15 กรกฎาคม 2555 19:05 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
ท่านอาจจะจำเรื่องพวกนี้ไม่ได้แล้วก็เป็นได้ แต่ข่าวร่มเกล้า ภรรยารับเงินเยียวยา ข่าวเสื้อเหลืองเสื้อแดง ได้รับเงินเยียวยา ผู้ที่เสียชีวิตในระหว่างที่มีเหตุการปราบปรามการชุมนุม ต่างได้รับเงินเยียวยา ที่ยังพอจำข่าวนี้ได้บ้างหรือเปล่า
"สุเทพ"สั่งผบ.ตร.สอบพลทหารดับ
ความคืบหน้า กรณีพลทหารอภินพ เครือสุข ทหารเกณฑ์ที่เสียชีวิตภายในบ้านพักพล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 นั้นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ ว่า มีบางคนพูดให้คนไขว้เขวว่า การตายของพลทหารคนดังกล่าว เกี่ยวกับการที่นายกฯไปพักอยู่ที่บ้านแม่ทัพภาคที่ 1 อยากเรียนว่า นายกฯ ตน และรัฐมนตรีอีก 2 ท่าน ไปพักที่บ้านแม่ทัพภาคที่ 1 ในคืนวันที่ 12 และ 13 เมษายน เช้าวันที่ 13 เมษายนเราก็ออกไปทำงานตามปกติ พอวันที่ 14 เมษายนเหตุการณ์สงบแล้ว ก็ไม่ได้ไปพักอีก เราไม่ทราบจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งมีการนำมาพูดถึง จึงสอบถามพบว่า พลทหารล้มในห้องน้ำ มีเพื่อนทหารไปซื้อยาให้ แล้วพลทหารคนดังกล่าวก็บ่นว่าปวดหัว พอเช้าอีกวันก็ไม่ได้สติ แล้วนำส่งโรงพยาบาล แต่เมื่อมีคนสงสัย ตนก็สั่งให้ผบ.ตร.แต่งตั้งคณะพิเศษขึ้นมาสอบสวนเรื่องนี้ให้ได้ความจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงที่เข้าไปพักที่บ้านแม่ทัพภาคที่ 1 เคยเห็นหน้าพลทหารคนดังกล่าวหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า จำไม่ได้ แต่มีทหารอยู่ 3-4 คน เวลาเราไปเราก็ไปตีสามตีสี่แล้ว เขาก็เอาแปรงสีฟันยาสีฟันมาให้ ตื่นเช้ามาก็มีคนเอากาแฟมาให้ แล้วเราก็ออกจากบ้าน ตั้งแต่ 06.30-07.00 น.ก็เสียใจที่เกิดเหตุ เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยพยายามขุดคุ้ยเรื่องนี้ว่าเป็นการฆาตกรรมอำพราง นายสุเทพกล่าวว่า "ถามว่าจะทำไปทำไม เขาเป็นพลทหารคนหนึ่ง ไม่ได้มีบทบาทอะไรที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในบ้านเมือง มันไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ถ้าจะมีก็มีบางคนนอนกรนหน่อยเท่านั้นเอง "
พลทหารอภินพ เครือสุข ถูกกำหนดหรือเปล่าที่ให้ตายด้วยอุบัติเหตุล้มฟาดโถส้วมคอหักจึงไม่ได้เงินเยียวยากับเขาทั้งที่เขาตายในเรื่องของการที่นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพฯไปพักหรือเปล่าตายเพราะไปรู้ความลับอะไรหรือเปล่า ผบ.ตร.จะไปสอบตามคำ-สั่งนายสุเทพฯ บ้านถูกรื้อไปเสียแล้ว ใคร ๆ เขาตายญาติพี่น้องได้เงินเยียวยากันทุกคน น่าสงสารจริง ๆ
