18 พฤษภาคม 2552 14:41 น.
รุ้งลดา12
กำเนิดสาวเป๋อ ( ตอนที่1)
ฉันทำงานที่โรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่งในหน่วยงานที่เกี่ยวกับดูแลเด็กเล็กป่วยค่ะในวันหนึ่งขณะที่ทำงานอยู่เพื่อนร่วมงานมาบอกว่าจะลงไปข้างล่างเอาข้าวไปให้สุนัขจรจัด
สุนัขที่ไหน? ฉันถาม
น้องผู้ร่วมงานตอบว่า มันหลงมาพี่พีไม่เคยเห็นเหรอมันอยู่ที่ใต้ถุนแฟลตที่พี่พักอยู่นั่นแหละ
"ไม่เห็นมีเลย "
มีซิพี่ไม่เชื่อพี่กลับไปวันนี้ลองมองใหม่ซิ
ฉันรับปากน้องเอาไว้ว่าต้องดูให้ได้ในวันนี้.....ในที่สุด 2วัน ผ่านไป..ก็นึกได้ เมื่อได้ยินเสียงสุนัขใต้ถุนแฟลต เลยชะโงกไปมองก็เห็นสุนัขหนึ่ง มีสีนำตาลออกแดงทั้งตัวอยู่ใต้ถุนของแฟลตท่าทางมีอาการหวาดกลัวพิลึกพร้อมส่งเสียงคำรามมากับยิ้มหวานแยกเขี้ยววาววับมองมาทางฉัน .......
ขนหัวลุกซู่เลยค่ะคิดว่า ขืนยืนอยู่ต่อไป.... มันคงเอาเขี้ยวอันแวววับแหลมคมมาฝากไว้ที่น่องอันสวยงามของตัวเองเป็นแน่ เลย ตัดสินใจได้ดังนั้นก็โกยแนบ...แบบไม่เห็นฝุ่นเลยทีเดียวกับ พาหนะคู่ใจควบไปทำงาน(จักรยาน) ทันที และวันนั้นก็เผอิญได้ทำงานร่วมกับน้องผู้ช่วยคนเดิมอีกครั้ง น้องเลยเล่าประวัติ ให้ฟังว่าสุนัขตัวดังกล่าวแอบขึ้นรถกระบะมากับรถพยาบาลรายหนึ่งเห็นพยาบาลผู้นั้นบอกว่ามันคงจำรถผิดและขึ้นรถผิดคันมา เมื่อรถพยาบาลมาหยุดที่โรงพยาบาล มันก็กระโดดลงจากรถแล้วก็เดินโซซัดโซเซ ไปตามทางถนนภายในโรงพยาบาล เดินผ่านโรงช่าง ถูกช่างประจำโรงพยาบาลให้บาทาไป2-3 ที มันก็วิ่งหนีหัวหดไป และก็หนีไปอยู่ที่ใต้ถุนแฟลตดังกล่าว น้องผู้ช่วยพยาบาลสงสารก็เลย เอาข้าวไปให้กิน...
โอ้..โฮ.. แฮะ ...หลังฟังน้องเล่าด้วยจิตใจอันแสนดีของเราก็เกิดอารมณ์สงสารจนจับจิต(เว่อ)ก็เลยอยากให้อาหารมันบ้าง ดังนั้นเศษอาหารที่เหลือเย็นนั้นจึงเก็บไว้อย่างดี หลังเลิกงานก็ปั่นจักรยานคู่ใจกลับไปแฟลตที่พัก ไปถึงก็ชะโงกไปมองที่ใต้ถุนแฟลต ก็พบมันนอนอยู่ค่ะ เลยลองเรียกดูหลายๆครั้งมันก็ไม่มองแถมส่งเสี่ยงแฮ่ กลับมาด้วย เมื่อไม่ยอมออกมา ก็เลยใช้วิธี วางอาหารไว้แล้วแอบเดินไปหลบมุมเสา..ดู ว่ามันจะมากินไหมปรากฏว่าได้ผลแฮะ เห็นมันออกมากินค่ะ วันรุ่งขึ้นก็ทำแบบนี้อีก ทำซ้ำๆแบบเดิม ต้องใช้เวลาสร้างสัมพันธภาพถึง3 วันเต็มๆ ที่สุดก็เลยได้รับความไว้วางใจพอสมควรค่ะ คุณเธอออกมาหา กระดิกหางเวลาที่เรียกค่ะ (ที่เรียกว่าคุณเธอเพราะพิจารณาวิเคราะห์อวัยวะบางประการจึงบอกได้ว่าเธอคือตัวเมียค่ะ) หลังจากนั้น คิดแล้วคิดอีกก็เลยตัดสินใจจะเป็นเจ้าของอย่างสมบูรณ์แบบซะที เพราะที่ผ่านมาไม่เคยคิดจะเป็นเจ้าของใครง่ายๆเลยเหมือนไม่ให้ใครมาเป็นเจ้าของตนเองง่ายๆนั่นแหละ ดังนั้นหลังจากได้ให้อาหารจนมันมีการสร้างเนื้อเยื่อของร่างกายมากขึ้นแล้ว
