31 มีนาคม 2546 04:23 น.

ละครปีกเมฆ

ราม ลิขิต

๐มือแห่งรัก         ถักทอรุ้ง
วาดโค้งคุ้ง          ทุ่งสีทอง
อิ่มหัวใจ            ไอละออง
สายขวัญคล้อง    คลองระริน

๐เธอเป็นคน         บนฝั่งฝัน
พร่างเงาจันทร์       ผันเงาจินต์
เสียงพรูพราย        สายเพลงพิณ
แผ่วภาพผิน          ระพินผล

๐ฉันเป็นคน         บนฝั่งแฝง
ชิวิตแลง             แล้งทุรน
ศูนย์และสาบ        แฝงบาปฝน
ควานคว้านค้น      ตนของตัว

๐รู้คำรัก             แค่คักคิก
รักริกริก              แค่พลิกหัว
เพียงหลับไหล     ในหมอกมัว
ตื่นรักรั่ว              รูหัวใจ 

๐เธอมาสอน       ซอนวาสี
บรรจงชี้             บัญชีไช
ในสองมือ           ถือละไม
สาดแสงใส         ไขแสงสี

๐ฉันเริ่มเชื่อ        เพาะเชื้อรัก
เฝ้าฟูมฟัก          ฝักใฝ่ดี
เราคือคู่             สู่วิถี
ไปในที่              มีดวงดาว

๐ปีกแห่งเมฆ       วิเวกสร้าง
มาเวิ้งว้าง          อำพรางยาว
แท้คือขุย           ของปุยขาว
เมื่อเธอก้าว        เท้าจากไป

๐มือแห่งรัก       หักสายรุ้ง
ลบโค้งคุ้ง         ทุ่งถากไถ
ถมคูคลอง         ปิดห้องใจ
เก็บขวัญไว้        ให้เวรกรรม

๐บันทึกใจ         ตอนวัยแก่
บันทึกแด่          หัวใจดำ
ปิดเหตุผล         สองคนทำ   
ในคืนค่ำ           รำละคร/.				
30 มีนาคม 2546 18:11 น.

บนเส้นทางมนุษย์ : ชีวาลัย

ราม ลิขิต

เกิดตายกายเราเพียงเท่านี้  
จนมีสุขทุกข์เคล้าคลุกสน
ดีร้ายมากน้อยเรียงร้อยตน  
ดอกผลถูกแพงตกแต่งพอ

เมื่อมามาเปล่าเพียงเท่าไหน  
เมื่อไปไปเปล่าเท่านั้นหนอ
เมื่อมากว้างยาวเท่ายกยอ  
เมื่อไปใหญ่ย่อพอพอกัน

ในเวิ้งชีวิตหากคิดมุ่ง   
เพียงปรุงปรนเปรอบำเรอสรรค์
เสพเสาะเจาะสรวงจนทรวงตัน  
อยู่ทนทุกวันเพื่ออันใด

รู้แน่แท้ตายคือปลายติ่ง   
หาใครไหนนิ่งประวิงไหว
ช้าเร็วเส้นทางย่อมวางไป  
ยื้อยุดฉุดไว้ไม่มีทาง

ประมาทอาจว่าตนสามารถ  
ย่อมชาติกิมิปริจากขาง
กระดืบอาจมก้มพุงกาง   
เสยคางจุ่มขั้นสวรรยา

เพื่อแต่งแมลงวันไปตันต่อ  
ไก่ก้ออากูลจำรูญก๋า
ก่อนไข่ขางขนวนเวียนมา  
ชีวาคลื่นเหียนวนเวียนไป

มนุสสามิแสคงแค่สาง   
แม้ไม่ส่างที่สุดมนุษย์ไสย
ห้วงสาหัสวัตถุทะลุไร   
จะทิ่มไถถากถางทางสะเทือน

เพียงกลับกรรมลำเหทะเลโหด  
ทวนสังโยชน์ต้านกามที่ตามเฉือน
จะเห็นหน้าค่าต่างสว่างเตือน  
จะเห็นเพื่อนทั้งผองผู้หมองมัว

ชีวาลัยในวารีที่ทุกข์ท้น   
ห้วงแห่งคนหนของใคร่ใจครอบขรัว
ไม่ยิ่งยงคงกระพันขวั้นคอตัว  
เมื่อไม่กลัวคงเจอกันตอนวันตาย

สดุดีมีชีวิตคิดใช้ค่า   
เต็มราคาความเป็นคนข้นความหมาย
ชิวิตนั้นวันรากเหง้าไม่เปล่าดาย  
ย่อมสลายเพียงเรือนร่างร้างอาดูร/.				
30 มีนาคม 2546 03:49 น.

