16 มีนาคม 2546 01:42 น.
ราม ลิขิต
เขาย่อกายรัดกุมสุขุมก้าว
กระดืบด้าวรุกถอยร้อยวิถี
สายตาจับจิตจ้องหาช่องตี
ข้างหน้ามีดัสกรมุ่งรอนราน
แหลมของปี่หยีหยอยทยอยยั่ว
กระหึ่มกลั้วตึงโตนตะโพนขาน
กระหน่ำฉิ่งกริ๊งฉับวับกังวาน
เขาเร่งการราวีให้ตีรัน
ประดุจเสือสมิงพรายมีลายพาด
ปะทะราชสีห์ศักดิ์พยัคฆ์ขวัญ
นพอาวุธผุดออกเข้าตอกกัน
โจนประจัญจวกจี้ไม่มีเกรง
แต่ละยกฟกช้ำกระหน่ำเชือด
ศอกเฉาะเลือดฉูดพุ่งสะดุ้งเหยง
ตวัดเข่าเข้าโค้งโก่งทุกเพลง
เท้าบรรเลงกวาดดีตีลังกา
รอบเวทีอึงอลคนแออัด
นิ้วสะบัดชูร่ายคอยส่ายหา
เป็นสัญญาณคู่นี้มีราคา
วางสัญญาต่อรองจ้องพนัน
บนเวทีเร่าร้อนว่อนอาวุธ
ล่างเร่งรุดเงินตราอย่างน่าขัน
บนเวทีตีต่อยถอยประจัญ
ล่างออกตัวสารพันสวรรค์ใคร
ลูกผู้ชายชาติเชื้อไม่เถือศักดิ์
เมื่อปักหลักแลกแล้วไม่แจวไหน
คนละเชียะเพียะฉาดฟาดเข้าไป
สำแดงไทยกริบคมไม่ล้มมวย/.
13 มีนาคม 2546 18:26 น.
ราม ลิขิต
สองมือล้วงกระเป๋าอย่างเหงาเงียบ
สองเท้าก้าวเทียบบาทวิถี
สองตาอ้างว้างร้างรวี
วางตนในที่ไม่มีใคร
อาทิตย์ยามเที่ยงเผดียงทาบ
เหงื่อโซมกำซาบผุดภาพใส
นิ่งลมรำเพยจะเชยไพร
ป่าคอนกรีตไกลไปทุกที
ค้นหาความรักที่หล่นหาย
มิตรภาพตกตายระบายสี
ปากจริงตรงใจผู้ใดดี
มือเท้ายื่นมีหัวใจมา
คืนค่ำตำรามาวางรอบ
สุภาพตามระบอบระบบบ้า
สุชนวนพงศ์ในดงกา
ภาพเด็กเดียงสาอยู่ที่ใด
ไกลถิ่นบินไปใจกระจอก
หัวใจไหวออกจะบอกให้
ละเมาะรื่นชื่นพรรณแค่ฝันไป
ช่างไกลเหลือเกินการเดินทาง
ทุกข์ทนบนที่วิถีเถ้า
ทุกข์ใจใครเล่าจะเข้าถาง
หนามร้ายคายคมเคืองระคาง
ฝูงพรานอำพรางคอยง้างปืน
มาเถิดภรตาผู้ว้าเหว่
ภควันต์ชี้เหทะเลหืน
ไปแกะทุรกรรมที่กล้ำกลืน
หัวใจจักตื่นจากฝันร้าย/.
12 มีนาคม 2546 02:38 น.
ราม ลิขิต
นั่นยังไงโลกเศร้าที่เหงาเงียบ
นั่นหัวใจเย็นเยียบเสียบด้วยศร
เห็นไหมเล่าโลกหรือคือละคร
ตัวแสดงแบ่งตอนจะฟ้อนตน
หวังหรือโลกหายคลายโศกเงียบ
หวังหรือพร้อมเพียบบุปผาผล
หวังหรือกลิ่นหอมล้อมทุรน
หวังใดใครด้นกมลเย็น
ตัวอักษรค่อนฟ้ามาเถิดเหวย
เอาเลยทิ่มแทงเต็มแรงเข็น
เลาะกระดูกไส้ขดไปจรดเอ็น
กองสรวงถ่วงเซ่นวิญญาณทราม
เศร้ากันแสงของใครในโศกเงียบ
รินเรียบแต่ทว่าท่วมหล้าสาม
โอ้โกสินทร์อกข้าสะทกความ
ไหวหวั่นขวัญขามสังคมคน
ด้วยว่าศาสดาของข้าดับ
ทุกข์ทับหนักท้อการฉ้อฉล
ไร้ยิ้มพิมพ์ใจสาธุชน
เขาโยนแก้วหล่นร้าวกับดิน
โอ้แม่ธรณีวิถีลูก
ฤาหนทางถูกกระทบสิ้น
มืดมรรคหมองไหม้ใจชีวิน
แม่จ๋าขอจินตนาการ
เพื่อไปปลดโลกเศร้าที่เหงาเงียบ
จะถอดศรแทงเสียบ ณ สุสาน
จะเปลื้องแอกปลดพันธนาพาล
ให้โลกเลิกคลานเล่นละคร/.