บอกได้คำเดียวค่ะ ว่าคุณเธองามมากค่ะงามจริงๆนะ (ทุกคนลงความเห็นว่าอย่างนั้น) ดังนั้นสิ่งแรก ต้องสร้างความมั่นใจให้กับความเป็นเจ้าของมันก่อน นั่นคือมันจำเป็นต้องมีชื่อ และชื่อสารพัดชื่อก็ตามมา
."ไอ้หลง. พี่อ้อ ณ ER ตั้งให้ เหตุผลที่ตั้งชื่อนี้เพราะมันหลงทางมา สาวสวยอย่างหมอจ๊ะ เรียกหลงจู้ เพราะมันหลงมาเหมือนกัน และอีกหลายๆชื่อที่เรียกกัน มีมากมาย แต่ชื่อที่โดนใจใช่เลยมากสุดจะว่าได้คือ เป๋อ และเป๋อก็คือคำตอบที่ชอบมากค่ะ ที่ตัดสินใจเรียกชื่อนี้เพราะ 1.น้องผู้ช่วยที่ดูแลมันตั้งแต่ต้น ตั้งให้ 2. พฤติกรรมป้ำๆเป๋อๆไม่ค่อยเต็มของมัน ค่ะดังนั้นชื่อนี้จึงเหมาะที่สุด
ดังนั้น ในที่สุดทุกคนก็รับทราบทั่วกันว่าสมาชิกใหม่ ณ แฟลตเก่าสาวโสดทั้งหลาย มีสาวเป๋อเป็นสมาชิกด้วยค่ะ...พฤติกรรมความเป๋อของมันมีเยอะมากค่ะ...จะเล่าให้ฟังนะคะ ในตอนต่อไป
ตัวตนของเป๋อ (ตอนที่2)
หลังจากที่ดิฉันรับเป็นเจ้าของสาวเป๋อเต็มตัว ดูเหมือนคุณเธอจะรับรู้ถึงบรรดาศักดิ์ที่ได้รับว่าสำคัญมากคือเป็นลูกสาวพยาบาล และ มีป้าๆน้าในแฟลต ที่เป็นพยาบาลด้วยหลายคน ทำให้เธอภาคภูมิใจมากค่ะ
ดังนั้นสิ่งที่คุณเธอทำเป็นลำดับแรกเลยคือคุณเธอเริ่มปรับระดับความสำคัญของตัวเองทันที โดยดูจากเดิมที่อยู่ ที่นอนหลับพักผ่อนของ เธอจะอยู่ใต้ถุนแฟลต เธอ ก็เริ่มขยับกายมาทีละเล็กละน้อยจากใต้ถุนแฟลตที่เป็นดิน มาเป็นใต้ถุนแฟลตที่เป็นปูนแทนซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่จอดรถจักรยานและรถจักรยานยนต์ของเพื่อนร่วมแฟลตนั่นแหละ หลังจากนั้นก็เขยิบอีกเล็กน้อยกายเธอก็ขึ้นมาอยู่ ถึงชั้นหนึ่งของแฟลตโดยปริยาย ส่วนสถานที่สำหรับนอนขึ้นกับอารมณ์ของเธอค่ะ ว่าอยากนอนตรงไหน ....เธอก็จะเลือกนอนตรงไหนก็ได้ไม่ว่าจะเป็นหน้าห้องใครหรือเกะกะใคร....เธอไม่สนทั้งสิ้น ......เธอไม่เกรงใจเลยค่ะ มันเหมือนเธอสร้างแฟลตขึ้นมาเองกับมือ เลยทีเดียว แต่ก็ไม่มีใครว่ากล่าวตักเตือนเธอได้หรอก เพราะทุกคนหลงรักในตัวตนของเธอ และอีกอย่างถึงเขาพูดกันอย่างไรมันก็ไม่เข้าใจหรอกเพราะฟังภาษามนุษย์ไม่รู้เรื่องนั่นเอง
มีหลายคนนำอาหารมาให้บ้าง...ไม่ให้บ้าง ขึ้นกับโอกาส แต่สิ่งที่เห็นคือทุกคนก็มีหน้าที่เก็บเศษอาหารจากการกินที่แฟลตลงมาให้มันค่ะบางครั้งอาหารที่ได้ฉันเห็นแล้วรู้สึกขำค่ะเช่น ฟักต้ม ถั่วงอกผัด ใบคะน้าค่ะ ที่เอามาให้ไม่มีเนื้อนะมีเฉพาะผักค่ะ วันหนึ่งฉันเห็นและคิดว่าเป๋อคงจะกินเพราะอารมณ์หิวแน่ๆ พบว่ามีต้นถั่วงอกติดที่จมูกค่ะ เห็นและขำดี ฉันในฐานะที่เป็นแม่ของเป๋อโดยอัตโนมัติยอมลงทุนซื้อหม้อหุงข้าวสำหรับหุงข้าวให้มันกินเลยทีเดียว เพราะซื้อข้าวเปล่าไม่ไหวแพงมาก