10 กรกฎาคม 2555 16:52 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
คุณ ก้าวที่กล้า เคยเขียนให้เราอ่านกันว่า"ชะตากรรม คนทุกคน หรือเราทุกคนไม่อาจหลีกหนีมันได้หากแต่เราสามารถรับมือกับมันได้ และจนกว่าจะไม่สามารถรับมือกับมันได้"
ก็น่าแปลก พุทธเจ้าบอกว่า กรรมเป็นผลของการกระทำ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
แล้วที่ประชาชนเขาเห็นว่ารัฐบาลมาไม่ถูกต้อง ได้เสียงข้างน้อยแล้วมาซื้องูเห่าไปตั้งรัฐบาล พวกเขาก็เลยมาเรียกร้องให้ลาออกยุบสภาเลือกตั้งใหม่ แต่มาถูกยิงกระโหลก ด้วยปืนหลวงคนหลวง คนเหนี่ยวไกและคนชี้เป้าว่าล้มแล้ว ๆ ล้วนแต่งตัวเป็นทหาร ที่พวกเขาถูกยิงตายไปเก้าสิบกว่าคนนั้นเป็น ชะตากรรม หรือ
พรรคการเมืองหลายพรรคถูกยุบไปด้วยเหตุผลต่าง ๆ กันนักการเมืองถูกตัดสินให้มีความผิด เช่นคุณสมัคร สุนทรเวช ด้วยการอ้างตัวอักษรในพจนานุกรม อย่างนี้เป็นชะตากรรมด้วยหรือ
หากในวันที่ 13 กค.55 ศาลตัดสินให้พรรคการเมือง นักการเมือง และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มีความผิดฐานล้มล้างการปกครองทั้งที่เขาเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และคำแนะนำของผู้พิพากษาที่เคยพูดไว้ โดยคำตัดสินนั้นส่วนหนึ่งมาจากผู้ร่างรัฐธรรมนูญปี 50 เองด้วย ก็เป็นชะตากรรมด้วยใช่ไหม
คุณก้าวที่กล้า บอกว่าเราสาทารถรับมือกับชะตากรรมได้ รับมือกันยังไงดี ยอมติดคุก หรือไม่รับฟังคำตัดสินถือเสมือนว่าไม่เคยมีเพราะไม่มีอำนาจในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นอำนาจของรัฐสภา หรือว่าต่อต้านเดินขบวนกันทั้งแผ่นดินหรือสร้างความปั่นป่วนให้เกิดความรุนแรง จะรับมือกันยังไงดี
ไป ๆ มา ๆ ก็คงจบตรงที่ไม่สามารถรับมือกับมันได้ ชะตากรรม นี่มันร้ายจริง ๆ
3 มิถุนายน 2555 13:32 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
เหตุการณ์ปฏิวัติดอกมะลิในอียิปต์ ปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 25 ม.ค. ปี 2011 ประชาชนได้ลุกฮือขึ้นมาเพื่อต่อต้านรัฐบาลเผด็จการของฮอสนี มูบารัก จนเกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลและประชาชน ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 850 ราย และบาดเจ็บถึง 6,000 คน หลายสัปดาห์ต่อมา วันที่ 11 ก.พ. นายมูบารัก ทนแรงกดดันไม่ไหว และประกาศลาออกจากตำแหน่ง และเข้ารับการไต่สวนครั้งแรกในวันที่ 3 สิงหาคม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ว่า ศาลแห่งประเทศอียิปต์ ตัดสินลงโทษจำคุกตลอดชีวิตแก่ ฮอสนี มูบารัก อดีตประธานาธิบดีอียิปต์ ซึ้งถูกโค่นอำนาจเมื่อที่แล้วก่อน ฐานมีส่วนร่วมในการเข่นฆ่าเหล่าผู้ประท้วง กว่า 850 คน ในระหว่างการลุกฮือต่อต้านรัฐบาลเผด็จการของโลกอาหรับ หรือ การปฏิวัติดอกมะลิ
