22 มีนาคม 2546 21:05 น.
ริมธาร.
วันนี้..ตาลอารมณ์ไม่ดีนัก.. เลยเดินสะบัดหน้าออกจากบ้านไปอย่างไม่สบอารมณ์ แม่นะแม่.. บ่นได้บ่นดี กะแค่ไปเจอบุหรี่ของเพื่อนในกระเป๋าที่เขาแอบซุกไว้นานจนลืม ตาลมุ่งหน้าไปทางด้านหลังของบ้าน ที่เป็นป่าละเมาะ.. กระชากกิ่งไผ่แห้ง ๆ ริมทางติดมือมาอันหนึ่ง กวัดไกวฉวัดเฉวียน..ฟาดสะเปะสะปะ ไปสองข้างทางอย่างพาล ๆ
เขาเดินข้ามสะพานปูนเล็ก ๆ ที่ชาวบ้านช่วยกันมาสร้างไว้สำหรับข้ามคลอง ที่น้ำแห้งเหือดไปหมดแล้วสำหรับหน้าแล้งอย่างนี้.. ทิวไผ่สูงท่วมศรีษะ ทางเดินเริ่มแคบลงจากทางปูนกลายเป็นลูกรังสีแดง เขาเริ่มห่างจากบ้านผู้คนเข้าสู่ท้องนาที่ร้างไร้ข้าวในเป็นท้องนาที่เวิ้งว้างที่สุด เหงา.. เขาบอกตัวเองอย่างนั้น และทรุดตัวลงใต้ต้นมะขามเตี้ย ๆ ที่สองวันก่อนเขาและพรรคพวกยังมาปีนป่ายเล่น
ช่วงนี้ปิดเทอม เพื่อนหลายคนไปอยู่กับญาติต่างจังหวัด บ้างพ่อ-แม่ ก็พาเข้ากรุงเทพฯ บ้างก็นัดกันเป็นกลุ่มไปเที่ยวทะเล ส่วนเขาจำเป็นต้องช่วยแม่ขายของที่หน้าบ้าน บ้านเขามีอาชีพขายขนมจีน ทั้งหน้าร้านและส่งตามบ้านผู้คนในหมู่บ้านเล็ก ๆ ห่างจากตัวอำเภอเกือบ 20 กิโลเมตร จะซื้ออุปกรณ์การเรียนที ก็ต้องนั่งรถสองแถวไปหาซื้อในตัวอำเภอหรือไม่ก็ตัวเมือง
ตาลเอนกายลงใต้ต้นมะขาม.. เหม่อมองไปบนท้องฟ้ากว้าง ป่านนี้ออฟกับเพื่อนกลุ่มใหญ่คงสนุกกับการเล่นทะเลที่ชะอำ ไอ้ก้านก็สนุกกับการท่องเที่ยวในเมืองหลวง ห้างสรรพสินค้านานาที่มันเล่ามาทางสายโทรศัพท์เมื่อคืน ไอ้ก้านเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของเขา มันชวนเขาไปด้วยเหมือนกัน แต่เขาไม่อาจจะทิ้งแม่ไปได้ อย่างน้อยทุกวันที่เขาได้มีโอกาสเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง ก็เพราะร้านขายขนมจีนของแม่
เมฆสีขาว.. ลอยละล่องบางเบาเป็นกลุ่มก้อน บ้างก็เป็นรูปนก บ้างก็เป็นรูปปลา บ้างก็เป็นเหมือนนางฟ้ามีปีกบาง เฮ้อ.. อาจจะเพ้อฝันไปหน่อยสำหรับหนุ่มวัย 17 ปีอย่างเขาที่มองฟ้าแล้วจินตนาการไปต่าง ๆ แต่ก็นั่นแหละ
เสียงผู้คนงึมงำ ๆ ดังเข้ามาในโสตประสาท เขาผงกศรีษะมองเห็นชายสองคนหอบถุงขยะสีดำมาโยนเผละตรงกองขยะที่มีรอยเผาขยะเป็นวงสีดำ ตรงที่เขาเดินผ่านมาเมื่อครู่ใหญ่ แล้วรีบวิ่งจากไป ชายสองคนไม่ทันสังเกตว่ามีคนนอนอยู่ใต้ต้นมะขามนี้คงจะเพราะความรีบร้อนหรือจะด้วยอะไรก็แล้วแต่.. สัญชาติญาณบอกตาลให้วิ่งไปที่ถุงขยะแล้วแกะปมเชือกด้วยมือสั่น ๆ กลิ่นคาวเลือดโชยมาชวนผะอืดผะอม.. โอมันเกิดอะไรขึ้น เสียงคนเดินดังเข้ามาใกล้ เขาละมือแล้วรีบวิ่งไปหลบตรงคลองที่แห้งเหือด ตัวสั่น ใช้ลำต้นมะขามบังตัวเองไว้มิดชิด แนบลำตัวกับดินมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เสียงโยนสิ่งหนัก ๆ ลงบนกองขยะอีกตุ้บ! นั่นมันไอ้โบ้ กับไอ้นาถ ลูกน้องของเฮียเหลียง พ่อค้าที่ตลาด ไอ้สองคนนี้ติดยา แม่บอกว่าอย่าเข้าไปใกล้ มันทำอะไรกัน.. ทำไมเอาถุงขยะสีดำ มีกลิ่นคาวเลือดมาทิ้งประเจิดประเจ้อแบบนี้ เสียงไอ้สองคนนั้นคุยกันงึมงำ ๆ เหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง ดังห่างออกไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งสองคนนั้นลับตาไป เขาค่อย ๆ ออกจากที่ซ่อนตัว ไม่สนใจที่จะปัดเศษฝุ่นผงออกจากร่างกาย วิ่งมาแกะถุงดำที่มันเอามาทิ้งไว้ คาวเลือดพวยพุ่งออกมาจากถุงดำ จนเขาต้องเบือนหน้าหนี แล้วค่อย ๆ หันหน้ามามองเข้าไปในถุงขยะสีดำก้อนเนื้อและติดไขมันเขรอะเลือดกรุ่นกลิ่นกระจายจนเขาผงะ แล้วออกวิ่งตุปัดตุเป๋กลับมาที่บ้าน เหงื่อแตกซิก เขาเล่าทุกอย่างให้แม่ฟัง แม่ให้เขาเอามอเตอร์ไซด์ไปที่ป้อม แล้วให้เล่าให้ตำรวจฟัง ผู้คนตื่นตระหนก โจษขานกันยกใหญ่ เมื่อเสียงไซเรนมาถึง ทุกคนก็กรูกันตามรถตำรวจไป
นายตำรวจในเครื่องแบบ 3 นายพร้อมอาวุธ ผู้ใหญ่บ้านและกรรมการหมู่บ้านมาช่วยขึงเชือกกันผู้คนที่มาห้อมล้อม ไทยมุงเริ่มขยายวงจากกลุ่มเล็ก.. ผู้คนแทบทุกบ้านมาออกันจนทั่วบริเวณ ตำรวจอนุญาตให้หมอจากสถานีอนามัยประจำหมู่บ้านเข้าไปในบริเวณที่ล้อมไว้..เพื่อให้ชันสูตรชิ้นเนื้อที่ส่งกลิ่นสะอิดสะเอียนนั้น ทุกคนลุ้นกันอย่างใจจรดใจจ่อ ทุกคนมุ่งประเด็นไปที่เฮียเหลียงซึ่งหายจากบ้านไปสองวัน คงจะถูกไอ้สองคนนี่ฆ่าหั่นศพแล้วเอามาทิ้งที่ท้ายทุ่งแห่งนี้ เวลาแห่งการรอคอยผ่านไป วินาทีแต่วินาที เสียงวิพากษ์ วิจารณ์ เซ็งแซ่ไปทั่วท้องทุ่ง
******************************************************************************************
ไอ้โบ้กับไอ้นาถใช้สองมือโกยเงินในลิ้นชักร้านขายของชำกันอย่างรีบเร่ง มันใช้ถุงดำเป็นตัวช่วย
เฮ้ยยย.. เราสิวะ เดี๋ยวพ่อมึงก็แห่กันมาหรอก
กูก็รีบอยู่ มึงไปเก็บร้านโน้นเร็วเข้าสิโว้ย
เออ.. ๆ ไอ้โบ้ข้ามฝั่งถนนเล็ก ๆ ใจกลางหมู่บ้านโกยเงินในลิ้นชักร้านขายขนมจีนใส่ถุงอีกใบ เงินที่ได้มาหนนี้คงโข มันสองคนจะได้ไปซื้อยามาสูบกันให้เปรม โดยไม่มีใครสงสัย 55555.. ขอบใจต้นฉบับเรื่องสั้นที่ไอ้เด็กหน้าโง่คนหนึ่งมันทำตกที่หน้าร้านเมื่อวานตอนเย็น ทำให้ไอ้นาถกับมันไม่ต้องเสี่ยงกับตำรวจในวันที่กระทำการปล้นกลางวันแสก ๆ แบบนี้ 5555555.
สองโจรหัวเราะก้องหมู่บ้านที่ยามนี้เงียบงัน ไม่มีผู้คนอยู่เลย
******************************************************************************************
อาทิตย์อัสดงท้องฟ้าเป็นสีแดงฉาน ดุจดังเลือดที่ท่วมทุ่งครั้งนี้ หมอเรียกตำรวจไปซุบซิบ ๆ แล้วเก็บเครื่องมือเดินออกไปจากบริเวณนั้น ตำรวจเรียกผู้ใหญ่บ้านมากระซิบกระซาบอีก.. แล้วเสียงผู้ใหญ่บ้านก็ประกาศลั่นทุ่ง
ไม่มีอะไรหรอกพวกเรา นี่มันเป็นเนื้อหมูที่เน่าเท่านั้นเอง สงสัยเฮียเหลียงไม่อยู่ ไอ้ลูกน้องสองคนขี้เกียจเปิดร้านเลยเอาหมูเน่ามาทิ้ง เสียงผู้คนฮือฮา..กันทั่วบริเวณ..และต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน อา.ถ้าหากทุกคนจะรู้ว่าชะตากรรมที่ต้องกลับไปเผชิญคือเงิน ทองที่สะสมไว้ ถูกอมนุษย์ฉกฉวยไปเสียแล้วจะเป็นอย่างไรหนอ