ที่ผ่านมาทำงานมาหลายปีดีดักไม่เคยหุงข้าวกินเลยค่ะ พึ่งพา อาหารตามสั่งร้านค้าในรพ.และหน้ารพ.อย่างเดียวนี่แหละหนาเขาเรียกว่าอนุภาพแห่งความรักค่ะ พฤติกรรมที่น่ารักของสาวเป๋อทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นตอนหิวข้าวหรือ อ้อนดิฉัน เธอจะยกขา2ข้างประกบแบบพนมมือแบบไหว้ค่ะไม่ใช่ยกขาเฉยๆ และ เธอยังทำหน้าที่ลูกที่ดีให้ดิฉันรักมากกว่าเดิม ด้วยคือเวลาที่ฉันต้องขึ้น-ลง เวรปฏิบัติงาน
คุณเธอจะลุกขึ้นเดินมารับมาส่งทุกครั้งไม่ใช่ไกลนะแค่เข็นจักรยานลงแฟลตเท่านั้น ที่น่าขำมากคือ โดยเฉพาะเวรดึกฉันจะขึ้นเวรปฏิบัติงานประมาณ5ทุ่มกว่าๆค่ะ คุณเธอก็จะลุกขึ้นแล้วเดินงัวเงียๆทำหน้ายิ้มแป้นแบบเมาขี้ตา มาส่งค่ะ จนฉันต้องไล่ให้กลับไปนอน..เป็นแบบนี้ทุกวันทุกเวรที่ดิฉันทำงานค่ะเวลากลับจากทำงานเธอก็วิ่งยิ้มแป้นงัวเงียๆไปรับก่อนขึ้นแฟลต และนอกจากนี้เธอยังทำหน้าที่เป็นยามประจำแฟลตคอยเห่าหอนบุคคลแปลกหน้าที่เข้ามาหรือขี่ รถจักรยนตร์ผ่านค่ะและ ทำหน้าที่เหมือนคอยโบกรถให้ดิฉันด้วยนะจะบอกให้
ที่พูดอย่างนี้คุณอาจไม่เชื่อแต่ที่ฉันสังเกตแล้วก็พบว่าวันไหนที่ดิฉันใช้รถยนต์ซึ่งจอดอยู่หน้าแฟลตพอดิฉันก้าวขึ้นรถเธอจะเดินมาส่งถึงรถค่ะ ก่อนที่ดิฉันจะถอยรถยนต์คุณเธอจะวิ่งไปถนนหน้าแฟลต มอง ซ้ายมองขวา แล้วก็เห่าเสียงดังให้ถอยรถได้เหมือนจะบอกว่าไม่มีรถมายังไงยังงั้นแหล่ะ ดิฉันและเพื่อนร่วมแฟลตสังเกตกันหลายครั้งแล้ว จึงเชื่อว่าเป๋อมีคุณสมบัติเป็นยามที่ดีได้ และ การกระทำของมันเองก็เป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่ดิฉัน ใช้รถยนต์ รวมถึงรถยนต์เพื่อนร่วมแฟลตที่ใจดีกับมันด้วย จึงสร้างความประทับใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมากค่ะ
คุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งคือมันยังมีความจำดีเลิศคือจดจำรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าแฟลตได้เกือบทุกคัน รวมทั้งเจ้าของของรถแต่ละคันด้วยว่าใครเป็นเจ้าของคันไหน และเมื่อมีคนแปลกหน้ามายืนใกล้รถของเจ้าหน้าที่ที่แฟลต มันจะเห่าจนกว่าเขาจะไปก็สร้างความรำคาญพอสมควร
