ทางกฤษฏีกาตีความให้เป็นไปตามขั้นตอนและดำเนินการอย่างรัดกุม
กรมพระธรรมนูญอย่างไรเสียก็ต้องดำเนินการตามระเบียบแบบแผนและกฎหมาย เมื่อทางกฤษฎีกาตีความตามเรื่องที่กรมพระธรรมนูญส่งไปว่าอย่างไร
ก็คงต้องเป็นไปตามนั้น หวังเอาไว้ว่าจะได้เห็นการถอดยศนายอภิสิทธิ์ฯและเรียกเงินเดือนคืนเป็นเยี่ยงอย่าง น่าจะติดคุกด้วยซ้ำไป
แถมออกมาโต้รัฐมนตรีกลาโหมอีกว่า ถ้าเอกสารปลอมก็ให้ไปเอาผิดกับคนปลอม ไม่ใช่จะเอาผิดกับตน อย่างนี้เพี้ยนหรือเปล่าเนี่ย
ยิ่งมาเห็นข่าว นายอภิสิทธิ์ฯ ออกมาให้สัมภาสน์เรื่องพรรคแมลงสาปจะส่งเรือ่งที่ตั้งชื่อกันเองว่า ฆ่าตัดตอน" กล่าวหาอดีตนายกมาเนิ่นนานใช้เป็นสาเหตุข้อหนึ่งในการขับไล่ พตท.ด๊อกเตอร ทักษิน ชินวัตร ซึ่งจนป่านนี้ยังไม่มีหลักฐานใดที่จะชื้ให้เห็นว่าเป็นไปตามที่กล่าวหา แต่พรรคนี้กลับอ้างว่าจะนำเรื่องไปฟ้องศาลคดีอาญาระหว่างประเทศเช่นเดียวกับพวกเสื้อแดงไปฟ้องเรื่องฆ่า 98 ศพ
ซึ่งเขาได้รับเรื่องไว้แล้ว ทั้งที่เป็นรัฐบาลอยู่ตั้งสองปีกลับไม่ทำอะไรเลย เขาจึงมองว่าเป็นการแถลงแก้เกี้ยวมากกว่าคงจะลืมไปแล้วว่าประเทศไทยยังไม่เป็นภาคีของศาลฯที่เสื้อแดงเขาไปยื่นได้เพราะนายอภิสิทธิ์มีสัญชาติอังกฤษต่างหาก
5 สิงหาคม 2555 00:48 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
เมื่อเย็นวันที่ 2 ส.ค. 55 ที่ผ่านมานี่ใคร ๆ เขาไปเวียนเทียนกัน แต่ผมไม่ได้ไปกับเขามัวนั่งกินอาหารที่ร้านนัดพบอยู่ก่อนเข้าตลาดนนทบุรีซึ่งเป็นร้านขาประจำวันไหนอยากแสดงอวดพรรคพวกก็สามารถกินไม่จ่ายเงินบอกไว้จ่ายวันหลังทำให้พรรคพวกทึ่งเล่นได้ เพราะรู้กันว่ายังไงก็ต้องมากินมาจ่ายวันต่อมาแน่ ๆ พอดีวันนั้นมีครูสาวสวยคนหนึ่งที่รู้จักกันมานานกินรวมในกลุ่มด้วย คุยกันเขาเกิดชักชวนเราให้ไปทำบุญวันเข้าพรรษา ในวันรุ่งขึ้นเพราะเขาอยากจะไปทำบุญที่วัดหนึ่งเป็นวัดมอญ อยู่แถวใกล้ ๆคลองลัดโพธิ์ อ.พระประแดงด้วยอยากจะอาศัยรถเราด้วย เมื่อมองสบตาอันละห้อยขณะที่เขาชวนแล้วก็ปฏิเสธไม่ลงก็เลยต้องรับปากแต่มีข้อแม้ว่าเราไม่รู้จะเตรียมอะไรขอให้เขาเตรียมเครื่องต่าง ๆในการทำบุญเองเราจะช่วยได้แค่เอาสตางค์ใส่ซองเท่านั้น
วันรุ่งขึ้นแต่เช้าสักแปดโมงจึงไปรับเขาที่หน้าปากตรอกตรงข้าม รร. สตรีนนท์
