4 เมษายน 2555 11:56 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
อาทิตย์ที่แล้ว พรรคพวกเขามาชวนไปเที่ยวอำเภอจุน จังหวัดพะเยา เพื่อไปร่วมพิธีบรรจุพระธาตุ ญาติผู้ใหญ่เขาทำบุญกันมานานทอดผ้าป่ากันหลายครั้งกว่าจะสร้างเจดีย์เสร็จ คราวนี้ถึงคราวบรรจุพระธาตุ ก็พากันยกขบวนไปร่วมบุญ มีทั้งรถตู้ รถเก๋ง รถทัวร์ทางวัดเขาจองรีสร์ท และโรงแรมที่พะเยาไว้สำหรับแขกที่ไม่สามารถนอนพักที่ห้องพักของวัดซึ่งจัดไว้พอสมควร คณะของผมมีแค่สี่คนเดินทางโดยรถยนต์ฮอนด้าแอคคอร์ท ติดแก้ส ที่เอาคันนี้ไปก็เพื่อประหยัดค่าน้ำมันถ้าเอาสปอร์ตไลท์เดอรไปค่าน้ำมันไม่ต่ำกว่าสี่ห้าพัน
เราออกจากกรุงเทพฯตั้งแต่ตีห้า กะว่าจะไปถึงวัดตอนเย็นพอดีแวะกินอาหารเช้าที่ร้านบ้านสวน แล้วตรงลิ่วขึ้นเหนือไม่หยุดที่ไหนนอกจากเติมแก๊สครั้งแรกว่าจะไปทางแพร่ออกอำเภองาวไปพะเยาแค่เพื่อนบอกว่าไปทางลำปางดีกว่าทางใหญ่สดวกกว่าจึงม่งไปทางลำปางแวะกินอาหารกลางวันที่กำแพงเพชรแล้วพุ่งไปลำปางเลยจากลำปางมุ่งเส้นทางเชียงรายถึงพะเยาบ่าย ๆแก่ ๆแวะกินอาหารเย็นริมกว้านวนรถชมกว้านพะเยาแล้วเลยเข้าอ.จุน ผ่านอ.ดอกคำใต้
ยังยั่วกันว่าเห็นบ้านริมทางใหญ่ ๆแถวนี้พวกเราได้สมทบทุนช่วยสร้างด้วยอิอิ
เพราะเป็นที่ทราบกันว่า ลูกสาวที่ไปทำงานหาสตางค์ส่งเงินมาให้พ่อแม่เขาจะสร้างบ้านประชันกัน แต่ละหลังสวย ๆงาม ๆทั้งนั้น
มาถึง วัดสร้อยศรี ต.จุน อ.จุน ใกล้ค่ำพอดี พระจัดให้พักในห้องพักห้องหนึ่งสี่คนเลยพอดีทางวัดเขาจัดทำพิธีสืบชะตา ให้ญาติโยม แขกผู้มีเกียรติที่มาจากกรุงเทพน์ในคืนนั้นซึ่งมาถึงกันแทบทุกคณะแล้วเราก็เข้าร่วมกับเขาด้วย ลานกลางแจ้งหน้าพระพุทธรูปมีสายสิญญ์โยงให้ชาวบ้านนั่งเรียงติด ๆกันแต่ละคนจะมีสายสิญญ์คล้องที่หัวขึ้นไปผูกกับสายหลักที่เป็นตารางอยู่ด้านบน พระก็จะสวดมนต์พิธี นั่งพนมมือกันอยู่นานมากกว่าจะเสร็จพิธีสืบชะตา คืนนั้นนอนหลับสบายมีเสื่อหมอนผ้าห่มของวัดนอนเรียงกันสี่คนเลย แขกจากกรุงเทพน์บางส่วนนอนห้องติด ๆกันบางส่วนไปนอนรีสอร์ทใกล้ ๆบางส่วนขับรถเข้าไปนอนที่พะเยา