สิ่งที่ฉันสังเกตเห็นอีกอย่างในตัวของสาวเป๋อคือการเชื่อฟัง สาวเป๋อจะเชื่อฟังดิฉันมากเวลาบอกว่าอย่าทำเธอก็จะไม่ทำ ยกตัวอย่างเช่น ฉันบอกว่าห้ามออกนอกบริเวณแฟลตไปไกลเธอไม่เคยออกเลยจะอยู่มากสุดคือสนามหน้าแฟลต และเธอจะไม่เดินขึ้นแฟลตไปชั้นบนเด็ดขาด (ชั้น2และ3) ทั้งๆที่บางครั้งก็ชวนเธอเดิน (จับลากขึ้นไป) เธอจะไม่ยอม ดิ้นสุดฤทธิ์.. และที่สำคัญคือเป๋อไม่เคยถ่ายที่แฟลตเลยเธอเลือกที่จะถ่ายสนามหน้าแฟลตห่างจากตัวแฟลตพอสมควร และถ่ายหน้าแฟลตใหม่ ซึ่งอยู่ใกล้ๆแทนดูซิคะเธอรักและหวงแหนที่อยู่ตัวเองแค่ไหน
ความ Perfect ของเป๋อ ก็คือความสวยของเธอ เธอมีขนคล้ายสิงโต ลักษณะเหมือนหมาป่าสีน้ำตาลแดง หางยาวเป็นพวง และเธอยิ้มเป็น ดิฉันไม่รู้เลยว่าเป๋อเป็นสุนัขพันธุ์อะไร เพราะไม่ถนัดในการดูสุนัขมากเท่าไหร่ นัก จึงไม่สามารถบอกได้
ในความ Perfect ของเป๋อ จะมีข้อเสียคือเธอสายตาสั้นค่ะ ที่บอกว่าสายตาสั้นนั้นเพราะสังเกตจากเวลาที่ฉันขี่จักรยานลงเวรบ่ายมาประมาณเที่ยงคืนกว่า เธอจะได้ยินเสียงจักรยานนะแล้วก็จะวิ่งมายืนกลางทางถนนที่ดิฉันขี่มา (ระยะห่างประมาณ100เมตร) แล้วก็จะยืนเล็งแล้วเล็งอีก จ้องอยู่นานมาก ว่าจะ ใช่ฉันไหม? จนกระทั่ง ระยะ50เมตรเธอก็รู้ว่าเป็นดิฉัน จึงวิ่งไปรับ ไม่ใช่เหตุการณ์นี้เหตุการณ์เดียวกับเจ้าหน้าที่ในแฟลตก็เหมือนกัน เมื่อเป๋อจำไม่ได้ทั้งๆที่คุ้นเคยกันดี คือพี่พยาบาลเดินมาห่างประมาณ150เมตร ในตอนกลางวันนะคะ เป๋อเห่าไม่หยุด ยืนเล็งมองแล้วก็เห่าค่ะจนกระทั่ง เขาเดินมาใกล้มันมันจึงหยุดและกระดิกหางเดินไปหาเขา เขาต้องถามมันว่าจำไม่ได้เหรอ มันก็ยิ้มๆ(ฉันคิดเองนะ)
นอกจากนี้คือความขี่ขลาดของเป๋อค่ะ เวลาเป๋อวิ่งไล่เห่าใครเป๋อจะวิ่งควบไล่ห่างๆเขาค่ะแต่ไม่กล้ากัดเขาและเมื่อเจอศัตรูเป๋อจะหลบขึ้นไปชั้น1 ค่ะเอาหน้ายื่นออกจากลูกกรงแล้วเห่าไม่หยุด เห่าอยู่อย่างนั้นจนเสียงไม่มี เหมือนหมาเห่าใบตองแห้งยังไงอย่างนั้น กับตัวดิฉันเอง ไม่ว่าจะทำอะไรกับเป๋อ เธอไม่เคยกัดเลย เช่น ดึงหูแรงๆ เหยียบหาง เอานิ้วแหย่ปาก เขาจะอ้าปากไว้เฉยๆโดยไม่งับเลย ไม่กล้าทำอะไรให้ฉันเจ็บค่ะ และ คุณรู้ไหมสุนัขเวลาฉีดยาคุมกับยาป้องกันพิษสุนัขบ้าจะดิ้นขนาดไหน ฉันเคยทดลองแล้ววันนั้นให้น้องผู้ช่วยคนเดิมเป็นผู้ฉีด(มีประสบการณ์) ปรากฏว่าเธอไม่ยอม เธอดิ้นสุดฤทธิ์แล้วก็งับคนจับแบบฉันจนเลือดออกซิบๆไป2นิ้ว เหมือนเธอจะสำนึกผิดเลยว่าทำให้ฉันเจ็บ เธอเอาปากมาเลียบริเวณ แผลที่งับฉันไว้ จนฉันใจอ่อนยกโทษให้ค่ะ แต่ก็ต้องรีบล้างแผลค่ะกลัวเป็นบาดทะยัก
มาครั้งล่าสุดก็เลยตัดสินใจฉีดยาเองเลยไม่มีผู้ช่วยเหมือนก่อน ก่อนฉีดบอกให้เขายืนนิ่งๆเฉยๆมันก็ยืนเฉยๆดิฉันก็เลยดึงหนังบริเวณก้นแล้วก็ทิ่มพรวดไป2ครั้งมียาคุม กับวัคซีนปรากฏว่าเธอไม่ร้องไม่ดิ้นเลยสัก นิด ฉีดจนกระทั่งเสร็จ เป๋อก็ยืนเฉยๆหลังดึงเข็มเธอก็หันหน้ามามองฉันนิ๊ดหนึง แล้วก็ไปเล่นเหมือนเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย .......ฉันซะอีกที่โคตรกลัวเลยกลัว...มันกัดเอาค่ะ....ใจตก ไปอยู่ที่ตาตุ่มเลยค่ะ....จากความน่ารักของสาวเป๋อ..ก็มีทั้งคนรักและเกลียดค่ะ .จะว่าเป็นศัตรูก็ได้นะ..คือศัตรูในที่นี้ไม่ใช่เผ่าพันธุ์เดียวกับเป๋อนะคะ แต่เป็นมนุษย์หนุ่ม (หน้าตาใช้ได้ค่ะ)