เขายืนรออยู่กับเพื่อนสาวคนหนึ่งกับเด็กผู้หญิงอีกคนบอกว่าไม่ต้องรีบร้อนเพราะเตรียมอาหารบ้างเล็กน้อยไปถวายเพล และมีของถวายเกี่ยวกับการเข้าพรรษามีผ้าอาบน้ำฝน กาแฟผงสำเร็จรูปน้ำตาลทราย คอฟฟี่เมทน้ำยาซักฟอกสบู่อาบน้ำและของอื่นอีกเล็กน้อยใส่กระเช้าไม่ใหญ่นักที่สำคีญคือซองเงินเราก็เลยเอาเงินใส่รวมไปบ้างไม่มากนักตามศรัทธา รถขึ้นทางด่วนมุ่งไปลงถนนสุขสวัสดิ์พระประแดงผ่านตลาดเลี้ยวไปทางลัดโพธิ์ลอดใต้สะพานภูมิพล ตรงลัดโพธิ์พอดีมองขึ้นไปเห็นความงามของสถาปัติกรรมที่สร้างขึ้นตามพระราชดำริห์น่าตื่นใจนัก
รถมาถึงวัดมีป้ายบอกว่า วัดจากแดง เป็นวัดราษฎร์ ตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ. 2325
อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเคยถูกน้ำท่วมทิ้งร้างมีสภาพชำรุดทรุดโทรม เมื่อเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันคือ พระครูธรรมธรสุมนต์ นันทีโก มารับตำแหน่งเมื่อ พ.ศ. 2523ได้ร่วมกับชาวบ้านบูรณะซ่อมแซมสร้างเสนาสะนะ และสร้างโบสถ์ใหม่แทนโบสถ์เดิม
สร้างโรงเรียนนักธรรมสอนตามหลักสูตรคณะสงฆ์และสถาบันบาฬีโพธิยาลัย การศึกษาพระไตรปิฎกใช้หลักสูตร"ปัญจมูลคัมภีร์"หรือ"บาฬีใหญ่"และมีการสอนด้านกรรมฐานด้วยทำให้มีพระสงฆ์ทั่วภูมิภาคคือไทย พม่า ลาว กัมพูชา เวียตนามมาเลเซีย เข้าศึกษาเป็นจำนวนมาก
พระครูธรรมธรสุมนต์ เป็นผู้มีความรู้ความสารถมากจนประเทศสหภาพพม่าได้ถวายตำแหน่ง อัคคมหาบัณฑิตให้ท่าน ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่ทางการพม่าจะถวายให้พระมหาเถระของพม่าเท่านั้น
ประชาชนเริ่มทะยอยเข้ามามากขึ้นเมื่อใกล้สิบเอ็ดโมงต่างเข้าไปถวายของกับพระตัวแทนเจ้าอาวาส ของทุกอย่างจะรวมไว้เป็นกองกลางทั้งหมด ซองเงินก็จะมอบให้เจ้าหน้าที่มีออกใบอนุโมทนา พระจะไม่ได้รับเงินเลย ท่านบอกว่า กำลังรวมเงินสร้างศาลาทำบุญมูลค่า 25ล้านซึ่งกำลังดำเนินการสร้างหลังจากได้ก่อสร้างเจดีย์ พระสมันตมหาปัฏฐาน เสร็จเรียบร้อยแล้วเป็นเจดีย์ที่งดงามบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
