22 ตุลาคม 2552 13:56 น.
ร่มแดนช้าง
ต้องจำลาเจ้าลำดวนด่วนจากแล้ว
ลาดอกแก้วการเกดพิกุลหอม
เจ้าจำปีจำปาข้าคงตรอม
ต้องผ่ายผอมแน่สินะมะลิลา
จะไร้กลิ่นหอมกรุ่นละมุนหวาน
จำจากนานช้ำใจในอกข้า
เจ้าจงบานอย่ากร้านแห้งแล้งโรยรา
ผลิดอกรอวันที่ข้ามาเชยชม
ไม่หลงกรุ่นกลิ่นไอดอกใดแล้ว
ไม่ทิ้งแก้วบานชื่นให้ขื่นขม
ระลึกดอกละเมอกลิ่นละไมคม
ลออตาพาชื่นชมให้ชื่นใจ
จะรีบกลับไปรับขวัญในวันหน้า
จงรั้งรอคอยท่าอย่าหวั่นไหว
แมลงภู่ผึ้งผ่านให้ผ่านไป
อย่าเผลอแย้มดอกใบให้เชยชม
รักษากลิ่นให้หอมกรุ่นละมุนหอม
รอวันข้ามาดมดอมประคองสม
อย่าคลายกลิ่นกระจายตามสายลม
จะออมถ้อยคารมไว้ชมเชย...
19 ตุลาคม 2552 22:20 น.
ร่มแดนช้าง
ขอแค่เพียงเสี้ยวหนึ่งคิดถึงบ้าง
ขอแค่เพียงความอ้างว้างมันจางหาย
ขอแค่เงาใครคนหนึ่งซ้อนเงากาย
ขอแค่เพียงความเดียวดายให้หายไป
ไม่ต้องรักเท่าฟ้าถ้าจะรัก
ไม่ต้องมากมายนักถ้าจะให้
ไม่ต้องสุขมากขอแค่พอใจ
ไม่ต้องให้หมดใจแค่ที่มี
ไม่ต้องหวงขอแค่ห่วงในบางครั้ง
ไม่เพียงพลั้งขออย่าเผลอใจจากที่
ไม่ต้องเอ่ยคำรักแค่ภักดี
ไม่ต้องอยู่คู่ชีวีเพียงมีกัน
ขอแค่เพียงเท่านี้คงไม่มากนัก
ขอแค่เพียงความรักให้ใจฉัน
ขอแค่เพียงใครคนหนึ่งเข้าใจกัน
ขอแค่เพียงเท่านั้น...ใจคงพอ
15 ตุลาคม 2552 12:45 น.
ร่มแดนช้าง
แผ่นดินแดงดาลเดือดเลือดแรงร้อน
คุณธรรมลอยว่อนร่อนไปไหน
สีธงชาติยังประกาศความเป็นไท
แหล่งศูนย์รวมน้ำใจไทยยังมี
น้ำจิตแห้งแล้งน้ำใจให้เศร้าแท้
สายน้ำแม่ไหลประจักษ์ในศักดิ์ศรี
แต่ลูกไทยไหลบ่ามาราวี
ปราบชีวิตปลิดชีวีด้วยมือไทย
แผ่นดินใหญ่โหยไห้ใจสะท้าน
ใจของลูกจิตของหลานต้องหม่นไหม้
สิ้นในบุญหนุนพระศาสน์หรืออย่างไร
จึงแห้งจิตแล้งใจในสันดาน
เมืองนั้นยังร้อนเร่าเผาจนสิ้น
ฤาถึงกาลแผ่นดินอวสาน
ด้วยเพรงกรรมนำทางอย่างวันวาร
สิ้นเพรงบุญหนุนผ่านอย่างวันนี้
จะดับไฟในแผ่นดินให้สิ้นร้อน
จะผ่อนทุกข์คืนสุขย้อนให้ทุกที่
ขอไทยรวมร่วมรักสามัคคี
ไทยจะมีสุขล้นพ้นแผ่นดิน...