21 มกราคม 2549 21:57 น.
ร้อยฝัน
ฉันมองดูรอบข้างช่างว่างเปล่า
มีเพียงเงาเลือนรางร้างไร้เพื่อน
เพียงลมพัดผะแผ่วแว่วมาเตือน
ช่างดูเหมือนจะย้ำคำสัญญา
มีแค่ความเวิ้งว้างทางชีวิต
เมื่อมวลมิตรร้างไกลไม่เห็นค่า
ในดวงจิตเศร้าสลดหมดศรัทธา
ไร้มารยาเหนี่ยวไว้ให้หวนคืน
จึงอยู่อย่างหัวใจหมดไฟฝัน
เฝ้ารำพันวิปโยคโศกสะอื้น
เก็บความหวังเจ็บช้ำทนกล้ำกลืน
เอาขมขื่นซุกใส่ในกมล
อยากหลบลี้หนีไปไกลสุดโลก
ลืมสิ้นโศกเศร้าใจได้สักหน
เป็นอากาศผ่านไปไร้ตัวตน
เพียงผ่านพ้นคนชั่วไร้หัวใจ
14 มกราคม 2549 21:37 น.
ร้อยฝัน
เหตุเกิดที่บึงใหญ่กลางไพรกว้าง
เสียงอวดอ้างจากสิงห์ผู้ยิ่งใหญ่
ประกาศก้องป่านี้มิมีใคร
จะเทียมได้หากหาญกล้ามาประจัน
ไม่มีสัตว์ตัวใดใจแกล้วกล้า
รับคำท้าเจ้าป่ามาแข่งขัน
กบตัวน้อยถลาออกมาพลัน
เพราะถูกยันจากบึงจึงจำใจ
เหล่าสัตว์ป่าพอเห็นกบสบประมาท
มันบังอาจเสียยิ่งกว่าสิ่งไหน
จะชนะเจ้าป่าได้อย่างไร
ใยจึงไม่ดูเงาหัวของตัวเอง
เจ้าสิงห์โตมองดูอย่างเย้นหยัน
พูดไปพลัน "เฮ้ยอย่าว่าข้าข่มเหง"
ก็แค่กบตัวกระจ้อยใยไม่เกรง
ทำอวดเก่งมาสู้ข้าน่าขันจริง
ฝ่ายเจ้ากบไม่ตอบโต้โมโหกลับ
หน้ายิ้มรับมิหวั่นไหวในทุกสิ่ง
ใครเหยียดหยามอย่างไรไม่ประวิง
ก้มหน้านิ่งเตรียมพร้อมยอมจำนน
เหล่าสัตว์เลือกเอาช้างมาประสาน
เป็นประธานแข่งกันไปไม่สับสน
นกอินทรีย์ตัวใหญ่ไร้เล่ห์กล
ตัดสินผลแข่งขันอันเกรียงไกร
กำหนดให้ผู้แข่งขันต้องฟันฝ่า
ปีนหน้าผาสูงชันนั้นให้ได้
ด้วยสี่เท้าสี่ขาจะพาไป
มิให้ใช้อุปกรณ์ผ่อนกำลัง
เจ้าสิงห์โตอวดอ้างสัตว์อย่างข้า
มีปัญญากายแกร่งแรงขึงขัง
สูงแค่นี้กระจอกงอกง่อยจัง
ข้าขอนั่งพักผ่อนก่อนจะไป
เจ้ากบน้อยค่อยไต่ป่ายปีนผา
สู้อุตส่าห์ดิ้นรนหาสนไม่
จะเยินยอหรือก่นด่าว่าอย่างไร
ขอแค่ไปถึงจุดหมาย ณ ปลายทาง
ตะวันจวนลาลับกับขอบฟ้า
ถึงหน้าผาสูงชันอันไกลห่าง
เห็นสิงห์โตตัวใหญ่เงาไหวราง
กำลังย่างสามขุมเดินตรงมา
เจ้ากบโง่งี่เง่าเจ้าไฉน
ปีนมาได้ถึงที่นี้ก่อนข้า
หรือเจ้าใช้เวทย์มนต์กลมายา
เจ้าแหกตาสัตว์ทั้งผองดังต้องมนต์
ฝ่ายอินทรีย์ประกาศก้องร้องบอกว่า
เจ้ากบนั้นหนาถึงก่อนจึงเป็นผล