เป็นที่เคารพเลื่อมใสของประชาชนทั่วไป อาหารที่นำมาเลี้ยงพระเขาเอาไปรวมบรรจุในถาดบ้างในหม้อบ้าง วางบนโต๊ะเป็นแนวยาวของคาวอยู่ด้านหน้าของหวานอยู่ด้านหลัง พอได้เวลาเพล พระจำนวนมากจะถือบาตรเดินเรียงมาจากหอฉัน มาตักภัตตาหารที่เตรียมเรียงไว้เป็นระเบียบตั้งแต่หัวโต๊ะไปจนท้ายแล้วแต่จะเลือกตักไปพระฉันภัตตาหารในบาตร ไม่ใช้ภาชนะอื่น พอพระฉันเสร็จให้พรแล้วประชาชนก็เดินเรียงแถวไปตักอาหารกินอิ่มหนำกันทุกคนในวันนี้เห็นว่ามีคนมาหลายร้อย สำหรับพระมีบางส่วนที่ท่านฉันมื้อเดียวตอนเช้าไปแล้วก็จะไม่ลงมาฉันกลางวันอีก
สามคนที่มาด้วยกันรวมทั้งเราด้วยอิ่มหนำสำราญกันดีแล้วก็เดินไปเที่ยวบริเวณวัดมีโรงเรียนของพระใหญ่โตตึกหลายชั้นมีพระนักศึกษาจำนวนมากบางส่วนเป็นพระพม่า ชาวบ้านที่มาทำบุญบางส่วนก็เป็นชาวพม่าเชื่อสายมอญ ชมวิวลำน้ำเจ้าพระยาและสะพานภูมิพลเห็นไม่ไกลนักและขึ้นไปไหว้พระบรมสารีริกธาตุและเวียนเทียนบนเจดีย์ด้วยทั้งหมดรู้สึกสนุกสนานอิ่มเอิบที่ได้มาทำบุญก่อนจะกลับได้รับแจกหนังสือเล่มหนึ่งเป็นบทกลอนและมีภาพประกอบคล้าย ๆหนังสือการ์ตูนซึ่งมีชื่อว่า นิราศวัดจากแดง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเรื่องสั้นที่ผมเขียนนี้
นิราศวัดจากแดง ประพันธ์โดย พระวิสุทธิ ฐานากโร และวาดภาพประกอบทุกบทกลอนโดยนายศักดา วิมลจันทร์ น่าอ่านมาก ดังนี้
นิราศวัดจากแดง
พรพระไตรโปรดประสิทธิ์ลิขิตสาส์น
เรียมสัญจรเอกาสมุทรปราการ
ไปวิหาร"จากแดง"ด้วยแรงรัก
หนึ่งรักธรรมะปฏิบัติ
อีกมนัสห่างนุชก็สุดหนัก
นั่งรถเมล์พระประแดงแห้งอกนัก
จนเขาทัก"ใกล้สุดสาย"ก่อนปลายทาง
ถึงตลาดพระประแดงเห็นแผงผัก
บ้างก็ตักแกงขายหลายหลายอย่าง
ผลไม้ข้าวต้มมัดเขาจัดวาง
ที่อ้างว้างค่อยมีความปรีดา
เสียงคนขายเรียกร้อง"ปาท่องโก๋"
อีกเสื้อโหล ลูกชุบ บ้างบุปผา
พี่เดินไปซื้อมาลัยมะลิลา
แล้วมองหาพาหนะพอประมาณ
สามล้อถีบรีบเลียบเทียบฟุตปาธ
มารยาทยิ้มสู้ผู้โดยสาร
ไปไหนครับเชิญสามล้อบริการ
รถโบราณน่าสนใจ"ไปจากแดง"
นั่งรถเก่าเข้าเกาะคล้ายเบาะกว้าง
ไร้น้องนางยอดหญิงมาอิงแฝง
เขาปั่นขึ้นทางชันยิ่งปั่นแรง
เหมือนพี่แย้งใจหนึ่งก็ดึงดัน
ถึงซอยสิบเพชรหึงษ์จึงเลี้ยวขวา
เลยบ้านมาเห็นแท่งกำแพงกั้น
รถชะลอเดี๋ยวเดียวเลี้ยวซ้ายพลัน
ลุสวรรค์บนดินถิ่นจากแดง
เขียวพฤกษาทั่วอาณาอาวาสวัด
ยลยอดฉัตรพระเจดีย์เหมือนมีแสง
ชื่นอุราเห็นมาลีใจมีแรง
รีบจัดแจงเครื่องบูชาเรียงมาลัย
พระเจดีย์สมันตมหาปัฏฐาน
ริมสายธารเจ้าพระยาวารีใส
ฟ้าสีสวยสูดอากาศสะอาดไอ
ดลดวงใจเอิบอาบกราบกรานลง