ตัวหนุ่มคนนี้ไม่เคยคิดว่าสาวเป๋อเป็นศัตรูเลยนะคะเพราะเป็นคนรักสุนัขก็ว่าได้ แต่ทำไมสาวเป๋อจึงคิดเต็มร้อยว่ามนุษย์หนุ่มคนนี้คือศัตรูหมายเลข1ของเธอเลยทีเดียว แล้วตอนต่อไปจะมาบอกนะคะว่าศัตรูที่ทำให้สาวเป๋อเจ็บช้ำน้ำใจมากที่สุดเป็นใครค่ะ
ศัตรูของสาวเป๋อ(ตอนที่3)
ถ้ายังจำกันได้จากกำเนิดสาวเป๋อ จะพบว่าเมื่อครั้งที่สาวเป๋อระหก ระเหินเป็นหมาน้อยพลัดถิ่นเข้ามาในนิเวชสถานโรงพยาบาล เธอเดินไปตามทางถนนผ่านสถานที่ต่างๆผ่านโรงช่างมุ่งไปแฟลตพยาบาลขณะผ่านโรงช่างหนุ่มช่างทั้งหลายไล่เธอ เธอทั้งเห่าและส่งเสียงคำรามไล่ กัดพวกเขาเหล่านั้นก็มีบุรุษนายหนึ่งนิคเนมว่าโป้ง ใช้บาทาตัวเองฟาดปากสาวเป๋อไป2ครั้ง ทำเอาสาวเป๋อถึงกับมึน แล้วโกยแนบวิ่งหางจุกก้นไปที่แฟลตดังกล่าว
และเมื่อเหตุการณ์กลับเปลี่ยนไป เมื่อสาวเป๋อมีบรรดาศักดิ์เป็นลูกสาวพยาบาลมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งและได้รับการจดทะเบียนรับรองบุตร(ขึ้นทะเบียนสุนัขในสถานที่ราชการ) สาวเป๋อเริ่มนึกถึงและจดจำศัตรูผู้สร้างความปวดร้าวในจิตใจตัวเองได้ เริ่มเกี่ยวกับหน้าตา สีผิว เสียง เดิน รถที่ใช้ เสื้อที่ใส่ พฤติกรรมที่ทำ และเมื่อทุกครั้งที่หนุ่มโป้งเฉียดกายเข้ามาใกล้แฟลตไม่ว่าจะระยะไหน เธอจะโจมตีศัตรูโดยการเห่าไม่หยุด เห่าจนเสียงแหบแห้ง วิ่งไล่ แต่ขอโทษการกระทำของเธอมิได้ใกล้หนุ่มโป้งเลยเพราะเธอจะเห่าห่างมากๆและเมื่อหนุ่มโป้งเดินมาใกล้ๆเธอก็จะวิ่งแนบขึ้นไปชั้นหนึ่งของแฟลตท่าทางกลัวลนลานแต่ปากก็ยังเห่าอยู่ เอาหน้าตัวเองยื่นมาทางลูกกรงของชั้นหนึ่ง แล้วก็เห่าไม่หยุด เหมือนหมาเห่าใบตองแห้งยังไงอย่างงั้น เลย......ช่วงแรกสร้างความรำคาญให้กับทุกคนมากพักหลังทุกคนเริ่มชินกับเสียงเห่าและพฤติกรรม ผลพลอยได้ที่ทุกคนได้คือ ทายได้อย่างถูกต้องว่าหนุ่มโป้งมาที่แฟลตหรืออยู่ใกล้ๆแฟลตด้วยเสียงเห่าของสาวเป๋อ
หนุ่มโป้งเหมือนสำนึกตัวว่าผิดเคยมาพูดคุยกับดิฉันว่าตัวเองเป็นคนรักสุนัข ที่บ้านก็เลี้ยงสุนัข อยากสร้างสัมพันธไมตรีกับเป๋อก็เลยซื้อไก่ย่างมาให้1ไม้ปรากฏว่าสาวเป๋อไม่แตะเลย(ถึงแม้จะหิว)จนกระทั่งหนุ่มโป้งต้องเอากลับไปให้สุนัขตัวเองแทน โป้งพยายามทุกวิธีทางให้เป๋อให้อภัยจนมีครั้งหนึ่ง ไม่มีรู้ว่าโป้งคิดได้ไง ?