ตัดสินให้ชนะในบัดดล
ไร้เล่ห์กลลวงตาอย่าหาความ
เจ้าสิงห์โตโมโหโกรธานัก
เพราะเสียศักดิ์ หมดศรี มีคนหยาม
กระโจนใส่กบน้อยหวังคุกคาม
กระทำตาม อารมณ์ไม่สมปอง
กบหลบเข้าหลังก้อนหินที่ริมผา
สิงห์ถลาร่วงลงไปน่าสยอง
เจ้ากบน้อยมีชัยได้มาครอง
สัตว์แซ่ซร้องสรรเสริญต่างเยินยอ
เจ้าช้างจึงมอบรางวัลอันยิ่งใหญ่
เป็นเกียรติให้ความกล้าหาญชาญชัยหนอ
เจ้ากบปลื้มดีใจน้ำตาคลอ
มิรีรอรีบรุดรับรางวัล
เจ้าช้างจึงสอบถามความเป็นไป
ด้วยเหตุใดถึงกล้ามาแข่งขัน
แต่เจ้ากบยังคงนิ่งงงงัน
ปากบอกพลันตัวฉันนั้นไม่ได้ยิน
เป็นนิทานคำกลอนสอนให้คิด
อยากพิชิตสิ่งหวังดังถวิล
ต้องมานะพยายามเป็นอาจิณ
หูหนวกสิ้นยินเสียงสำเนียงความ
5 มกราคม 2549 23:29 น.
ร้อยฝัน
หยาดน้ำตากี่หยดรดสองแก้ม
แทนยิ้มแต้มใบหน้าคราหม่นหมอง
ด้วยผิดหวังสิ่งหมายมิได้ครอง
น้ำจึ่งนองนัยตาคราระทม
ยามสิ้นไร้สุขสันต์ในวันนี้
เหลือแค่มีความเศร้าเคล้าขื่นขม
สิ่งสวยงามลอยหายกับสายลม
ต้องตรอมตรมเคว้างคว้างเหมือนอย่างเคย
จะต้องทนเจ็บจำกี่ช้ำหนอ
ยังไม่พอ หรือไร ใจเจ้าเอ๋ย
เพียงแค่ห่าง ยอดชู้ คู่ชิดเชย
กระไรเลยเหมือนมีดบาดแทบขาดใจ
ใครจะมาเช็ดน้ำตาให้ครานี้
เมื่อคนที่เคยรักกลับผลักไส
ยามหวนคิดขึ้นมาครั้งคราใด
ต้องร่ำไห้ น้ำตาหลั่งเป็นทางยาว
5 มกราคม 2549 20:46 น.
ร้อยฝัน
เหวย เหวย
รูปไม่หล่อพ่อไม่รวยซวยซ้ำซาก
คงจะยากหากมีสาวเข้ามาหลง
เพียงแค่คิดพิศวาสยังต้องปลง
พ่อยังคงหลงผิดติดออนไลน์
ทั้งเหล้ายาปลาปิ้งพ่อยิ่งแน่
ค่ำเมาเช้าแก้ แย่ฉิบหาย
ทั้งโรคเกาต์รุมเร้ายังไม่คลาย
ตัวจะตายช่างมันฉันขอเมา (พ่อว่างั้น)
หากจะดูความตามแจ้งแถลงไว้
คนอะไรช่างน่าพาไปเผา
แถมทั้งทองให้ทั้งตัวกลัวไม่เอา (พี่ก่าก้าคนสวยว่า)
หวาดขวดเหล้าจะทับตายอายผู้คน (ข้าเจ้าว่าเอง)
หากเมื่อร่วมทำงานแล้วจึงรู้
พ่อเป็นครูผู้ให้ไม่สับสน (ต้นน้อยว่า)
มีน้ำใจมากมายมิได้จน (พี่ยิ้มบอก)
มันมากล้นจะเอ่ยเผยออกมา (พี่ดุลย์พูด)
เป็นทั้งเพื่อนเป็นทั้งน้องต้องยกให้ (พี่ๆ ฟันหักไปแล้ว)
มิเคยไร้น้ำใจกับใครหนา
ที่ต้องเผาก็แค่แหย่หยอกนา
ดูสิว่าจะแก้ไขอย่างไรกัน