25 เมษายน 2555 10:14 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
มนต์พระสวดพร้อมชยันโต ประนมพุทโธ
ไชโยคำนับรับพร
รักหวานสงกรานต์ทักษอร วิวาห์หน้าร้อน
เคียงหมอนสมหวังตั้งใจ
ใต้คู่มะขามบังใบ งดงามอำไพ
พฤกษ์ไพรรับรู้เป็นพยาน
มิ่งมิตรสดชื่นเบิกบาน ร่วมรื่นเต็มงาน
ซาบซ่านปิติยินดี
สมบูรณ์พูนสุขล้นปรี่ พร้อมพรั่งพิธี
สมศรีสมศักดิ์นิรันดร์
จารึกเป็นคู่อัศจรรย์ ประทับรับขวัญ
รักกันตราบสิ้นดินฟ้า
23 เมษายน 2555 13:44 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
เสื้อฮาวายลายตารางเดินกางข้อ
คงเคยหล่อแต่กาลพัดผ่านขัย
จึงลงพุงอุ้ยอ้ายไปตามวัย
ถึงยังไงยังห่วงหวงของตาย
สงสารน้องปองรักสมัครมั่น
ต้องคารมโยกสั่นไม่ขวัญหาย
ยังจงรักสลักพร้อมยอมชีพวาย
รอให้ถึงที่หมายวันวิวาห์
ถักเนทติ้งนิพเพอเพ้อเรียกขวัญ
เมื่อไรหนอถึงวันร่วมฝันหา
ดุจดอกไม้แห้งโหยเริ่มโรยรา
ใจชินชาละห้อยปล่อยตามดวง
มวลดอกไม้เบ่งบานเต็มลานฝัน
มีสวรรค์อยู่ไหนในแดนสรวง
ขอกราบกรานไหว้วอนมาอ้อนทวง
บรรดาลให้พ้นบ่วงการรอคอย...
17 เมษายน 2555 09:43 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
หัวใจฉันเร่ร่อนยังอ่อนหัด
ไม่สันทัดเรื่องรักหนักสมอง
เมื่อใจรักก็บอกรักตามครรลอง
หากจะต้องตั้งกำแพงคงแย้งใจ
ไม่เคยมีกำแพงทุกแห่งที่
ใจดวงนี้ยังว่างอย่างโปร่งใส
ที่เย้าหยอกบอกรักใครต่อใคร
ก็เพราะกลอนพาไปตามทำนอง
ยังไม่เคยเอ่ยคำถลำมั่น
หากรักกันต้องพร้อมทั้งคู่สอง
สมัยนี้มีคำคือปรองดอง
ทั้งจะต้องเข้าใจกันและกัน
เข้าปูนนี้ชีวิตต้องพ้นผ่าน
ทั้งเรื่องราวร้าวฉานน่าเดียดฉันท์
ทั้งเรื่องดีมีคุณหนุนอนันต์
ถ้าพร้อมใจจับมือกันก็บอกมา
7 เมษายน 2555 10:38 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
ความขัดแย้งบานปลายขยายกว้าง
พิจารณาหาทางกันยกใหญ่
จนปัญญาปรองดองกันยังไง
ไม่มีใครพูดถึงเหตุที่แท้จริง
มีอะไรท่วมปากยากเอ่ยถึง
หมดที่พึ่งสิ้นไร้ไปทุกสิ่ง
ใช้โอกาศขัดแย้งหมายแย่งชิง
ต่างอ้างอิงเหตุผลพิกลนัก
เพราะคนแก่สองคนทะเลาะกัน
ทั้งประเทศป่วนปั่นอาการหนัก
มีล้มตายติดคุกยุคขาดรัก
ไม่ยอมพักด่าทอขอสาดโคลน
เรียกร้องให้จับมือเพื่อปรองดอง
คนจองหองไม่ยอมถอดหัวโขน
ชาวประชาอยากบ้าร้องตะโกน
ไม่อยากโดนสาปแช่งด้วยแรงริษยา
4 เมษายน 2555 22:17 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
สดายุเสนอ
๐ เกิดแต่เมื่อใจหนึ่งถูกตรึงล่าม
ผ่านคาบยามด้วยฤทธิ์แรงคิดถึง
มีอ่อนโยนอบร่ำห้วงคำนึง
อีกซาบซึ้งแอบอำอยู่ค่ำเช้า
