24 มีนาคม 2555 17:57 น.
ร้อยฝัน
คุณคนดี
ในวันนี้ที่หัวใจคุณเจ็บปวด
แสนร้าวรวดเหน็บหนาวราวโดนฝน
เหลียวทางใดก็ร้างไร้ใครสักคน
จะก้าวพ้นกำแพงใจได้เข้ามา
กำแพงใจในนั้นช่างเหน็บหนาว
มืดมิดราวหลงทางอยู่กลางป่า
คงเหลือเพียงแสงสุดท้ายได้นำพา
เช็ดน้ำตา มาเรียนรู้ สู่ความจริง
มือกุมมือเดินไปในโลกกว้าง
ใจสองใจปล่อยวางไปทุกสิ่ง
หลอมรักเดียวเพื่อหัวใจได้พักพิง
กายซบอิงอุ่นไอ ยามใกล้กัน
หากทำลายกำแพงใจให้หมดสิ้น
คงกรุ่นกลิ่นความหวังที่ยังฝัน
เราก้าวผ่านร้าวรานในวารวัน
ด้วยรักมั่น คู่กัน นิรันดร
14 มีนาคม 2555 22:40 น.
ร้อยฝัน
ฤดูร้อน
อากาศร้อนด้วยแดดที่แผดจ้า
ท้องทุ่งนาดินแยกแตกระแหง
ปลาดิ้นตายด้วยน้ำลดจนหมดแรง
ไร้สรรพสิ่งสำแดงแข่งตะวัน
ฤดูร้อน ร้อนดั่งไฟใจร้อนรุ่ม
เหมือนโดนสุมด้วยกองไฟกองใหญ่นั่น
กายก็ร้อนใจก็แล้งแห้งโดยพลัน
รอเพียงฝันน้ำจากฟ้ามารดริน
ฤดูฝน
เมื่อเม็ดฝนหล่นฟ้ามาสู่ทุ่ง
ชาวนามุ่งหว่านไถไปทั่วถิ่น
พลิกชีวิตฟื้นชีวามาจากดิน
เหมือนได้ยินเพลงหวานผ่านท้องนา
เพลงชีวิตบรรเลงเพลงชาวทุ่ง
หวังผดุงแม้เปลี่ยนกาลโบราณว่า
น้ำมีปลานามีข้าวยาวนานมา
เลี้ยงชีวาชาวไทยได้ร่มเย็น
ฤดูหนาว
ยามลมหนาวพัดผ่านสะท้านหนาว
บอกเรื่องราวผ่านมาคราทุกข์เข็ญ
ทั้งร้อนแล้งฝนเปียกปอนตอนรำเค็ญ
เหมือนดั่งเป็นฤดูกาลเพียงผ่านมา
สิ้นเก็บเกี่ยวข้าวปลามาพร้อมพรัก
ให้ประจักษ์ทุ่งแห่งทองของมีค่า
ถึงหน้าหนาวมาเยือนเตือนทุกครา
ถึงเวลาแห่งสุขถ้วนทุกคน
***********************
ฤดูกาลผันเปลี่ยนเวียนเป็นรอบ
ดั่งตีกรอบให้เปลี่ยนผันกันทุกหน
เหมือนชีวิตสับเปลี่ยนเวียนหมุนวน
จึงขึ้นชื่อว่าเป็นคน ปน ปนกัน
23 กุมภาพันธ์ 2555 12:12 น.
ร้อยฝัน
จะกี่คืนกี่วันที่ผันผ่าน
จะยาวนานเท่าใดหนอใจเอ๋ย
จะก้าวผ่านรานร้าวราวคุ้นเคย
จึงชดเชยด้วยน้ำตามารดริน
จะมีไหมมือแกร่งอันอบอุ่น
ช่วยเจือจุนบรรเทาเป่าทุกข์สิ้น
ฤาจะปล่อยเวลาให้โบยบิน
เพราะเจ้าชินกับวันวารที่ผ่านมา
เจ้าทนเหงากับความเงียบเปรียบฟ้ากว้าง
เจ้าเคว้งคว้างดุจดาวน้อยลอยเวหา
เจ้าริบหรี่มิอาจเปรียบเทียบจันทรา
ลอยเด่นฟ้าในคืนค่ำมาย้ำเตือน
อยากหลุดพ้นวงจรแห่งวิถี
ที่เจ้ามีน้ำตามาเป็นเพื่อน
ทิ้งเบื้องหลังที่ฝังใจให้ลบเลือน
ยามทุกข์เยือนเจ้าจักยิ้มด้วยอิ่มใจ
โบยบินเถิดหัวใจสู่อิสระ
ไปพบปะ ความจริง สู่สิ่งใหม่
บนเส้นทาง เส้นนั้น อันยาวไกล
ออกเดินไป สู่อิสระที่พึงมี
28 ธันวาคม 2554 19:08 น.
ร้อยฝัน
ยามลมหนาวพัดหนาวอยู่กราวกรู
ใบไม้แห้งร่วงพรูอยู่ไหวไหว
เหล่าดอกหญ้าต้องลมพัดแกว่งไกว
ลู่ไล้ในยามน้ำค้างมาพร่างพรม
กว่าหมอกเช้าจะจางไปกับแสง
ดอกเข็มแดงช่อชูดูเหมาะสม
เหล่าแมลงไต่ตอมเข้าดอมดม
ยามสายลมพริ้มพรายคล้ายละเมอ
หนาวถิ่นนี้ไกลโพ้นจะหนาวไหม
คิดถึงฝากจากใจไปเสนอ
แม้เส้นทางแสนไกลอยากไปเจอ
ใช่จะเพ้อเพียงคำให้ช้ำใจ
รับไว้หน่อยเถอะลมฝากไปหา
วานลมช่วยพัดพามาชิดใกล้
ความอบอุ่นที่คุ้นเคยเผื่อบางใคร
ฝากห่วงใยกลับมาคราลมเยือน
4 ตุลาคม 2554 20:47 น.
ร้อยฝัน
ในความเงียบยิ่งเงียบหาเปรียบได้
ไร้ดวงไฟไร้ความฝันในวันเหงา
ไร้มือกุมไร้อ้อมกอดอ้อนออดเรา
มีเพียงเงาในความเงียบอันเยียบเย็น
มืดกว่ามืดเกินกว่าจะหาเปรียบ
กายเย็นเยียบใจร้อนรนปนทุกข์เข็ญ
ไร้แสงทองส่องสว่างทางลำเค็ญ
เหมือนฉันเป็นอากาศธาตุล่องลอย
สองเข่าคู้หน้าซุกซบไม่อบอุ่น
ใจยังกรุ่นอาฆาตไม่อาจถอย
ผ่านปีเดือนเลื่อนวันฉันจะคอย
เพื่อย้ำรอยเจ็บช้ำระกำใจ
ออกไปเถิดความเหงาอย่าเย้าเล่น
เหมือนดังเช่นเคยมาอย่าได้ไหม
ฉันหยุดความใจบางอย่างบางใคร
นี้ต่อไปใจดวงนี้จะดีเอง