10 มีนาคม 2546 14:21 น.
ราม ลิขิต
มันคือความอัปยศและอดสู
กลางหัวใจไหวอยู่โดยรู้เห็น
จากเสียงแหบปร่าอันชาเย็น
สู่การฆ่าเข่นด้วยสงคราม
ความตายซาตานจะผลาญโลก
กวักปีกจะโบกสะบัดหนาม
ปากเน่าจะงับมนุษย์นาม
เท้าจะลบนิยามนนุษย์ชน
เยื่อใยไมตรีที่อวลออก
จะกลายหมอกฝ้ามัวสลัวหน
เส้นทางพร่างในน้ำใจคน
จะวางทอดทุกข์ทนทุกเส้นทาง
ธารเลือดจะฟ่องละล่องไหล
ท่วมยอดหิมาลัยในรุ่งสาง
ซากศพจะดั้นบันไดวาง
ก้าวสู่เวิ้งว้างสวรรค์ใด
หรือว่านี่คือชะตากรรม
ของมนุษย์ที่กระทำมนุษย์ได้
พระเจ้าท่านยืนอยู่ข้างใคร
พระองค์อวยชัยอย่างไรกัน
รักโลกโยกยาตรอนาถอเนจ
เบ็ดเสร็จรีบรี่ขมีขมัน
ถึงใครกล่าวโทษจะโจษจะจัน
ตีบตันหูตึงตะบึงตะบอน
สงคราม
ต่ำทรามสู่มหาอนุสรณ์
ดับดิ้นทุกฐานันดร
ที่ย้อนคืนกลับไม่มี/.
.................................................
ขอต่อต้านอริแห่งสันติภาพ
ในนามของมนุษย์คนหนึ่งบนโลกใบนี้
9 มีนาคม 2546 02:08 น.
ราม ลิขิต
เรื่องของเมียละเหี่ยใจต้องไปขอ
ม่ายงั้นก้อเขาไม่มาอยู่อาศัย
คำมะเมียหมายถึงว่าอาชาไนย
ต้องระไวสุดขีดเขาดีดเอา
ที่พูดมาดูเหมือนเพื่อนมันบอก
ด้วยว่าออกจะชำนาญถึงการเก๋า
สังเกตได้ที่หูยานอานถึงเพลา
อีกทั้งเบ้าตานี้ปี๋ประจำ
เขาเหลียวซ้ายแลขวาทั้งหน้าหลัง
เหมือนระวังคุณเมียเขี่ยจุดขำ
เขากระซิบบอกพี่ได้สี่คำ
เห็นหน้าคว่ำคาตาครกพาเพลิน
เขาบอกว่าเมียดีเหมือนมีแม่
แต่เขาแย่ถูกอัดจนขัดเขิน
ด้วยแม่เขาดุมากจึงอยากเมิน
เขาเลาะเดินอยากแท้ทิ้งแม่ไป
เขางกเงิ่นเดินลิ่วหานิวแม่
เที่ยวร้องแร่แห่กระเฌอคนเผลอไผล
เห็นมัจฉาปลากระจุกรีบซุกไซ
เขาบอกใครเขานี้ไม่มีเมีย
ด้วยเขามีแต่แม่เป็นแต่ลูก
ความพันผูกเฉกเพื่อนจึงเลือนเสีย
ความผูกพันฉันทาจึงพาเพลีย
ต้องใส่เกียร์ห้าหมดเที่ยวปดใคร
จะใจอ่อนก็ได้ถ้าใจอ่อน
แต่เผือกร้อนดูให้ดีคลี่เปลือกไข
เรื่องของจิตชิดชอบมอบกันไป
แต่แค่ใจเท่านั้นม่ายงั้นซวย
เรื่องของเมียละเหี่ยใจไม่คิดขอ
คนหน้างอทุกวันมันไม่สวย
ทั้งหมดนี่จากเห็นเพื่อนเกลื่อนระทวย
ส่วนผม ฮ่วย! จนป่านนี้ไม่มีเมีย/.