๐ ราวแรงรื่นรมยาคันธารส
นั้นโหมบทบาทเยือน..ไม่เหมือนเก่า
โอนอ่อนหวานซ่านแล้วแม้นแผ่วเบา
หากอ่อนโยนรุมเร้า...อยู่เช้าเย็น
๐ จะรับรู้บ้างไหม..ว่าใจหวั่น
จากบีบคั้นรอคอยละห้อยเห็น
จะรู้ไหมเหงาเงียบเกินเปรียบเป็น
จากลอบเร้นอาวรณ์..แอบซ่อนนัย
๐ หวั่นแต่สองแววตา..เกินกว่าซ่อน
จะเผลอเผยนัยซ้อนยามอ่อนไหว
หวั่นทรวงร่ำรัวร้องเสียงก้องไกล
จนหนึ่งใครผู้ถวิล..อาจยินความ
๐ หวั่นเกรงใจร่ำรอ..เผยต่อหน้า
บอกห่วงหาเกินกักเกินหักห้าม
เกรงตาเผยความนัยจนไหววาม
ใจจักหวามตามตาละล้าละลัง
๐ รู้หรือไม่อาวรณ์ที่ซ่อนอยู่
เริ่มช้อยชูงดงามขึ้นตามหวัง
รู้หรือไม่ปรารมภ์เคยข่มบัง
จักเริ่มเรื้องกำลังเข้าสั่งการ
๐ เผยออกฤๅ..ความนัยเพื่อใครรู้
จะเก็บอยู่ไยเล่าให้เผาผลาญ
เผยเถิดแม้นขัดเขินมาเนิ่นนาน
ใจฤๅจักร้าวรานกับการณ์นี้
๐ เดียรดาษพรรณผกาในป่าหอม
เพื่อด่ำดอมภุมรินย่อมบินปรี่
ที่อบอวลน้ำใจและไมตรี
ย่อมสุดที่คำพจน์จะลดรา
๐ ย่อมดื่มด่ำบริบทเกินปลดปล่อย
จนเฝ้าคอยทาบทวงด้วยห่วงหา
ภุมรินแหนหอม..ใจน้อมมา
เป็นใจแหนคุณค่า..เกินกว่าล้าง
๐ รู้กันแล้วใช่ไหม..อกใจนี้
อกใจที่แหนหอมไม่ยอมห่าง
เผยออกสิ้นพจน์คำเคยอำพราง
เพื่อมอบวางสู่ขวัญ..ในวันนี้
เฌอมาลย์สนอง
เกิดแต่เมื่อใจหนึ่งรู้ซึ้งค่า
ผ่านเวลารับรู้ว่าผู้ไหน
ที่อ่อนโยนใกล้ชิดสนิทนัย
เพียงเปิดใจจักเห็นทุกเส้นทาง
เผยออกให้ความใครได้ใกล้ชิด
รับรองสิทธิ์นัยหอมไม่ยอมห่าง
เผยคุณค่ารักนำสิ้นอำพราง
พร้อมมอบวางหัวใจไว้ใกล้กัน
เมื่ออกใจไหวรับเกินยับยั้ง
สิ้นกำลังหักห้ามไต่ตามฝัน
จนอาวรณ์อบร่ำร่วมรำพัน
ออกแบ่งปันหัวใจให้ดำรู
ด้วยอาทรผ่านถวิลในจินตนา
ปรารถนาคำหวานได้ผ่านสู่
หนึ่งคนดีของใจจักได้รู้
ว่าขออยู่เคียงข้างไม่ห่างไกล
ร่วมมองเดือนชมดาวพร่างพราวฟ้า
นัยนาวับวามทุกยามไหว
สองลิขิตผูกพันร่วมกันไป
ฝากฟ้าไหนก็จะรักแลภักดี
ร่วมตะวันผันผ่านช่วงกาลให้
ห้วงหัวใจไสวสว่างท่ามทางที่-
ผูกพันธะชูรักภักดิ์ชีวี
พร้องวลีแน่นหนัก..ฉันรักเธอ
ฤกษ์ หมองเศร้า
อกประหวั่นพรั่นพรึงถึงแก่นขวัญ
คนสองคนรักกันแต่ครั้งไหน
แล้วส่วนเราคนนี้มีอะไร
หลงละเมออยู่ได้น่าอายจริง
เฝ้าติดตามตอแยไก่แจ้ง่าว
อ้อนออดสาวเขาเมินเกินสุงสิง
คงขำขันมองเราเหมือนเจ้าลิง
อยากแอบอิงไม่เข้าท่ายังหน้าทน
ทำไงได้หัวใจอยากใฝ่ปอง
ถึงแม้เขาไม่มองเลยสักหน
แถมถากถางเยาะหยันกีดกั้นตน
แปลกพิกลยังสมัครมอบรักเธอ
เห็นความนัยคู่เขาเศร้าทรวงหนัก
โอ้ความรักของเราเฝ้าเสนอ
คงสูญเปล่าอาวรณ์นอนละเมอ
ฝันถึงเฌออยู่เดียวสุดเหลียวแล..