หนุ่มโป้งจับสาวเป๋อ ไปล่ามไว้ที่โรงช่างโดยใช้เชือกผูกคอ เชือกยาวพอควร แล้วคลุกข้าวใส่จาน มีน้ำให้ ส่วนตัวเองกลับบ้านทิ้งสาวเป๋อนั่งอยู่นอกอาคารของโรงช่าง ปรากฏว่าฝนตกหนัก สาวเป๋อเลยนั่งตากฝน ดิฉันกลับมาจากทำงานพิเศษเกือบ1ทุ่มแล้วหลังจอดรถยนต์ก็ไม่พบสาวเป๋อ
ก็เลยเป็นห่วงลองขับรถตามหา ไปพบว่าเป๋อนั่งอยู่ข้างๆโรงช่างพร้อมอาหารที่ดูเหมือนยังไม่กินเลยพอเป๋อเห็นรถเท่านั้นเธอร้องครางกระโดดทำท่าดีใจและยกมือ(เท้า)ประกบแบบไหว้สิบกว่าครั้ง ฉันเห็นแล้วบอกตรงๆน้ำตาคลอเลยค่ะสงสารมาก รีบปลดเชือกที่คอให้หลังปลดเชือกให้ เป๋อวิ่งไปยืนรออยู่หน้ารถยนต์แล้ววิ่งนำ ให้ฉันขับรถตามพร้อมหันกลับมามองเป็นระยะว่าฉันขับรถตามไปไหมจนกระทั่งถึงแฟลตที่พัก
จากเหตุการณ์ดังกล่าวดูเหมือนประตูแห่งความสัมพันธ์ระหว่างโป้งกับสาวเป๋อจะปิดตายสนิทแล้วยังส่งผลถึงผู้อื่นด้วยคือเป๋อเริมทวีความเกลียดชังมากขึ้นเรื่อยๆจากหนุ่มโป้งผู้เดียวกลายเป็นเพื่อนร่วมงานหนุ่มโป้ง
ไม่ว่าใครก็ตามที่เดินมากับโป้ง ใส่เสื้อช่าง เหมือนกัน มีเสียงรถจักรยานยนตร์ เหมือนกัน หรือเดินคล้ายๆกันไม่ว่าจะระยะไหน รัศมีนอกสายตาหรือในสายตาก็ตามเป๋อจะปฏิบัติตัวเหมือนเขาเป็นศัตรูคล้ายๆหนุ่มโป้งตลอด
จนกระทั่งทุกวันนี้หนุ่มโป้งหันมาขับรถยนต์แล้วพยายามหลีกเลี่ยงส้นทางหน้าแฟลตแล้ว มีหรือที่สาวเป๋อจะพลาดเธอจดจำเสียง รูปร่างของรถ ลักษณะ รถได้ดีปฏิบัติการโจมตีศัตรูของเธอจึงมีทุกวันสร้างความขบขันปนระอาใจกับผู้พบเห็นตลอดมา ....บางครั้งสร้างความหวาดกลัวแก่ผู้ที่ถูก ไล่นะแต่มาหลังๆชักเคยชินเพราะระยะห่างที่สาวเป๋อเห่าและไล่รถจักรยานยนต์มันห่างเหลือเกินมีรถยนต์นั่นแหล่ะที่วิ่งไล่ใกล้มากได้ เนื่องจากรถคันใหญ่อีกอย่างมองไม่เห็นคน เพราะเธอขี้ขลาดกลัวคนเหมือนกันทุกวันนี้ดิฉันต้องพยายามเก็บเงินค่ะเตรียมไว้จ่ายค่าทำขวัญให้กับหลายๆคนที่เป๋อคิดว่าเป็นศัตรูแล้วอาจไปฝากรอยเขี้ยวไว้กับส่วนต่างๆของร่างกายเขาแต่ที่ดูแลเขามาเกือบปีแล้วสาวเป๋อยังไม่เคยกัดใครเลยสักคนค่ะ
และ ถึงแม้สาวเป๋อจะมีพฤติกรรมความเปิ่นเป็นอย่างไร แต่ในความเป็นผู้หญิงสวยก็ต้องมีเรื่องของความรักมาเกี่ยวข้องวันยังค่ำ โดยเฉพาะความรักของสาวสวยที่ชื่อเป๋อค่ะ
เมื่อความรักมาเยือน(ตอนที่4)
ความรักกับเป๋อไม่รู้เกิดตอนไหน แต่สิ่งที่ดิฉันรู้คร่าวๆมาว่าสาวเป๋อถูกกระทำชำเราจากหนุ่มนายหนึ่งในช่วงการมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆหนุ่มที่กล่าวถึงเป็น เซนด์เบอร์นาร์ด ขนาดใหญ่ขนสีครีม สวยงาม นิคเนมว่าแตงโม แตงโมมีบรรดาศักดิ์เป็นลูกของแพทย์ที่นี่ เป็นที่หมายปองของสาวๆทั่วไปที่ไม่ใช่เผ่าพันธุ์เดียวกับแตงโม เนื่องจากต้องการน้ำเชื้อที่สุด Perfect ของแตงโมไปผสมพันธุ์กับลูกๆของเจ้าหน้าที่ทั้งหลาย ด้วยความต้องการดังกล่าวจึงมีการจัดกิจกรรมการผสมพันธุ์ขึ้น โดยมีแตงโมเป็นเจ้าบ่าวและมีสาวๆหลายรายสมัครใจและไม่สมัครใจ เป็นเจ้าสาว ส่วนเรือนหอมีทั้งที่พักของแตงโมและบ้านของเจ้าสาว