นายมูบารัก ในสภาพอิดโรยสวมแว่นตาดำ ถูกเปลพยาบาลหามเข้ามาในชั้นศาล และนั่งฟังคำพิพากษาบนรถเข็น เบื้องหลังกรงขังร่วมกับจำเลยคนอื่นๆ ขณะที่ ประชาชนจำนวนมากที่มารวมตัวกันหน้าศาล และติดตามฟังข่าวจากหน้าจอโทรทัศน์ โห่ร้องยินดีหลังทราบบทลงโทษของนายมูบารัก และจุดพลุฉลองเป็นการใหญ่
สำหรับประเทศไทย คนสั่งการเข่นฆ่าประชาชน 102 ศพะ(มีตายเพิ่ม)
และบาดเจ็บอีกเกือบ 3000 ยังลอยนวลและมาลอยหน้าลอยตาคัดค้านอยู่ในสภาได้อีกเมื่อไรกรรมถึงจะตามทัน ท่านอุกฤต มงคลนาวิน ได้บอกวิธีฟ้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศไว้ในการให้สัมภาษณ์แล้วรัฐบาลน่าจะดำเนินการ อย่าปล่อยให้ ประชาชนอังกฤษ คนนี้มาเข่นฆ่าคนไทยได้อีก
4 เมษายน 2555 11:56 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
อาทิตย์ที่แล้ว พรรคพวกเขามาชวนไปเที่ยวอำเภอจุน จังหวัดพะเยา เพื่อไปร่วมพิธีบรรจุพระธาตุ ญาติผู้ใหญ่เขาทำบุญกันมานานทอดผ้าป่ากันหลายครั้งกว่าจะสร้างเจดีย์เสร็จ คราวนี้ถึงคราวบรรจุพระธาตุ ก็พากันยกขบวนไปร่วมบุญ มีทั้งรถตู้ รถเก๋ง รถทัวร์ทางวัดเขาจองรีสร์ท และโรงแรมที่พะเยาไว้สำหรับแขกที่ไม่สามารถนอนพักที่ห้องพักของวัดซึ่งจัดไว้พอสมควร คณะของผมมีแค่สี่คนเดินทางโดยรถยนต์ฮอนด้าแอคคอร์ท ติดแก้ส ที่เอาคันนี้ไปก็เพื่อประหยัดค่าน้ำมันถ้าเอาสปอร์ตไลท์เดอรไปค่าน้ำมันไม่ต่ำกว่าสี่ห้าพัน
เราออกจากกรุงเทพฯตั้งแต่ตีห้า กะว่าจะไปถึงวัดตอนเย็นพอดีแวะกินอาหารเช้าที่ร้านบ้านสวน แล้วตรงลิ่วขึ้นเหนือไม่หยุดที่ไหนนอกจากเติมแก๊สครั้งแรกว่าจะไปทางแพร่ออกอำเภองาวไปพะเยาแค่เพื่อนบอกว่าไปทางลำปางดีกว่าทางใหญ่สดวกกว่าจึงม่งไปทางลำปางแวะกินอาหารกลางวันที่กำแพงเพชรแล้วพุ่งไปลำปางเลยจากลำปางมุ่งเส้นทางเชียงรายถึงพะเยาบ่าย ๆแก่ ๆแวะกินอาหารเย็นริมกว้านวนรถชมกว้านพะเยาแล้วเลยเข้าอ.จุน ผ่านอ.ดอกคำใต้
ยังยั่วกันว่าเห็นบ้านริมทางใหญ่ ๆแถวนี้พวกเราได้สมทบทุนช่วยสร้างด้วยอิอิ
เพราะเป็นที่ทราบกันว่า ลูกสาวที่ไปทำงานหาสตางค์ส่งเงินมาให้พ่อแม่เขาจะสร้างบ้านประชันกัน แต่ละหลังสวย ๆงาม ๆทั้งนั้น
