11 มิถุนายน 2548 10:06 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
แสนอบอุ่นหนุนนอนผ่อนความเหงา
กอดคลึงเคล้านิ่มนุ่มอุ้มเปลี่ยนหัน
พลิกทางซ้ายป่ายทางขวาพัลวัน
หมอนข้างฉันกอดก่ายหายเศร้าทรวง
อยากมีเธอเป็นหมอนเคลียนอนกอด
กระซิบพลอดฉ่ำชื่นขึ้นแดนสรวง
เฝ้ากล่อมเห่เทใจให้ทั้งดวง
กาลเลยล่วงยังละเมอเพ้อเวียนวน
ฝ่าเปลวแดดแผดเผาเข้าพายุ
ทะลวงทะลุเมฆาผ่านห่าฝน
สายฟ้าแลบแปลบปลาบวาบกมล
ทั้งเวหนพลันพิโรธโกรธคำราม
ดั่งวิหคเปียกฝนทนหนาวเหน็บ
แปลบเสียวเจ็บปีกหักปักพงหนาม
ร้าวสะท้านรานกายหลายชั่วยาม
จึงฝ่าข้ามวังวนลมฝนคราง
เสียงแผดก้องสองหูไม่รู้ศัพท์
สะดุ้งกลับพลิกฟื้นลุกยืนขวาง
ความงวยงงหลงฝันมิทันจาง
ใครมาขว้างหลังคาเสียงด่าพึม
เพื่อนมาเรียกอย่างไรก็ไม่ลุก
จึงต้องปลุกเด็ดขาดยังมาดขรึม
กางเกงเปียกเหงื่อเต็มหน้ามานั่งซึม
เสียงโห่ตรึมรีบอาบน้ำตามเขาไป...
9 มิถุนายน 2548 09:46 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
ฉันมีค่าเพียงหินที่บิ่นหัก
เธอคัดเลือกไสผลักทิ้งลงเหว
จมโลกันต์ฝันค้างกลางเพลิงเปลว
ความดีเลวเห็นได้ด้วยสายตา
ลายไม่งามไม่เห็นเป็นประกาย
แสงไม่ฉายเก็บไว้ก็ไร้ค่า
มิใช่เป็นอัญมณีมีราคา
แค่นจะมาประชันฝันเกินตัว
เป็นก้อนหินดินดานจมลานตม
หวังชื่นชมเพียงเงาเขายิ้มหัว
สำนึกรู้ด้อยค่าตามืดมัว
หยุดพันพัวพักใจก่อนสายเกิน
มองไม่เห็นหัวใจในก้อนหิน
ทิ้งจมดินมองผ่านอ่านผิวเผิน
มีประโยชน์ควรคู่ปูทางเดิน
เหยียบย่ำเพลินมุ่งเสาะหาค่าเพชรทอง