3 สิงหาคม 2547 15:52 น.
ราม ลิขิต
๐เข้าวรรษาวาปีล้วนปรี่ปริ่ม
ตลิ่งร่นชลเลื่อนเขยื้อนริม
บุษบงส่งยิ้มพยักมา ฯ
๐สมัยน้ำเนืองนองโสมนัส
สมานดีกำดัดสมัตสา
ระบัดบานนานหนุนวรุณา
จากวลาหกหึงตรึงโพยม
พยับแผ่แต่ใจใสสว่าง
สวาทดินดับกระด้างประดอยโสม
สรรพสิ่งซับกระแสพรรษาโซม
ธรณีประโคมพระคงคา
บ้านช่องเรือนชานจะเต็มฉาง
ข้าวปลามีวางมิห่างหา
อิ่มหมีพีมันวันเวลา
พระคุณน้ำฟ้าผู้อาทร ฯ
๐แลสงฆ์องค์บุตรสัมพุทโธ
ยับยั้งมรรโคสโมสร
เหยียบย่ำชีวินวเนจร
จักก่ออธิกรณ์วิสัยกรรม
ไตรมาสวาสนาให้งามส่ง
บุญยงยั่งยืนหมื่นฉนำ
นบฝาดกาสาวพัสตร์นำ
พ้นความต้อยต่ำกิเลสตรึง
นะโมตัสสะภควโต
นอบน้อมกรุโณพระภาคพึ่ง
พุทธังสรณังประจุรึง
รัดร้อยก้นบึ้งแห่งหัวใจ
ธรรโมกุโลกปตนา
ธรรมาปกป้องพิทักษ์ให้
ผู้ครองห่างเหทะเลไฟ
อยู่เย็นเหมือนในชโลทร ฯ
๐สวยเอยสวยแห่งวรรษาสมัย
หนักแน่นรักไผทมิถ่ายถอน
ขอสุขแห่งสยามสถาพร
มารดานครนิรันตราย ๚ะ๛
1 สิงหาคม 2547 16:55 น.
ราม ลิขิต
เมื่อหมองขึ้นครองเมฆ
รจเรขก็เลือนลาง
ทาบเทาไปทุกทาง
สลัดสางจนสร่างแสงฯ
ลมชายมากลายโชก
กระหน่ำโลกกระโดกแรง
หวีดทิวและหวิวแทง
เยือกทแยงในสัญญีฯ
น้ำฟ้าก็บ่าฝอย
จากเส้นซอยดุจสร้อยศรี
ถึงบ้าถลาบี-
ฑาถล่มทลายลงฯ
ตกฝ้าลงคาฝัน
วรรษาสั่นสัญญายง
เธอแค่แต่ฉันคง
มิรู้เคลื่อนทุกเงื่อนคำฯ
ฝนชื่นสะอื้นแอบ
ซบลงแทบเธอกระทำ
คนจรอาวรณ์จำ
ยังฝังใจรักไม่จางฯ
เห็นเมฆที่ครองหม่น
น้ำตาท้นออกเป็นทาง
หลายปีที่ปรี่ปราง
เป็นร่องเลาะกัดเซาะลึก๚ะ๛