มาถึง วัดสร้อยศรี ต.จุน อ.จุน ใกล้ค่ำพอดี พระจัดให้พักในห้องพักห้องหนึ่งสี่คนเลยพอดีทางวัดเขาจัดทำพิธีสืบชะตา ให้ญาติโยม แขกผู้มีเกียรติที่มาจากกรุงเทพน์ในคืนนั้นซึ่งมาถึงกันแทบทุกคณะแล้วเราก็เข้าร่วมกับเขาด้วย ลานกลางแจ้งหน้าพระพุทธรูปมีสายสิญญ์โยงให้ชาวบ้านนั่งเรียงติด ๆกันแต่ละคนจะมีสายสิญญ์คล้องที่หัวขึ้นไปผูกกับสายหลักที่เป็นตารางอยู่ด้านบน พระก็จะสวดมนต์พิธี นั่งพนมมือกันอยู่นานมากกว่าจะเสร็จพิธีสืบชะตา คืนนั้นนอนหลับสบายมีเสื่อหมอนผ้าห่มของวัดนอนเรียงกันสี่คนเลย แขกจากกรุงเทพน์บางส่วนนอนห้องติด ๆกันบางส่วนไปนอนรีสอร์ทใกล้ ๆบางส่วนขับรถเข้าไปนอนที่พะเยา
เช้าขึ้นมาวัดเลี้ยงข้าวต้มหมูแล้วเริ่มจัดเตียมเรื่องพิธีบรรจุพระธาตุ สำหรับพระธาตุที่วัดนี้จะทำการบรรจุ ท่านเจ้าอาวาสได้เดินทางไปรับจากวัด บวรนิเวศมหาวิหาร กรุงเทพฯองค์สมเด็จพระสังฆราชประทานมาตอนที่ได้มาถึงวัดก็ฉลองกันไปคราวหนึ่งแล้วข่าวการบรรจุพระธาตุแพร่กระจายไปทั่วญาติโยมนำกองผ้าป่าแห่แหนกันมาไม่ขาดสายร่วมอนุโมทนาบุญกับวัดศร้อยศรี หลังเลี้ยงภัตาหารเพลแล้วทั้งพระและญาติโยมก็ออกจากโบสถ์ไปที่บริเวณเจดีย์สวยงามที่สร้างไว้เกือบสมบูรณ์ มีรถเครนเตรียมยกเครื่องพระธาตุขึ้นบรรจุที่ยอดเจดีย์
ประชาชนต่างยินดีกันทั่วหน้า
ในขณะนั้นมีพระ หรือคนแต่งตัวเป็นพระก็ไม่ทราบมีหมวกไหมพรมอยู่บนหัวเหมือนป้องกันหนาวเข้ามาในวัดเข้าไปบริเวณโบสถ์ซึ่งพระและแขกไปอยู่ที่เจดีย์กันหมดมีแต่ชาวบ้านที่แห่องค์ผ้าป่าเข้ามาทีหลังก็ตรงไปที่โบสถ์ พระที่ว่านี้ มีหน้าม้าเรียกกว่า ท่านน้อย ๆเดินไปมาเปิดหมวกออกมีพระธาตุปลอมตกกระจายออกมาชาวบ้านก็กรูกันเข้าไปเก็บ ดีอกดีใจได้พระธาตุ แล้วพระอลัสชีก็เข้าไปนั่งในโบสถ์ ชาวบ้านที่แห่ผ้าป่ามาใหม่ก็พากันไปถวายองค์ผ้าป่า พระนี้ก็รับไว้ทั้งหมดนับเงินใส่กระเป๋าเพลินไปไปเลย ทางพระทีวัดนี้จริง ๆไม่มีใครรู้เรื่องด้วย
ท่านเจ้าอาวาสสาละวนอยู่กับการขึ้นไปบรรจุพระธาตุบนยอดเจดีย์กับเครนใช้เวลานานกว่าจะเสร็จพิธี เมื่อกลับมาที่โบสถ์ พระองค์นั้นก็กลับไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ท่านก็บอกว่าอโหสิกรรมก็แล้วกันเขาคงได้เงินจากองค์ผ้าป่าที่ไม่รู้เรื่องถวายไปมากเหทือนกัน ชาวบ้านพากันสาปแช่งท่านเจ้าน้อยกันขรม
ตอนนั้นใกล้ค่ำแล้วเราก็ต้องนอนค้างอีกคืนหนึ่ง รุ่งขึ้นกราบลาเจ้าอาวาสแต่เข้าขับรถออกพะเยาคราวนี้เรากลับทางแพร่โดยแยกที่อ.งาว จากแพ่หลังจากไหว้พระธาตุช่อแฮ แล้วตรงเข้าพิษณุโลก แวะไหว้พระพุทธชินราช แล้วไปกินก๋วยเตี๋ยวห้อยขา แล้วดิ่งกลับกรุงเทพฯมาทางสากเหล็กถึงกรุงเทพฯมืดพอดี
