12 มิถุนายน 2547 00:57 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
มีเหลือเพียงหัวใจที่ใหลหลง
เฝ้าพะวงแต่งกลอนอักษรศรี
สัมผัสนอกสัมผัสในยังไม่ดี
อักขระวิธียังผิดครู
แนวความคิดประหลาดมาดคึกคัก
วางรูปลักษณ์ยุ่งยากอยากโก้หรู
นำเสนอหลอกล่อให้ต่อสู้
ติดตลกพกอยู่ในสำนวน
แจมเย้ายั่วทั่วไปใจสะอาด
ข้อความขาดตกหายไม่ครบถ้วน
ไม่รู้ที่ต่ำสูงควรไม่ควร
เป็นตัวป่วนอิดหนาระอาใจ
บ้างล้อเล่นเย้ยหยันกลั่นวาจา
ตั้งสมญานักกลอนผู้ยิ่งใหญ่
ไม่ว่ากันเรียกได้ก็เรียกไป
เขาประเสริฐกว่าใครจึงปรายตา
4 มิถุนายน 2547 13:37 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
ผีเสื้อตัวน้อยบินคล้อยเคลื่อน
กลาดเกลื่อนแนวไพรใสสีสัน
ดอกว่านดอกหญ้าริมลำธาร
กุหลาบป่าบานรับสุรีย์
นกเงือกหัวโงกงับลูกไทร
กระรอกตกใจกระโจนหนี
ฝูงลิงไล่กัดฝูงชะนี
กระทิงวิ่งปรี่ผสมพันธุ์
สมเสร็จลุยโคลนลงตีแปลง
ไก่ฟ้าหน้าแดงโก่งคอขัน
ส่ำสัตว์แตกตื่นพัลวัน
เลื่อยยนต์เสียงลั่นโค่นไม้ล้ม
โซ่เลื่อยกินไม้เนื้อขาดวิ่น
ทำลายจมดินกลิ้งทับถม
ตัดทอนชักลากจนเสื่อมโทรม
ป่าไม้สลายล่มน้ำมือใคร
ภูเขาหัวโล้นถูกโกนเกลี้ยง
มีไหมกล้าเสี่ยงขัดขวางได้
มวลชนราชการถ้าร่วมใจ
รักษ์ป่าเหลือไว้ลูกหลานชม...
1 มิถุนายน 2547 09:58 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
หยดน้ำตามาคู่กับนารี
กี่หมื่นปียังใช้ได้มนต์ขลัง
มัดชายชาญใจหินสิ้นพลัง
ยอมให้เธอกลบฝังร่างจมดิน
แม้จะหลั่งน้ำตาเป็นสายเลือด
แม้จะเชือดร่างออกเป็นร้อยชิ้น
แม้จะสับกายาให้กากิน
อย่าถวิลว่าน้ำตามาล้างใจ
เหตุน้ำตาพาช้ำระกำรัก
อกต้องหักเพราะผู้หญิงยิ่งปลาไหล
ขอสาปส่งกงกรรมที่ทำไว้
ยามสิ้นใจอย่าบอกทางสร้างวิมาณ
ไม่อยากพบอยากเห็นไม่อยากตื่น
ไม่อยากขึ้นไปถึงสรวงสวรรค์
ขอตกอยู่ในนรกหมกโลกันต์
จมอยู่กับความฝันหยดน้ำตา
14 พฤษภาคม 2547 00:33 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
กลางดงต้นตาล ตโหนดน้ำหวาน
สูงลิ่วล้อลม
เคียงคู่เคลียคลอ หยอกล้อชิดชม
ไอดินกลิ่นผม ซาบซ่านทรวงใน
ใบตาลเสียดเสียง เสนาะสำเนียง
เหมือนดนตรีไทย
กรก่ายเกยกอด พร่ำพลอดพลิ้วไหว
เมฆขาวนวลใย พ่ายนวลแก้มนาง
อวบอกเอวอิ่ม วงพักตร์พรายพริ้ม
โอบเอวมิวาง
ชื่นรักสุขล้น จวบจนฟ้าสาง
อุทัยใสพร่าง นกออกหากิน
จำใจจำจาก เคราะห์กรรมนำพราก
อาวรณ์ถวิล
หวังไว้สูงนัก ลงหลักปักถิ่น
ลืมทุกข์ให้สิ้น เพียงเราสองคน
13 พฤษภาคม 2547 16:07 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
ตามครรลองผองชนมีเป้าหมาย
เป็นผืนทรายผืนน้ำสูงค้ำฟ้า
ต่างมุ่งมั่นตะกายเพื่อได้มา
อยู่สุดหล้าแสนไกลไม่ย่อท้อ
แม้แต่พระครองผ้าอยู่ในโบสถ์
ยังมุ่งหน้าหาประโยชน์เข้าพกห่อ
ตาลปัตรพัดยศกำหนดรอ
ถึงแย่งชิงวิ่งขอกันเกรียวกราว
ต่างกับสัตว์ล่าเหยื่อเนื้อพออิ่ม
แล้วพักผ่อนนอนพริ้มไม่ร้อนหนาว
ไร้สมบัติตกทอดกันยืดยาว
ตายเปลี่ยวเปล่าทับถมร่างจมดิน
ที่โลภมากกอบโกยเป็นหมื่นล้าน
ตายไปแล้วถูกผลาญจนหมดสิ้น
แบกติดตัวไปไม่ได้แม้สักชิ้น
ร่างเป็นปุ๋ยฝังดินสิ้นยืนยง
ควรคิดใหม่ทำใหม่เป้าหมายตั้ง
เพื่อหยุดยั้งละโมภและโกรธหลง
ช่วยจรรโลงสรรพสัตว์ให้มั่นคง
ได้เชื่อมโยงคุณธรรมเปี่ยมน้ำใจ