12 กันยายน 2554 18:25 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
พี่น้องเพื่อนฝูงครับ เมื่อประมาณปี2547ผมได้ไปอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับการบริหารสั้น ๆที่เมืองแอทแลนต้า รัฐจอเจียแล้วได้เลยไปเที่ยวหาเพื่อนที่ ซานฟรานซิสโก เพื่อนคนนี้พาผมตระเวณเที่ยวทั้งพ่อแม่เขาต้อนรับเป็นอย่างดีต่างชาติต่างศาสนาไม่มีข้อจำกัด ได้เขียนกลอนเล่าไว้ใน ซาน - ฟรานซิสโกในฝัน
ถึงปัจจุบีนเพื่อนคนนั้นเขาแต่งงานแล้วกำลังข้าวใหม่ปลามัน ไปอ่านเวปไซด์อะไรไม่รู้อยากมาเที่ยวเมืองไทย โดยเฉพาะสามเหลี่ยมทองคำ กับเกาะเต่า จะ
ทำไงได้ผมก็ต้องต้อนรับตอบแทนเขาแต่เขารีบคาดคั้นเอาข้อตกลงว่า ไม่ให้ผมเดือดร้อนเขามีงบประมาณมาเรียบร้อย ผมก็คัดค้านบ้างตามธรรมเนียมโดยจะต้องขอจ่ายอะไรบ้างตามโอกาศอำนวยเช่นการใช้รถยนต์น้ำมันรถยนต์และอาหารบ้างเป็นบางมื้อซึ่งเขาขอบอกขอบในที่เป็นธุระผมก็พาเขาไปทั้งสองแห่งนั่นแหละและก็มีรายทางอีกมากมาย แต่ครั้งนี้อยากจะเล่าตัดตอนเมื่อไปเที่ยว เกาะเต่า สำหรับที่อื่นก็จะทยอยเล่าเมื่อมีโอกาศ
ผมเปิดดูเวปไซด์เจอสถานที่พักหลายแห่งแต่ไปถูกใจที่ ดุสิตบัญชา รีสอร์ท
ราคาสูงคืนละ 6000 บาทแต่ไม่สูงที่สุดห่างชุมชนมากหน่อยจึงจองที่พักหนึ่งหลังมีสองห้อง จองเรือข้ามจากจ.ชุมพรไปเกาะเต่ามีสองบริษํทที่ดีหน่อยคือส่งเสริมทัวร์ ราตาถูกว่าบริษัทลมพระยา นิดหน่อย เรือของลมพระยาไปกลับคนละ 600 ทันสมัยแล่นเร็วกว่าเกือบชั่วโมง ของ ส่งเสริมทัวร์ไปกลับ คนละ 450 เราตกลงจองของส่งเสริมโดยเขารับรองว่าเอารถจอดไว้ที่ท่าเรือได้โดยปลอดภัย
ภรรยาของเพื่อนสวยน่ารักมากเขาจบจากมหาวิทยาเบิรกส์เล่ย์ด้วยกัน
ทำงานที่เดียวกันเลยพักร้อนพร้อมกันวันที่ผมไปรับที่สุวรรณภูมินึกว่าดาราภาพยนต์มาเที่ยวซะอีก เขาคุยเก่งมากชอบถามจนผมอธิบายไม่ทันเลยละ
เราไปเที่ยวภาคกลางและภาคเหนือมาแล้วถึงคิวไปเกาะเต่าตามที่จองที่พักไว้จะต้องไปลงเรือให้ทันตอนเจ็ดโมงเช้า ถ้าไม่ทันก็มีอีกเที่ยวหนึ่งตอนบ่ายโมง วันหนึ่งมีสองเที่ยวเท่านั้น เราสามคนเตรียมตัวพร้อมตื่นนอนตอนตีสามออกจากกรุงเทพฯขับรถสบาย ๆ กะจะกินอาหารไทยที่ร้านต๊โภชนาที่เขาย้อย แต่เห็นว่าเช้าเกินไปก็เลยเรื่อยเฉี่อยมาถึงชะอำเข้าไปหาอะไรกินแล้วผ่านหัวหินไม่ไปทางบายพาสต์ ไม่เร่งร้อนถึงชุมพรกินก๋วยเตี๋ยวแล้วเลยเข้าปากน้ำชุมพรไปถึงที่เรือก่อนเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง
ได้ที่จอดรถนอกเต๊นท์เพราะมีคนอื่นจอดก่อนเราสงสัยต้องตากแดดหลายวันเชคการจองแล้วเขาให้สติคเกอร์ติดหน้าอกสำหรับลงเรือมีแต่ฝรั่งทั้งนั้นรู้สึกจะมีเราหน้าดำอยู่คนเดียวจริง ๆทั้งลำเรือเรือออกตรงเวลาเจ็ดโมงผู้โดยสารเกือบเต็มลำเขาให้พวกเราอยู่ชั้นบนเป็นห้องแอร์ แต่วันนี้เครื่องแอร์เสียเลยไม่เก็บค่าแอร์ต้องเปิดหน้าต่างรับลมสังเกตุเห็นคนคนนึ่งมาตีสนิทกับผู้โดยสารแทบทุกกลุ่มพอมาถึงกลุ่มเราถึงรู้ว่าเขาเป็นครูสอนดำน้ำถ้าสนใจดำน้ำก็ให้ติดต่อเขาตามนามบัตรที่แจกรู้สึกว่าสอนดำน้ำเที่ยวหนึ่งจะสองพันบาทนี่แหละดำโดยใช้ถังอ๊อกซิเย็นด้วย แต่แฟนเพื่อนกลัว ๆ คงไม่กล้าดำลึกจึงไม่ได้ตกลงอะไร วันนี้ เกิดคลื่นลมแรงมากหน่อยเรือวิ่งตัดคลื่นกระดอนกระโดกกระเดกไปสักสองชั่วโทงสุภาพสตรีแฟนเพื่อนทนไม่ไหว อาเจียรออกมานิดหน่อยกว่าจะถึงเกาะเต่าใช้เวลาสามชั่วโมงแต่พอขึ้นฝั่งสักพักก็ค่อยยังชั่ว รถของ ดุสิตบัญชารีสอซต์มารับเป็นรถกระบะโฟวิลล์มีที่นั่งข้างหลังพวกเราชอบสนุกดีรถแล่นผ่านชุมชนผ่านตลาดลัดเลาะไปตามทางขึ้นเขาบ้างสักพักก็ถึงที่พัก อยู่ตงกันข้ามกับเกาะนางยวนพอดีเลย ห้องพักอยู่บนเขาหมายเลย 110 มองเห็นทะเลสวยงาม การจัดห้องเขาเอาหินก้อนใหญ่ที่มีอยู่ตามธรรมชาติมาเป็นส่วนประกอบของห้องด้วยน่าอยู่มาก ๆ สองคนผัวเมียฝรั่งชอบมากเลย อาหารกลางวันทานอะไรกันนิดหน่อยแล้วเดินดูวิวริมทะเลด้านหลังรีสอร์ทมีต้นไม้เยอะแยะเย็นวันนี้เราไปกินกันที่ เรสเตอรองริมทะเลอีกด้านหนึ่ง สั่งได้ทั้งอาหารไทยจีนฝรั่ง เราสั่งมากินหลายอย่างรวมทั้งราดหน้าทะเลของไทย แต่ฝรั่งกลับติดใจกว่าอาหารฝรั่งซะอีก
เราให้เขาหาแทกซี่ให้ไปเที่ยวในตลาดบนเกาะเต่ามีแทกซี่เชื่อไหมล่ะท่านแทกซี่เอกชน เขาคิดหัวละร้อยห้าสิบแพงบรรลัย ตลาดไม่มีอะไรก็เป็นที่ขายของเดินเที่ยวดื่มกินของฝรั่งมองไปทางไหนมีแต่ฝรั่งทั้งดำขาวสองคนนั่นซื้อของหลายอย่างเดินกันจนเมื่อยจึงได้เวลานัดแทกซี่ส่งกลับที่พักเราได้แวะจองการเที่ยวดำน้ำนั่งเรือรอบเกาะและพาเที่ยวเกาะนางยวน คนละ 500 บาท วันพรุ่งนี้รถจะไปรับที่รีสอสต์มาลงเรือตืนนี้หลับสบายมาก สองคนจะหลับยังไงเราไม่รับรู้เพราะคนละห้องกัน อิอิ
อาหารเช้าไปกินฟรีที่รีสอร์ทจัดไว้ฝรั่งแต่งตัวรัดกุมเตรียมลงน้ำนุ่งกางเกงขาสั้นเสื้อกล้ามทรวดทรงพิศมาก ๆน้ำลายจะหกแต่ต้องรักษามารยาท อิอิแปดโมงรถมารับพาไปลงเรือเป็นเรือหาปลาลำไม่ใหญ่นักมีฝรั่งเยอะเหมือนกันไปเที่ยวเดียวกันเขามี สน๊อกเกอร์ ใส่ดำดูปลาน้ำตื้นให้ด้วย ถ้าใครทำหายถูกปรับพันบาท ให้ทุกคนใส่เสื้อชูชีพเรือพาแล่นอ้อมเกาะเต่า