สามสิบเก้าเข้าแล้วในปีนี้ไม่อยากมีเลขสี่โอ้พระเจ้ามองกระจกตีนกามาแล้วเราจึงไม่อยากมีเ้งาให้จ้องมองเฝ้าวนเวียนเขียนอ่านในบ้านกลอนเที่ยวอ้อนวอนให้ใครเป็นเจ้าของเขาต่างเมินไม่ยอมมาจับจองถึงป่าวร้องขอทานรักยังผลักหนีใช้ชีวิตลุ่มดอนมานานนักต้องคิดหนักตอนจะย่างเข้าเลขสี่หนีไปบวชอีกครั้งคงจะดีแต่คราวนี้เขาคงไม่ให้ลาหนีชีวิตไม่ได้คงต้องสู้เพื่อให้รู้ต้องใช้ความใจกล้าไม่ขี้ขลาดตาขาวเหมือนก่อนมาคุกเข่าหน้าอัลมิตราคงจะดีถามให้ชัดแต่งงานด้วยกันไหมพร้อมกล่องแหวนรูปหัวใจเป็นสักขีไม่อยากรออายุนามถึงข้ามปีกลัวจะขึ้นเลขสี่แก่เกินแกงต้องจับยามสามตาอุบากองหาว่าเมายาดองคงถูกแกล้งเพราะความโหดที่เธอเคยแสดงอาจจะแว้งขบหัว..กลัวจริง ๆ
พอหรือยังพ่อแม่พี่น้องเอ๊ยอย่าทำเฉยเป็นทองไม่รู้ร้อนหันมาดูมาฟังพวกหนูก่อนหนูอยากวอนขอความกรุณาโรงเรียนหนูต้องปิดหลายวันแล้วคงไม่แคล้ววุ่นวายในวันหน้าไม่ได้เรียนหนังสือหลายวันมาหากชักช้าพวกหนูตงโง่งมทั้งค่าเทอมค่าอาหารพ่อแม่จ่ายท่านขวนขวายส่งเสริมให้เหมาะสมถึงวันนี้เหตุการณ์พาลทุกข์ตรมฤๅกรุงเทพฯต่างนิยมความรุนแรง ?ทำให้หนูต้องหยุดเรียนหนังสือหรือนี่คือดวงเทียนที่ส่องแสงเป็นตัวอย่างผู้ใหญ่ได้แสดงให้เด็กเห็นความขัดแย้งเป็นเรื่องดีพอเสียเถิดได้ไหมหนูร้องขอไม่รู้รอเมื่อไหร่จะได้ที่อยากจะเรียนหนังสือกันเสียทีแย่งอำนาจกันทุกปี..พอหรือยัง ?
หนทางมีให้เดินแต่ว่าไกล
ไม่ทันใจกำนันผู้มันเขี้ยว
อยากจะใช้เวลาประเดี๋ยวเดียว
จึงบิดเบี้ยวสรรหาประชาธิปไตย
หากพร้อมใจไม่เลือกพวกทักษิน
เรื่องระบบที่ได้ยินหมดไปได้
ไม่ต้องสร้างวาทะกรรมมาใส่ไคร้
ไม่ต้องขนคนใต้มาปิดเมือง
ด้วยหนทางเส้นนั้นมันขรุขระ
ได้จังหวะนิรโทษเป็นโจทย์เรื่อง
พบทางลัดประชามาโกรธเคือง
ใช้วิธียึดเมืองมันเร็วดี
แต่กรุงเทพฯไม่ใช่ประเทศไทย
ประชาชนส่วนใหญ่ตาสาตาสี
คนเหมือนกันปัญญาเขาก็มี
หาว่าโง่อัปรีย์ได้ยังไง
จะอ้างว่าห้าแสนเท่าห้าล้าน
คนผมล่วงทั้งกระบานช่างอ้างได้
ยกขบวนปิดเมืองตัดน้ำไฟ
อัธพาลหรือไร..ท่านกำนัน