มาลัยแขวนโพธิ์พฤกษ์ระลึกพระ
ชั่วขณะพลันจิตพิศวง
คล้ายเจดีย์มีตามองมาตรง
รังสีส่งกระแสบุญให้อุ่นเอม
เดชสถานปูชนีย์ที่น้อมไหว้
ขอหัวใจพ้นทุกข์สุขเกษม
ซึ่งชีวีแต่นี้จงปรีดิ์เปรม
เหมือนหงส์เหมลอยองค์กลางคงคา
ธัมเมกขะสถูปเป็นรูปย่อ
จำลองหล่อ จำหลักงามหนักหนา
ยามเดินเวียนทอดทัศน์เกิดศรัทธา
ปฏิมารายพร้อมอยู่อ้อมองค์
เสียง"สีพพีติโย"ชำแรกแทรก
ทำนองแปลกพร้อมเพรียงเพลินเสียงสงฆ์
ประนมหัตถ์มนัสหวนนวลอนงค์
ทรุดกายลงรับพรกับดอนดิน
เดินศึกษาภาษิตติดต้นไม้
จนมาใกล้วิหาร"หลวงพ่อหิน"
ฉงนนึกว่าคงเป็นองค์อินทร์
บันดาลกลิ่นสุคนธ์ไว้ต้นลม
แท้ที่แท่นเขาวางกระถางธูป
หน้าพระรูปองค์พุทธพิสุทธิ์สม
พิมลพักตร์พาอุราอิ่มอารมณ์
น้อมบังคม"หลวงพ่อหิน"กลางกลิ่นบุญ
กำลังสิบยกใส่ไว้ศีรษะ
ขอเดชะกุศลกรรมโปรดนำหนุน
กำแพงทุกข์ขอจงเป็นผงจุณ
ด้วยเดชคุณพระมุนินทร์หินศิลา
เห็นคู่เขาสุขสมยามก้มกราบ
เหมือนกรรมสาปสาสมพี่ก้มหน้า
เขาปิดทององค์พระปฏิมา
ทางไปหาเนื้อทองต้องปิดตาย
จะพึ่งพาบารมีมุนีนาถ
โศกสวาทไข้รักจงหักหาย
เลิกหวนถึงความหลังนั่งตั้งกาย
แบ่งระบายลมปราณค่อยซ่านทรวง
ชีวิตเราเอาอะไรมากมายหรือ
ใยยึดถือเรื่องรักจนหนักหน่วง
กี่ครั้งแล้วชอกช้ำเพราะคำลวง
ไม่เคยห่วงตัวเองวังเวงใจ
สติตรองปัจจุบันรู้ทันจิต
ทางชีวิตเปิดกว้างกระจ่างใส
ซึ่งทางออกใช่ทางที่ห่างไกล
ทางที่ใกล้แค่จมูกแท้ถูกทาง
ดื่มความเงียบในวิหารผ่านพักหนึ่ง
ยินเสียงอึงจากอาคารที่ด้านข้าง
"ปุริโส"แจกศัพท์สดับพลาง
มองพระปรางค์คล้ายพระองค์ทรงยินดี
เหมือนได้เฝ้าคราวพระองค์ดำรงอยู่
ได้รับรู้โลกมิสิ้นหน่อชินสีห์
หลงสำเนียงลีลาแห่งบาลี
จนเหลือที่จะเฉยเลยกราบลา
ซึ่งต้นเสียงจับใจได้ประจักษ์
คือพระเณรคึกคักเพียรศึกษา
ผสานเสียงยลยินปลุกวิญญา
"มนุสสาวันทันติปัณฑิตัง"
"ทำอะไรอยู่หนอพ่อหนุ่มน้อย"
สดับถ้อยกังวานอยู่ด้านหลัง
ตรงใต้ร่มแมกไม้มุงใบบัง
พระหนึ่งนั่งกิริยางามอาการ
กราบสามหนเรียนว่า"ครับมาเที่ยว"
"มาคนเดียวหรือสองคน"ฉงนสาร
"คนเดียวครับเพิ่งเคยมาสมุทรปราการ"
"ถามถึงด้านจิตใจไม่ใช่กาย"
"คนเดียวครับ"หวั่นหัวอกที่ปกปิด
เหมือนไม่มิดท่านย้ำคำขยาย
"แน่ะหนุ่มเอ๋ยเคยสัญญาว่ากล้าตาย
บทสุดท้ายช้ำนักเพราะรักเทียม"
"ดูคำรักชายหญิงที่พริ้งเพราะ