ที่เอาเรื่องนี้มาเล่าอยากให้เพื่อน ๆระวังพระประเภทนี้ไว้บ้างมีชุกชุมเหลือเกินแต่ก็ยังดีกว่าพระหล่อพูดเพราะรับทีละล้านสองล้านบางคนขับรถมาทำบุญขากลับนั่งแท๊กซี่ บอกว่าขายรถทำบุญไปแล้ว อิอิ
22 มีนาคม 2555 16:45 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
เมื่อเคราะห์หามยามร้ายชะตาตกกาจับฝาโลง จะหลีกเลี่ยงอย่างไรก็ไม่พ้นเท่งทึง ชะตาของผมยังไม่ถึง กาจับฝาโลงเหมือนนางวันทอง คงแค่บินเฉียด ๆ ก็เลยยังไม่ถึงที่ตายแค่เลือดตกยางออกนิดหน่อยพอจิ๊บ ๆ เรื่องเป็นไงจะเล่าให้ฟัง
เพื่อนรุ่นพี่เขาเบื่อแหน่ายชีวิตกัปตันเรือเดินทะเล ที่ร่อนเร่ไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ เป็นกับตันเรือมาหลายต่อหลายลำทั้งเรือขนสินค้าแบบระวาง เรือน้ำมันและเรือตู้คอนเทนเนอร์ เงินเดือนจากหลาย ๆหมื่นเป็นหลักแสนแกกลับขอเลิกเป็นกัปตันบริษัทเขาจึงให้แกขึ้ยมาเป็นผู้จัดการควบคุมกองเรือเกือบสิบลำ
ที่ขอขึ้นบกก็คงอยากจะมีครอบครัวเป็นฝั่งเป็นฝาเสียทีเงินทองมีมากมาย ไม่รู้จะใช้เงินยังไงก็เอาไปซื้อที่แถวลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี ห้าไร่กว่าให้เขาเช่าทำนา ถมที่กะจะปลูกบ้านไร่เดียว แถมหลายปีก่อนยังส่งเงินให้แฟนเก็บสำหรับปลูกบ้านและทำพิธีแต่งงานแต่เชื่อไหม พอขึ้นบกมาถึงรู้ว่าแกถูกหลอกจนเหมือนเป็นไอ้งั่ง แฟนคนที่หวังนักหนาเขามีใหม่ไปนานแล้วคงจะรอกับตันเรือเร่ไม่ไหว แต่ก็ยังหลอกเอาเงินตลอดมาแกหมดไปหลายล้าน เคยกินเหล้ากันแกสอนว่าอย่าไว้ใจผู้หญิงคงจะเข็ดผู้หญิงไปจนตายป่านนี้คงทำใจได้แล้วละ
สำหรับที่แกที่ให้เขาเช่าไว้ พอน้ำท่วมใหญ่คราวนี้คนเช่าที่บอกเลิกเช่าเพราะข้าวตายหมด ต้นไม้ที่ปลูกบนที่ถมแล้วก็ตายเกือบหมด ที่ของแกถูกทิ้งหลายเดือนก็คงรกร้างหญ้าเต็มไปหมดเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วแกจึงชวนไปดูที่กันพอไปถึงจึงพบว่าที่ของแกอยู่ติดคลองชลประทานโซนหก แยกจากประตูน้ำคลองเจ๊ก น้ำในคลองบริบ฿รณ์ถ้าจะทำนาก็สูบได้ทันทีแต่คนเช่าเลิกไปจึงรกร้าง
ต้องขอข้ามคลองจากสะพานของบ้านติด ๆกันจึงเข้าไปถึงที่ใช้มีดคนละเล่มถางฟันหญ้าไปเรื่อย ๆบนที่ถมสูงยังมีต้นขนุน ต้นมะรุมเหลืออยู่ เก็บลูกขนุนได้หลายลูกใหญ่ ๆ ฝักมะรุมกำลังกินได้เป็นหอบ พี่แกบอกว่าจะเอาไปฝากญาติ ผมเองไมรู้จะเอาไปทำอะไรได้เพราะไม่มีครัวพึ่งร้านอาหารมาตลอด
ตอนจะกลับหลังลำเลียงของออกมาเที่ยวสุดท้ายผมถือมีดฟันต้นหญ้าเถาวัลย์มีดกลับแฉลบมาถูกหน้าแข้งเป็นแผลเลือดออกมากเหมือนกัน เอาผ้าเช็ดหน้ามัดแน่นจนเลือดหยุดแล้วพากันกลับบ้าน ผ่านร้านยาเลยซื้อยาใส่แผลสดเบตาดีน ผ้าก๊อตพาสเตอรมาทำแผลที่บ้านพี่เขาเห็นว่าไม่เป็นไรเลยนั่งกินหล้ากันจนครี่งคืนถึงกลับนอน กว่าจะหลับรู้สึกปวดตุบ ๆ