เช้าขึ้นมาวัดเลี้ยงข้าวต้มหมูแล้วเริ่มจัดเตียมเรื่องพิธีบรรจุพระธาตุ สำหรับพระธาตุที่วัดนี้จะทำการบรรจุ ท่านเจ้าอาวาสได้เดินทางไปรับจากวัด บวรนิเวศมหาวิหาร กรุงเทพฯองค์สมเด็จพระสังฆราชประทานมาตอนที่ได้มาถึงวัดก็ฉลองกันไปคราวหนึ่งแล้วข่าวการบรรจุพระธาตุแพร่กระจายไปทั่วญาติโยมนำกองผ้าป่าแห่แหนกันมาไม่ขาดสายร่วมอนุโมทนาบุญกับวัดศร้อยศรี หลังเลี้ยงภัตาหารเพลแล้วทั้งพระและญาติโยมก็ออกจากโบสถ์ไปที่บริเวณเจดีย์สวยงามที่สร้างไว้เกือบสมบูรณ์ มีรถเครนเตรียมยกเครื่องพระธาตุขึ้นบรรจุที่ยอดเจดีย์
ประชาชนต่างยินดีกันทั่วหน้า
ในขณะนั้นมีพระ หรือคนแต่งตัวเป็นพระก็ไม่ทราบมีหมวกไหมพรมอยู่บนหัวเหมือนป้องกันหนาวเข้ามาในวัดเข้าไปบริเวณโบสถ์ซึ่งพระและแขกไปอยู่ที่เจดีย์กันหมดมีแต่ชาวบ้านที่แห่องค์ผ้าป่าเข้ามาทีหลังก็ตรงไปที่โบสถ์ พระที่ว่านี้ มีหน้าม้าเรียกกว่า ท่านน้อย ๆเดินไปมาเปิดหมวกออกมีพระธาตุปลอมตกกระจายออกมาชาวบ้านก็กรูกันเข้าไปเก็บ ดีอกดีใจได้พระธาตุ แล้วพระอลัสชีก็เข้าไปนั่งในโบสถ์ ชาวบ้านที่แห่ผ้าป่ามาใหม่ก็พากันไปถวายองค์ผ้าป่า พระนี้ก็รับไว้ทั้งหมดนับเงินใส่กระเป๋าเพลินไปไปเลย ทางพระทีวัดนี้จริง ๆไม่มีใครรู้เรื่องด้วย
ท่านเจ้าอาวาสสาละวนอยู่กับการขึ้นไปบรรจุพระธาตุบนยอดเจดีย์กับเครนใช้เวลานานกว่าจะเสร็จพิธี เมื่อกลับมาที่โบสถ์ พระองค์นั้นก็กลับไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ท่านก็บอกว่าอโหสิกรรมก็แล้วกันเขาคงได้เงินจากองค์ผ้าป่าที่ไม่รู้เรื่องถวายไปมากเหทือนกัน ชาวบ้านพากันสาปแช่งท่านเจ้าน้อยกันขรม
ตอนนั้นใกล้ค่ำแล้วเราก็ต้องนอนค้างอีกคืนหนึ่ง รุ่งขึ้นกราบลาเจ้าอาวาสแต่เข้าขับรถออกพะเยาคราวนี้เรากลับทางแพร่โดยแยกที่อ.งาว จากแพ่หลังจากไหว้พระธาตุช่อแฮ แล้วตรงเข้าพิษณุโลก แวะไหว้พระพุทธชินราช แล้วไปกินก๋วยเตี๋ยวห้อยขา แล้วดิ่งกลับกรุงเทพฯมาทางสากเหล็กถึงกรุงเทพฯมืดพอดี
ที่เอาเรื่องนี้มาเล่าอยากให้เพื่อน ๆระวังพระประเภทนี้ไว้บ้างมีชุกชุมเหลือเกินแต่ก็ยังดีกว่าพระหล่อพูดเพราะรับทีละล้านสองล้านบางคนขับรถมาทำบุญขากลับนั่งแท๊กซี่ บอกว่าขายรถทำบุญไปแล้ว อิอิ