ช่วงด้านหน้าเกาะลมแรงมากคลื่นสูงเรือหาปลากระดอนขึ้นลง หลายคนกลัวแต่หลายคนสนุก กว่าจะพ้นแนวคลื่นลมก็เป็นชั่วโมงพอพ้นมาได้ค่อยดีหน่อยเขาจอดให้ลงลอยตัวไปดูปลาสวยงามมากบางคนจับเชือกลอยไปบางคนไม่ต้องจับเชือก เพื่อนเขามีกล้องเล็ก ๆถ่ายใต้น้ำได้ ก็ถ่ายปลาสวยงามได้เยอะ เรือพาไปอีกที่หนึ่ง เขาบอกว่าให้ดูดี ๆ เป็นที่ซึ่งฉลามชอบมาแอบนอนพักในหลืบหิน นักท่องเที่ยวก็พยายามไปดูกัน เพื่อนเขาโชคดีไปเจอฉลามนอนอยู่ถ่ายรูปมาได้ เขาเอามาอวดพวกฝรั่งด้วยกันดูกันใหญ่เลย เรือจอดให้ดูปลาสองสามแห่ง ก็แจกอาหารกลางวันเป็นข้าวกล่อง ฝรั่งกินได้ผัดเผ็ด ๆ กลับชอบซี๊ดซาด มีผลไม้เช่นมะละกอ ส้ม เตรียมใส่ถาดไว้ก็กินกันใหญ่สนุกดี
เรือพามาจอดที่เกาะนางยวน มองเห็นที่พักของเราอยู่ที่เกาะเต่าเลย
ต้องเสียค่าผ่านประตูฝรั่งสองร้อยคนไทยสามสิบบาท ใครจะขึ้นไปบนยอดเขาดูวิวก็ได้แต่ส่วนใหญ่ลงน้ำดูหลา ปลาเยอะมากอยู่น้ำตื้น ๆ สองคนนั้นชอบใจมากถ่ายรูปใต้น้ำ แต่ต้องระวัง หอยเม่นมาก ต้องใส่รองเท้ากันไว้ก่อน ปลาที่เกาะนางยวนคงรู้ว่าไม่มีใครทำอะไรมันจึงเชื่องมากแทบเอามือจับเล่นได้เลยทีเดียวอยู่ที่เกาะนางยวนสักสองสามชั่วโมงได้เวลากลับ เรือพามาส่งที่ท่าเรือตามเดิมมีรถพาไปส่งที่พัก เราเหนื่อยกันมากเย็นนั้นก็ไม่ออกไปไหนกินอาหารที่รีสอสต์นั่นอีก นั่งฟังดนตรีมีนักร้องร้องเพลงทิบกันไปบ้างเล็ก ๆน้อย ๆก่อนแยกกันไปนอน
รุ่งเข้ากินอาหารฟรี เรายืม สน๊อกเกอร กับเสื้อชูชีพจากผู้จัดการรีสอร์ทพากันลงไปในทะเลหน้าที่พักวันนี้ตลื่นลมไม่แรงนัก ว่ายน้ำดูปลาหน้ารีสอร์ทโอ้โฮ ปลาในทะเลงดงาม มากมายกว่าที่เกาะนางยวนเสียอีก จารนัยไม่ถูกสวยงามมากเราว่ายดูกันเป็นชั่วโมง ๆ ไม่เบื่อจนใกล้เที่ยงถึงได้ขึ้นมากินอาหารกลางวันเตรียมตัวเดินทางกลับไปลงเรือบ่ายโมง ขากลับ คลื่นลมไม่มีทะเลเรียบเรานั่งกันสบายมากแถมลงมาซื้อ ฮอทดอก ที่ชั้นล่างกินกันซะอีก เรือวิ่งสามชั่วโมงพอดีรถของเรายังอยู่ดีไม่มีบุบสลาย สปร์อตไลเดอร์ซะอย่าง
ขึ้นฝั่งได้ก็บ่ายมากเลยไปไหว้ศาลกรมหลวงชุมพรที่หาดทรายรีเขากำลังจะปิดศาลพอดี เสร็จแล้วมาที่ร้าน อาหารจีน ชื่อร้าน ลุย อยู่ริมทะเล กินอาหารทะเลกันฝรั่งงงกับยำไข่แมงดาทะเล ว่ากินได้จริงหรือ พอลองกินกลับชอบ อิอิ ค่ำแล้ว แต่เราไม่รีบร้อนขับรถกลับกรุงเทพฯไม่รีบร้อนแวะหัวหินกินของว่างดูวิวกลางคืนปนเปกับฝรั่งที่หัวหินเขาซื้อของได้หลายอย่างกว่าจะกลับถึงกรุงเทพก็ตีหนึ่งกว่าแล้ว อิอิ ทริปนี้ก็จบลงเท่านี้