เข้าขึ้นมารีบล้างแผลด้วยเบตาดีน พบว่าบวมมากขื้นแถมสีคล้ำ ๆด้วยใจไม่ดีเลยตกลงใจไปโรงพยาบาล จับแท๊กซี่ได้ไปโรงพยาบาลใหญ่แถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไม่ต้องบอกว่าโรงพยาบาลอะไรก็ได้ เข้าห้องฉุกเฉิน รอหมอสักเดี๋ยวก็มาเป็นคุณหมอสาวสวยนุ่งกางเกงทะมัดทะแมง แถมดุเอาว่าทำไมไม่รีบมาจัดการทำแผลเย็บสักสองเข็มมั้งสั่งฉีดยาคงจะแก้อักเสบฆ่าเชื้อและก็ กันบาดทะยัก
ยากันบาทะยักนี่ต้องมาฉีดอีกสองครั้งเข็มที่สองห่างเข็มแรกหนึ่งเดือน เข็มที่สามห่างเข็มแรกหกเดือน กลายเป็นเรื่องใหญ่และต้องมาล้างแผลทุกวันจนกว่าจะหาย ทีนี้เรื่อง สงครามมือ ตามหัวเรื่องมันอะไรกันล่ะ เรื่องมันเป็นอย่างนี้
พอได้เวลาแปดนาฬิกาเคารพเพลงชาติแล้วพยาบาลเขาก็นำคนไข้ให้ทำสงครามมือ(ผมเรียกเอง)ทางโรงพยาบาลเขาเรียก"ตีลัญจกร"เป็นท่าบริหารมือเพื่อบำรุงอวัยวะภายในผมก็เลยได้นั่งทำกับเขาด้วยมีอยู่ด้วยกัน 8 ท่า
ท่าที่ หนื่ง บริหารลำไส้ใหญ่แก้ท้อ งผูก
คว่ำมือ ใช้แนวนิ้วชี้กับนิ้วโป้งโค้งเป็นรูปตัวซีทั้งสองข้าง กระทบกันเบา ๆ 36 ครั้ง
ท่าที่สอง บริหารลำไส้เล็ก
หงายมือ ใช้แนวนิ้วก้อยถึงสันมือกระทบกันเบา ๆ 36 ครั้ง
ท่าที่สาม บริหารเยื่อหุ้มหัวใจ
ตั้งมือทั้งสองขึ้นหงายมือออกเป็นรูปดอกบัวใช้อุ้งมือตีกันนับ 36 ครั้ง
ท่าที่สี่ สร้างภูมิต้านทานโรค
กางนิ้วมือทั้งสองข้างออกแล้วสอดเข้าหากันให้มีเสียงดังฉับ บีบนิ้วมือทั้งสองข้างเล็กน้อยแล้วดึงออก ทำ 36ครั้ง
ท่าที่ห้า บริหารปอดซ้ายขวา
กางมือซ้ายออกไม่ต้องเกร็งแล้วใช้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือขวา หนีบแล้วดึง ตรงกลางระหว่างนิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือซ้ายนับ 36 ครั้งและสลับข้างทำอีก 36 ครั้ง
ท่าที่หก บริหารกล้ามเนื้อหัวใจ
ให้กำมือขวาและกางมือซ้ายออก จากนั้นให้เอาสันหมัดต่อยอุ้งมือซ้าย ไม่ให้มีเสียง นับ36 ครั้ง สลับข้างทำนับ 36 ครั้งเช่นเดียวกัน
ท่าที่เจ็ด บริหารเพื่อ ไตขวา และ ไตซ้าย
ให้หงายมือขวาขึ้น มือซ้ายคว่ำลง ใช้หลังมือขวาตีบนหลังมือซ้ายทำ 36ครั้ง และสลับข้างทำนับ 36 ครั้งเช่นเดียวกัน
ท่าที่แปด กระตุ้นเส้นลมปราณ (เปิดจุดรับพลัง ซ้าย - ขวา
ให้กางมือซ้ายออก จากนั้นใช้นิ้วหัวแม่มือขวาหมุนตามเข็มนาฬิกา รอบจุดเล่ากงคือบริเวณเหนือกลางฝ่ามือขึ้นไป ค่อนไปทางนิ้วโป้ง นับ 36 รอบ และสลับข้างทำ นับ 36 รอบเช่นเดียวกัน
ที่เอามาฝากกันนี้เผื่อเพื่อน ๆจะได้อายุยืนหมื่นปีเท่ากับผมไง