13 สิงหาคม 2549 23:15 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
อยากจะมีพออยู่และพอกิน
ไม่ต้องมีหนี้สินพอกดอกเบี้ย
ไม่ต้องด้านแบกหน้าพึ่งอาเฮีย
ไม่ต้องเพลียตอนตวงข้าวใช้เจ้าหนี้
อยากส่งลูกร่ำเรียนถึงปริญญา
อยากปลูกบ้านมุงหลังคากระเบี้องสี
อยากมีรถคูโบต้าใช้งานดี
บวชลูกชายจ้างดนตรีหมอลำเพลิน
เดินทางไกลเลิกใช้เรือกระแชง
มอเตอรไซด์ขับแซงดั่งเหาะเหิร
ให้สังคมชาวนาไม่มองเมิน
ยามก้าวเดินกลุ้มกริ่มรอยยิ้มโปรย
ปลาสลิดตัวใหญ่เท่าฟายมือ
ทำโฮกอือซดน้ำยามระโหย
จิบยาดองชมวิวพลิ้วลมโชย
เนื้อเค็มโรยหน้าข้าวเท่านี้พอ...
7 สิงหาคม 2549 23:01 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
ลมสงบใบไม้ไม่ไหวติง
ในเงามืดนั่งนิ่งเฝ้าครุ่นคิด
มีสิ่งใดได้กระทำในทางผิด
เคยใกล้ชิดจึงห่างลาร้างไกล
เรื่องความรักภักดียังมีมั่น
เรื่องไหนกันเคยเกเรทำเฉไฉ
ไม่เคยปดมดเท็จแต่อย่างใด
หรือว่าใครเป่าหูจึงวู่วาม
กิริยาท่าทางดูผิดตา
ทั้งวาจาชาเย็นเน้นคำถาม
ทำหน้างอล้อเล่นไม่เห็นงาม
ออกอาการหยันหยามให้เคลือบแคลง
คงจะมีคนใหม่ใฝ่พะวง
คิดงุนงงหวั่นไหวใจแสลง
เจ็บปวดปร่ากับท่าทีที่แสดง
จะว่าแกล้งคงไม่ใช่ใจเธอรวน
ในส่วนลึกสำนึกรู้โฉมตรูเลือน
ความรู้สึกย้ำเตือนว่าผันผวน
พินิจใดไม่เห็นเป็นชนวน
ทุกสิ่งล้วนเกิดได้เพราะใจแปร..
6 สิงหาคม 2549 22:21 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
ความในใจก้นบึ้งพึ่งประจักษ์
แท้ก็รักแล้วไม่บอกทำกลอกหน้า
เพียงโยนหินถามทางใช่ร้างลา
ออกอาการวุ่นว้าน่าหัวเราะ
เหตุเพราะเจ้าปั้นปึ่งเหมือนขึ้งโกรธ
ทำตัวห่างพันโยชน์ไม่เห็นเหมาะ
จึงสร้างเรื่องใส่ไข่ให้จำเพาะ
เพื่อสะเดาะดาลใจได้ไขความ
ต่อจากนี้สัญญาข้ารู้แล้ว
ว่ายอดหญิงมิ่งแก้วไม่หยันหยาม
ซ่อนความรักภักดีที่งดงาม
จะติดตามเจ้าไปจนวายปราณ
ข่าวฮือฮาอย่านำมาตัดสิน
ลืมให้สิ้นเรื่องราวที่ร้าวฉาน
คำนินทาเก็บไว้เป็นตำนาน
ทำจิตใจชื่นบานมั่นรักเรา...
3 สิงหาคม 2549 23:39 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
เพราะใจเธอไหวอ่อน
จึงออดอ้อนบอกว่ารัก
ครั้นอ้างมาท้วงทัก
กลับเสแสร้งว่าแกล้งล้อ
เรื่องรักใช่ล้อเล่น
เหมือนดั่งเช่นห่วงคล้องคอ
คำเดียวก็เกินพอ
จำใส่ใจไม่ลืมเลือน
หาใช่เป็นเรื่องลับ
น้อมคำนับไม่กลบเกลื่อน
ประกาศต่อผองเพื่อน
ให้รู้ทั่วไทยโพเอ็ม
ใช่แฉหรือรื้อฟื้น
ใจเต็มตื้นรับรักเต็ม
ควานหาเหมือนงมเข็ม
กว่าจะพบประสบรัก
ภูมิใจได้ของแปลก
แม้ต้องแบกเพิ่มน้ำหนัก
เสาะหามานานนัก
ถึงหลังหักก็ยอมตาย....
3 สิงหาคม 2549 12:29 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
คำพ้อของโฉมตรู
ว่าขี้ตู่ดังโฉงเฉง
หาว่าคิดไปเอง
เธอคนเก่งคงลืมกลอน
"รักนะใช่ไม่รัก
มาดเยอะนักต้องสั่งสอน
หากเธอยังอาวรณ์
อ้อนอีกหน่อยค่อยอภัย"
หลักฐานมีชัดแจ้ง
มาแสดงแล้วนี่ไง
รับรักแล้วใช่ไหม
ขอจงได้รับความจริง
ลมปากเอ่ยวาจา
เขาถึงว่าใจผู้หญิง
แกว่งไกวไม่หยุดนิ่ง
เหมือนไม้เลื้อยจับเรื่อยไป
ไต่เต้าจากต่ำเตี้ย
จากดินเรี่ยถึงยอดไม้
ยากยิ่งจะไว้ใจ
เปรียบหลักไม้ปักโคลนเลน
รู้ซึ้งถึงแก่นแท้
ดูให้แน่จึงรู้เช่น
โบราณท่านตั้งเกณท์
เปรียบเปรยไว้ให้รับฟัง..