ส่วนกิจกรรมต่างๆไม่เป็นที่ปรารถนาของฉันหรอกค่ะ รู้สึกสงสารเป๋อค่ะ วันที่แตงโมร่วมหอ ลงโลงกับสาวๆมีเสียงร้องระงมจากสาวๆและแตงโมเลยทีเดียวมีสปายคนสวยรายงานให้ฟังค่ะ (แตงโมพักอยู่แฟลตใหม่ใกล้กับแฟลตเก่า ที่พักเป๋อ ) ส่วนสาวเป๋อดิฉันไม่เคยเห็นพฤติกรรมดังกล่าว แต่ที่เคยเห็นช่วงแรกๆ เห็นหนุ่มแตงโมเดินเตร็ดเตร่หน้าที่พักบ่อยๆ แล้วสิ่งที่พิสูจน์ว่าสาวเป๋ออาจถูกกระทำชำเราจริงๆก็คือ ที่อวัยวะสำคัญของสาวเป๋อบวม ฉีกขาด และ มีเลือดออกมาก พฤติกรรมสาวเป๋อ เริ่มแสดงความหวาดกลัวเมื่อเห็นแตงโม ค่ะ จึงคิดว่าหน้า จะมีเหตุการณ์อะไรๆเกิดขึ้นกับสาวเป๋อเป็นแน่เลย
จากการกระทำดังกล่าวทำให้สาวเป๋อเจ็บตัวมาก เพราะมีแผลเรื้อรัง มีการอักเสบ และใช้เวลานานหลายเดือนกว่าแผลดังกล่าวจะหาย ช่วงเวลาดังกล่าวศัตรูของเป๋อเพิ่มขึ้นกลายเป็นสุนัขเผ่าพันธุ์เดียวกันด้วย เป๋อจะไล่ทุกตัวที่เข้าใกล้แฟลตและไม่คบค้าสมาคมกับใคร
ระยะเวลาผ่านไป เชื้อสายของแตงโมก็กำเนิดขึ้นเป็นเชื้อสายเดียวกันแต่มีสีดำ นามว่านินจา นินจาตัวโตเป็นหนุ่มน้อยละอ่อนการเจริญเติบโตของนินจาเกิด พร้อมๆกับการแยกจาก บิดาตนเองอย่างถาวรเมื่อแพทย์เจ้าของแตงโมย้ายไปปฏิบัติงานที่อื่น นินจาแข็งแรงเจริญเติบโตเร็วร่างกายสูงใหญ่ ตัวใหญ่กว่าเป๋อ แต่ที่แตกต่างจากเป๋อคือวัยและความคิด เพราะนินจาจะมีความเป็นเด็กอยู่มาก มีอารมณ์ของความขี้อ้อนอยู่สูง และ เมื่อเริ่มเป็นหนุ่มละอ่อนนินจาเริ่มเที่ยวนอกบ้านพักตัวเอง จนมาถึงแฟลตที่เป๋ออยู่ ความสาว ความสวย ของเป๋อ ทำให้นินจาคงตกหลุมรักกระมังเพราะว่า นินจาหลังจากพบเป๋อ ก็เพียรพยายาม มาที่แฟลตบ่อยมาก แต่นินจาก็ยังเด็กเหลือเกิน ด้านความคิด ประจวบ กับ สาวเป๋อคงมีความจำฝังใจอยู่แน่ เลยทีเดียว จึงวิ่งไล่กัดแตงกว่าเมื่อเห็นหน้า ทันที เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง ซึ่งตรงกับความคิดของฉัน ฉันสงสารเป๋อก็เลยไล่ส่งแตงกวาทุกครั้งที่มันมาเข้าใกล้แฟลต แต่ก็อย่างว่า......ตื๊อ เท่านั้นที่ครองโลก
....ผ่านไปเป็นเดือน ...วันหนึ่งฉันเดินลงจากแฟลต สิ่งที่เห็นกับตาตัวเอง ปนอิจฉานิดๆ (อิจฉามากเลยล่ะ) คือเห็นสาวเป๋อกับหนุ่มนินจาเขาวิ่งเล่นกัน หยอกเย้า กัน นินจาทักซุก ทั้งไซร้สาวเป๋อเลยทีเดียว เหมือนหนุ่มสาวที่ตกหลุมรักกันใหม่ๆหรือคู่แต่งงานใหม่ ยังไงยังงั้นเลยทีเดียวสาวเป๋อหันมาเห็นดิฉันเข้าด้วยความกลัวว่าดิฉันจะดุหรือกระไร พฤติกรรมหยอกล้อกับกลายเป็น แม่เสือสาวหวงลูกอ่อน วิ่งไล่กัด นินจา ใหญ่เลย ทำเอานินจา เกิดอาการงงๆกับ เป๋อ อยู่พักใหญ่ แต่ก็ไม่โต้ตอบได้แต่เดินหนีไป เป็นอย่างนี้หลายครั้งมาก