ยามทะเลาะระอาหน่ายไม่อายเหนียม
ไฟกับไฟจิตใจก็ไหม้เกรียม
รักเคยเปี่ยมกลับแห้งเหือดเป็นเดือดดาล
ใครจะช่วยถอนรักปักลึกได้
เคยเห็นไหมประเพณีที่สืบสาน
ออกพรรษาทางบางพลีเขามีงาน
ล่องลำธารลอยนาวามารับบัว
บูชาหลวงพ่อโตถอนโกมุท
จงแจ้งจุดให้ถอนจิตที่คิดชั่ว
ซึ่งรักโลภโกรธหลงจงถอนตัว
ขืน เกลือกกลั้วอาวรณ์ต้องถอนใจ
ถูกพิษงูรู้ยารักษาหาย
ถูกยักษ์ร้ายผีสิงอิงอาศัย
อาจหามนต์เปลื้องมารปัดพาลภัย
ความรักใคร่ร้ายฤทธิ์มีพิษรัก
จงมั่นใจตัวเองอย่าเกรงก่อน
ต้องกล้าถอนทันใดจงใจหนัก
หมายระรื่นชื่นอุราขืนช้าชัก
จะจมปลักบ่อบาปอาบน้ำโคลน"
จากวันนั้นจึงหันหาวารีใส
ซึ่งสิ่งใดเป็นโทษเคยโลดโผน
กราบประทานโทษถอนช่วยอ่อนโยน
เย็นมีดโกนกินผมลมรำเพย
ใจประจักษ์รักแท้ยามแม่ยิ้ม
น้ำตาปริ่มนี่หรือคือเฉลย
รักอื่นนอกจากนี้ไม่มีเลย
คำแม่เอ่ย"วันนี้มีสุขนัก"
เสียงคู่สวดก้องสีมา"สุณาตุ"
สงฆ์"สาธุ"เปลื้องห่วงที่หน่วงหนัก
หทัยไม่เปลี่ยนแปลงมั่นแรงรัก
ศึกษาหลักธรรมะพระบาลี
สิบห้าค่ำตำราท่องมองพระธาตุ
งามพิลาสนวลจันทร์เจิมเฉลิมศรี
อุ่นอาจารย์อุ่นบัณฑิตอุ่นมิตรดี
ชีวิตนี้ขอฝาก ไว้"จากแดง"
2 สิงหาคม 2555 13:19 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
ท่านผู้อ่านทุกท่านรู้สึกอะไรบ้าง เมื่อพระออกบิณฑบาต พอรับบาตรจากชาวบ้านแต่ละคนหรือแต่ละกลุ่ม แล้วจะต้องยืนสวดให้พร จะเป็นแบบย่อ หรือแบบยาว ก็แล้วแต่เอาแบบอย่างกันมา ซึ่งการสร้างประเพณีอย่างนี้ขึ้นโดยเฉพาะในเมืองกรุง (ต่างจังหวัดไม่ค่อยมีแต่เริ่มระบาดไปบ้างแล้ว)สร้างความลำบากในการเดินบิณฑบาตให้แก่พระทุกรูป แสดงให้เห็นถึงความโลภของคนใส่บาตรอยากได้ไม่รู้จบแม้แต่พรของพระซึ่งไม่ใช่เวลาที่จะต้องมาสวดให้พร
พระทุกรูปเมือ่ออกบิณฑบาต มีข้อกำหนดให้ท่องสวดพิจารณาสิ่งของทุกอย่างที่เป็นบริขารอยู่แล้วเรียกว่า บทสวด ปฏิสังขาโย ซึ่งมีคำที่เรียกว่าหัวใจปฏิสังขา คือ จิปิเสคิ
จิ คือจีวร
ปิ คือบิณฑบาต
เส คือเสนาสะนะ
คิ คือ คิลานะเภสัช
พระบวชใหม่ทุกรูป จะต้องหัดท่อง บท ปฏิสังขาโย เป็นบทแรก ๆ เพราะจะต้องใช้ท่องเดินบิณฑบาต ซึ่งบทสวดเต็ม ๆ มีดังนี้
ปะฏิสังขา โยนิโส จีวะรังปฏิเสวามิ
ยาวะเทวะ สีตัสสะ ปะฏิฆาตายะ
อุณหัสสะ ปะฏิฆาตายะ
ฑังสะมะกะสะวาตาตะปะสิริงสะปะสัมผัสสานัง ปะฏิฆาตายะ.
