14 มีนาคม 2546 13:05 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
ฟ้าหรือกั้นความฝันแสนบรรเจิด
สิ่งประเสริฐปรากฎในใจฉัน
เป็นความรักสลักลึกฉกรรจ์
จะสุขสันต์หรือเศร้าเราต้องลอง
อนาคตกว้างไกลไปข้างหน้า
เพิ่มความกล้าแกร่งให้ใจเราสอง
อุปสรรคขวางกั้นมั่นปรองดอง
เมื่อสมปองความฝันพลันงดงาม..
14 มีนาคม 2546 01:48 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
ดอกตะแบกม่วงครามงามสดใส
มีนัดกับหัวใจในเดือนสาม
หากได้เห็นตะแบกสีม่วงคราม
ก็ถึงยามที่เธอจะกลับมา
นิสิตสาวคงกลับมารับขวัญ
หลับก็ฝันพ่อแม่ก็แลหา
ปิดภาคเรียนเลยเลื่อนเดือนมีนา
เธอยังไม่กลับมาตั้งตาคอย
จะเจ็บไข้ได้ป่วยอย่างไรหนอ
ใจคนรอแสนเศร้านั่งเหงาหงอย
ไม่ส่งข่าวมาเลยแม้แต่น้อย
ตาละห้อยห่วงนักหรือรักจม
ดอกตะแบกพรูร่วงสีม่วงหล่น
เกลื่อนโคนต้นกรุ่นกลิ่นดินผสม
เธอคงลิ่วลอยไปกับสายลม
ต้องซบซมขมขื่นกลืนน้ำตา...
13 มีนาคม 2546 13:59 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
ทะเลป่วนปั่นครั่นครื้น ม้วนหมุนยอดคลื่น
แตกตื่นใต้ฝุ่นหมุนวน
ท้องฟ้ามืดมิดมัวมน เหมือนเช่นใจคน
สับสนคล้ายลมเปลี่ยนทิศ
ลมรักโลมเร้าหลงผิด ลืมคนใกล้ชิด
สักนิดไม่เคยอาวรณ์
จากไปเหมือนแก้วลืมคอน ลืมถิ่นกินนอน
อวยพรให้เธอไปดี
เมื่อไปไร้ทุกข์สุขศรี สุขเกษมเปรมปรีดิ์
ยินดีร่วมด้วยอวยชัย
หากมีทุกข์โศกโรคภัย รับฝากผีไข้
พักใจอกกว้างยังรอ....
12 มีนาคม 2546 12:56 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
หนีหน้าดีกว่านะน้อง
ไม่อยากเรียกร้องให้ใครช่วยที
เพราะความจนเงินทองไม่มี
ต้อยต่ำศักดิ์ศรีจึงต้องอำลา
อยู่ดงพงไพรหาฟืนทำไร่ยังดีเสียกว่า
ไม่ต้องเจ็บช้ำไม่ต้องพบสบสายตา
นอนฟังเสียงฟ้าเสียงลมประชัน
หรีดหริ่งระงมร้องมันเสียดก้องหัวใจฉัน
เหมือนเย้ยเยาะอยู่นานครันหริ่งหรีดมันรู้ใจเรา
รักเขาทั้งหัวใจลืมได้ไงไม่เหมือนเก่า
รู้ทั้งรู้ก็ยอมเศร้าเหงาแสนเหงาก็ยอมทน
หนีหน้าดีกว่านะเธออย่าได้พบเจอกันเลยสักหน
ฉันรักเธอแล้วต้องทุกข์ทนขอเกิดเป็นคนชาตินี้ชาติเดียว
10 มีนาคม 2546 12:09 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
ลูกเอ๋ย...วาระของชีวิตขออย่าคิดให้โศกเศร้า
พ่อแม่นั้นแก่เฒ่าจำจากเจ้าไปตามกาล
ใจจริงไม่อยากจากเพราะยังอยากเห็นลูกหลาน
แต่ชีพมิทนทานย่อมร้าวรานสลายไป
ต้นไม้ที่ใกล้ฝั่งมีหรือหวังอยู่นานได้
วันหนึ่งคงล้มตายทิ้งลูกไว้ให้งอกงาม
หวังเพียงให้ลูกรักมั่นในหลักแก้วทั้งสาม
สิ่งใดที่เลวทรามไม่เกี่ยวข้องครรลองชนม์
สติให้ครองตัวนำไปทั่วทุกแห่งหน
ท่ามกลางกลุ่มผู้คนจะโดดเด่นเป็นศรีสกุล