พฤติกรรม ของนินจาที่มาหาเป๋อ จะอยู่ในสายตาตลอดค่ะ ยอมรับว่าเห็นแก่ตัวค่ะไม่สนับสนุน เป็นห่วงเป๋อค่ะกลัวเป็นแผลอีก และกลัวว่าเป๋อจะท้องไม่มีพ่อค่ะ ดังนั้นจึงฉีดยาคุมให้ป้องกันไว้ก่อน เมื่อถูกขัดขวางด้านความรักพอควรเป๋อก็เริ่มเกเรบ้างแต่ไม่มากเท่าไหร่ คือเป๋อเริ่มหายจากที่พักไปเที่ยวบ้านนินจาบ้าง ไปนอกและห่างไกล จากที่พักบ้าง แต่ก็ยังอยู่บริเวณที่พักเจ้าหน้าที่อยู่ค่ะ และเมื่อดิฉันเรียกหาเธอก็จะวิ่ง ....และก็วิ่ง...มาอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจนินจาว่าจะว่าอย่างไร เพื่อมาให้ทันไม่ให้ดิฉันหงุดหงิดค่ะ ดิฉันก็ยังอคติกับนินจา อยู่ทุกวันจนกระทั่งวันหนึ่ง ดิฉันขี่จักรยานจะไปทำงาน เห็นนินจาป้วนเปี้ยน แถวๆแฟลตที่พัก พอนินจาเห็นดิฉัน นินจาก็กระโดดลงน้ำ.....ตูม! หน้าแฟลต( ที่หน้าแฟลตมีสระน้ำมี บัว เป็นสระขนาดใหญ่เป็นบ่อพักน้ำเสียจากการบำบัดค่ะ) หลังจากนั้น ก็เอาศีรษะตัวเองจุ่มน้ำ เหวี่ยงไปมา พร้อมกับเงยหน้าเป็นระยะ ๆ แบบๆเด็กเล่นๆ สร้างความขบขันให้ดิฉันมากเกี่ยวกับพฤติกรรมแผลงๆของนินจา ฉันก็เลยลองเรียกนินจาดู ปรากฏ ว่านินจาขึ้นมาหา และก็เอาศีรษะตัวเองมาถูๆไถ ๆแบบอ้อนดิฉัน โอ้โห.!...........ได้ผลแฮะ! ใจที่แข็งๆของฉันอ่อนยวบเลย ก็เลยเอามือลูบศีรษะมัน เล่น มันกระดิกหางตอบรับทันที ....หลังจากวันนั้นฉันก็เลิกขัดขวาง ความรักของเป๋อ เปิดโอกาสให้เต็มที่ แถมให้อาหารเผื่อนินจาด้วย และแล้วสิ่งที่กลัวก็ตามมาจนได้เมื่อกลับมาจากทำงานพิเศษ พบพี่พยาบาลคนอื่นทักว่าเป๋อเป็นอะไรไม่รู้ นอนซึม มาก ช่วงแรกๆก็ยังไม่ได้สนใจมากเพราะเมื่อพบเป๋อ เป๋อยังเดินยิ้มมาหาอยู่ แต่ยิ้มแบบฝืนยิ้ม จนกระทั่งก่อนขึ้นปฏิบัติงาน ดิฉันต้องให้ข้าวก่อน ปรากฏว่าหาตัวไม่เจอ เลย ต้องเรียกนาน และเที่ยวตามหาก็พบว่า เธอนอนอยู่ใต้ถุนแฟลตที่เป็นดิน ไม่ยอมออกมา ต้องไปลากออกมากินข้าว ก็พบว่าไม่กินข้าว ดิฉันตรวจร่างกายก็พบว่าที่อวัยวะดังกล่าวของสาวเป๋อบวมมากๆเป็นก้อนกลมๆแบบลูกมะนาวเลย ถ้าถูกเป๋อจะเจ็บและร้องครางมาก แย่เลย! ดิฉันจำเป็นต้องให้ยาแก้อักเสบของมนุษย์ให้กินก่อน ค่ะ ประทังอาการอักเสบลดอาการปวด เพราะไม่มีเวลาพาออกไปพบสัตว์แพทย์เนื่องจากต้องทำงานควบ ต้องว่างก่อน ดังนั้นหลังให้ยาดิฉันต้องขี่จักรยานมาดูเป็นระยะ ๆ ยาช่วยสาวเป๋อได้บ้าง แต่ไม่มากเลย มานั่งคิดดูแล้วสงสารเป๋อจังริมีความรักก็ต้องเจ็บตัวเพราะรัก แท้ๆ เฮ้อ! แล้วหมอเขาจะว่าอย่างไรหนอ? กับการเจ็บป่วยของสาวเป๋อในครั้งนี้ ....พบกันตอนต่อไปค่ะ..