ยาวะเทวะ หิริโกปินะปฏิจฉาทะนัตถังฯ
ปะฏิสังขาโยนิโส ปิณฑะปาตัง ปฏิเสวามิ.
เนวะ ทวายะ.
นะ มะทายะ.
นะ มัณฑะนายะ.
นะ วิภูสะนายะ.
ยาวะเทวะ อิมัสสะ กายัสสะ ฐิติยา.
ยาปะนายะ.
วิหิงสุปะระติยา.
พรัหมะจะริยานุคคะหายะ.
อิติ ปุราณัญจะ เวทะนัง ปิฏิหังขามิ.
นะวัญจะ เวทะนัง นะ อุปปาเทสสามิ
ยาตรา จะ เม ภะวิสสะติ อะนะวัชชะตา จะ ผาสุวิหาโร จาติ ฯ
ปะฏิสังขา โยนิโส เสนาสะนัง ปะฏิเสวามิ
ยาวะเทวะ สีตัสสะ ปะฏิฆาตายะ, อุณหัสสะ ปะฏิฆาตายะ
ฑังสะมะกะสะวาตาตะปะสิริงสะปะสัมผัสสานัง ปะฏิฆาตายะ
ยาวะเทวะ อุตุปะริสสะยะวิโนทะนัง ปะฏิสัลลานารามัตถัง
ปะฏิสังขา โยนิโส คิลานะปัจจะยะเภสัชชะปะริกขารัง ปฏิเสวามิ.
ยาวะเทวะ อุปปันนานัง เวยยาพาธิกานัง เวทะนานัง ปะฏิฆาตายะ.
อัพยาปัชฌะปะระมะตายาติ ฯ
เห็นไหมล่ะท่านทั้งหลาย พระเดินบิณฑบาต ท่านต้องสำรวม มองไปข้างหน้าเพียงเพื่อดูทางเดินเท่านั้นและยังต้องท่องบทสวดมนต์ ปฏิสังขาโย ไปตลอดทาง
แล้วท่านจะยังสร้างความลำบากให้ท่านต้องท่องบทให้พรเป็นหลายครั้ง คนใส่บาตร ร้อยคนท่องร้อยครั้ง ท่านคิดเว่าถูกต้องแล้วหรือ
ต่างจังหวัดประชาชนผู้ใส่บาตรทำบุญเขามีความเข้าใจ อาการอิ่มเอิบเมื่อได้ทำบุญใส่บาตรเป็นการปฎิบัติเบื้องต้นเพื่อเข้าถึงพุทธศานนาคือการจาคะ ลดความโลภ ถ้าไม่รู้จัก จาคะ อย่าหวังว่าจะได้เข้าถึงพุทธศาสนาได้เลย พระสมัยใหม่บางท่านก็เลยเอาจุดนี้มาเป็นเครื่องมือ สร้างค่านิยมให้เกิดการบริจาคอย่างมโหฬาร
ถ้าการบริจาคเพื่อประโยชน์ส่วนรวมก็เป็นสิ่งดี แต่ถ้าบริจาคเพื่อ อาตมารวยก่อนชาตินี้ชาติหน้าโยมถึงรวยละก็ไม่ถูกต้อง
จึงอยากเรียกร้องให้ชาวกรุงรนณรงค์ให้พระไม่ต้องสวดให้พรทุก ๆครั้งที่รับบาตร