10 มีนาคม 2551 23:26 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
มีทางรักแคบแคบแอบมาร่วม
อยากจะสรวมรอยรักเพื่อถักสาน
ละครรักร้อนเร้นเป็นตำนาน
เผื่อรักหวานลอยลมให้ชมเชย
ในส่วนลึกปรารถนามาร่วมสร้าง
หากเปิดทางเปิดใจใคร่เปิดเผย
ว่าหัวใจตรงกันกระนั้นเลย
อย่าเมินเฉยซ่อนรักบอกสักครา
แม้หลุมรักหล่มลึกมุ่งจะลง
แม้ลุ่มหลงงมงายไม่กังขา
แม้บุกน้ำลุยไฟไม่เลิกลา
แม้ชีวาสิ้นไปไม่เสียดาย
ขอแต่เพียงได้รักสักหนึ่งครั้ง
สมความหวังทุกข์ท้อรอวันหาย
รักก็บอกควรกล้าอย่ามัวอาย
เหลือผู้ชายน้อยนิดรีบคิดตรอง...
25 มกราคม 2551 11:34 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
ล่องเรือมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ
มีแต่ช้ำตรมจิตต้องผิดหวัง
เป็นคนเรือเขาเบื่อมีแต่ชัง
ไม่อยู่ยั้งเที่ยวเร่พเนจร
น้ำกับฟ้าคลื่นลมห่มแทนผ้า
มีฝูงปลาลมใต้ฝุ่นหนุนแทนหมอน
เสียงเครื่องจักรแวดล้อมกล่อมให้นอน
อยากหาคนอาทรสักหนึ่งคน
ได้แต่หวังตั้งใจไว้แน่วแน่
ไม่ยอมแพ้โชคชะตาหาผู้สน
ที่เข้าใจชีวิตคิดอดทน
ใช่ร้อยลิ้นกะลาวนมาล่อลวง
ล่องเรือมาหารักอยากพานพบ
หากประสบรักจริงมอบสิ่งหวง
คือหัวใจซื่อใสให้ทั้งดวง
เป็นคู่ควงชั่วชีวิตนิจนิรันดร์
29 ธันวาคม 2550 22:25 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
มาถามว่ารักเธอที่ตรงไหน
บอกไม่ได้เพราะมองยังไม่เห็น
เคยมีรูปถอดออกไปใจลำเค็ญ
ทุกเช้าเย็นลำบากเพราะอยากดู
พอถามเธอก็บอกลงรูปเด็ก
ตัวยังเล็กเมื่อครั้งเป็นคุณหนู
ตอนนี้โตเป็นสาวเข้าเป็นครู
คงงามหรูทรวดทรงและองค์เอว
อันร่างกายนั้นเป็นส่วนประกอบ
จะรักชอบฤาใฝ่หาคว้าของเหลว
ประตูรักเปิดที่กายใช่คิดเลว
ราคะร้อนไฟเปลวต้องควบคุม
หากได้มีโอกาศสัมผัสรัก
จึงประจักษ์จิตใจของวัยหนุ่ม
ความเหมาะสมสอดคล้องมองต่างมุม
เมื่อแน่ใจจึงทุ่มให้ทั้งใจ
จุดประสงค์ให้รักที่ตัวตน
คนกับคนสัมพันธ์นั้นต้องได้
กาลเวลาเรียนรู้ดูกันไป
เชื่อว่าใจคล้องใจอีกไม่นาน
14 ธันวาคม 2550 14:38 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
สัญญาหน้าหนาว
ชั่วครั้งชั่วคราว ผันผ่านเลยไป
ฤดูหมุนเวียน แปรเปลี่ยนเร็วไว
เปรียบดังเช่นใจ ของคนบางคน
เหมันต์พูดอย่าง
เสกสรรค์คำอ้าง พาให้สับสน
พอถึงหน้าร้อน ออดอ้อนวกวน
ว่ารักเปี่ยมล้น จะหวนกลับคืน
พอถึงหน้าฝน
ว่าเหงาเหลือทน จนสุดจะฝืน
อยากพบดวงหน้า กลับมาชมชื่น
มิกลายเป็นอื่น แต่ลืมสัญญา
หากเชื่อถ้อยคำ
หัวใจถลำ ต้องหลั่งน้ำตา
รอแล้วรอลับ เขาไม่กลับมา
โดดเดี่ยวเหว่ว้า เพราะเชื่อคำคน
1 ธันวาคม 2550 15:36 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
ล่องนาวาฝ่าลมชมสมุทร
รับอากาศบริสุทธิ์กลางคลื่นเห่
แรงคลื่นลมโถมใส่ดังไกวเปล
ท้องทะเลครื้นฟองละอองพราย
มองฟ้ากว้างสว่างโล่งโค้งสีคราม
ฟ้าจรดน้ำสุดตาทั้งขวาซ้าย
ต้องโดดเดี่ยวเที่ยวจรนอนเดียวดาย
เหงาค่อยคลายชมปลาคราคร่ำธาร
ฉนากโจนโผนลอยเหมือนมีปีก
โลมาหลีกเกลียวคลื่นชื่นสนาน
กระเบนบินหนีฉลามตามรังควาน
ฉลามวาฬใจดีไม่มีภัย
นางนวลคลอล้อลมชมทิวทัศน์
เหยี่ยวหิวจัดโฉบปลามาตัวใหญ่
ฟ้าทมึนคลื่นสูงมาแต่ไกล
อากาศแปรเปลี่ยนไปเหมือนใจคน
ใต้ฝุ่นโถมโหมกระแทกแทบแหลกราน
ม่านน้ำผ่านนาวายิ่งห่าฝน
กระดอนกระเด็นเป็นจุลเรือหมุนวน
จมสู้ก้นมหานทีหนีหัวใจ
หัวใจดื้อถือดีมีรักมั่น
ตายเสียเถิดความฝันอันยิ่งใหญ่
อยู่ให้เขาเย้ยเยาะเหมาะหรือไร
คนอกหักตายไปแค่คนเดียว...