บนเส้นทางมนุษย์ : เส้นทางที่สวนกัน

ราม ลิขิต

สูงนั้นสรรค์หนาวสาวไหน		
ขุนเขาใครใคร่ไขขาน
ดิ้นรนดลร้อนดอนราน				
ไต่ร่านต้านรกตกลง

มุ่งหน้ามาในไม่แน่				
ร่อแร่ลุกไล่ไหลหลง
ปุ่มป่ำปล้ำไปไป่ปลง				
มั่นคงม่งขั้นหมั่นคลาน

คำเว้าเขาว่าค่าว่อน				
กระชอนกลายฉับกลับฉาน
ได้แท่นแดนไท้ใดทาน				
พิมานผ่านมาพ่าห์เมือง

เหนือคนนนท์ครองนองคราบ			
ใต้ราบตอดหล้าตาเหลือง
เหนือใครในคิดนิดเคือง			
อาจเขื่องเอื้องเคี้ยวเอี้ยวคม

เป็นหนึ่งปึ่งนรป้อนนั่ง				
อิ่มพลั่งอังก์พรอ่อนผม
ขึ้นฉิวคิ้วชอนค่อนชม				
เหยียบจมยมจู่ยู่ใจ

จึงใครใจคิดจิตครุ่น				
มานมุ่นหม่นหมองมองไหม
หมายเพียงเมียงเพื่อเมือไพ			
ตีไรไต๋ร่ำตำลึง

ปิดตาป่าตั้งปังสุ์ตับ				
ไม่เห็นเหม็นหับหมับหึง
ใครสวนควนสูขูซึง				
รำพึงรึงพร่ำรัมย์พัง

เขาบ่นข้นบ่มคมบาก			
ยิ้มฝากอยากใฝ่ไย่ฝัง
เขาบอกคอกบ้าค่าบัง				
เขาเบื่อเคื้อบั้งขังบอ

ไปสูงปรุงแสร้งแปลงเส			
สามัญสรรค์เมเซหมอ
กระท่อมกล่อมทักกักทอ			
เรียบง่ายไร้งอร่องาม

ภาพตัดพิมพ์แต่งแพร่งไต่			
ตรงข้ามต่างใคร่ไต่ขาม
ขึ้นลงคงลับขับราม				
คุกความคิดคล้องครองคน/.				
29 มีนาคม 2546 03:07 น.

บนเส้นทางมนุษย์ : ทะเลอารมณ์

ราม ลิขิต

ฉายชะวากฉากวุ้งเป็นคุ้งวิ่น  
ทะเลชินคลื่นเฉียงกรรเชียงฉาน
ซัดระลอกกลอกเลียดละเอียดลาน  
ระทึกจารจดใจฤทัยจอง

ไม่เคยหลับเย็นร้อนอาวรณ์ร่ำ  
บ้างก็ขำบ้างเขี่ยบ้างเสียของ
รักพาชื่นลื่นพาชักมักช่ำชอง  
หากไม่ตรองต้องซังเตโดนเฮตึง

อยู่ใกล้ใกล้ไกลกันรนมันก่อ  
รักเข้าขอแต่ไข้กลับไล่ขึง
อยู่เขาเขียวรู้ค่าเหมือนหน้าคลึง  
ห่างก็ถึงใจแทบชิดแนบทาง

ด้วยดวงจิตชิดจุดอุทธัจจับ  
ใดใดทับรับท้นวนเวียนถาง
มันวอกแวกแหวกวับแวะรับวาง  
วิ่งระหว่างพันเวิ้งระเริงไว

เห็นโกงกางก้างเก้งกระเตงเกาะ  
อยากหัวเราะให้ร่วนสำรวลไหล
ต้นเป็นกลุ่มสุมก้อนเห็นพอนไกล  
เหตุไฉนชนชนักปักฉะนี้

มาแตกกลุ่มซุ่มเกลียดแล้วเสียดกลับ 
ฟันไม่นับสับแน่เพื่อนแห่หนี
เลิกร่วมอยู่จู่แยกใจแหลกยี  
ประหลาดนี่หน่อเนื้อชอบเถือแนว

กับรอยยิ้มเยิ้มหยาดมีดพาดหยัก  
แหละทายทักจรดท่องจ้องเชือดแถว
พอเล่นกลคนกู่เขารู้แกว  
มือยังแมวคลานหมอบพินอบมา

เพียงอยากใหญ่ไล่เหยียบศอกเสียบหยาบ 
ศิโรราบก็รุกไล่ไปเป็นหลา
เพียงสรวลชื่นรื่นชื่อว่าลือชา  
ก็สุขาสุขขมอารมณ์คน

จึงใจจ้าวครองจ้านคานกายจิก  
ใจระริกกายละล้าตาถลน
ใจละล่องกายหลุกหลิกขาพลิกลน  
ใจประดนธรรมดีกายมีดาว

ในภาพฉายเวิ้งฉากชะวากฉ่อง  
เห็นเชิงช่องรู้ชื่ออันอื้อฉาว
นามอารมณ์สมอาลัยใส่เรื่องราว  
ทะเลยาวห้วงใหญ่ต้องใช้ญาณ/.				
28 มีนาคม 2546 14:05 น.

ร้อยโคลง : ชีพหนึ่ง

ราม ลิขิต

๐ชีพหนึ่งนี้        มินาน
นับแต่คลาน      ไข่ตั้ง
มัชฌิมขาน       วัยแข่ง
ที่สุดจั้ง            จ่อมตาย

๐ฝันใฝ่ค่า          เคยฝัน
เคยสวยจันทร์     แจ่มแจ้ง
เคยขยัน            ขยับ
ไยหยุดแย้ง        ย่านฝัน

๐ไกลสุดห้วง        บรรหาน
แรงเสียดทาน       ทิ่มจ้วง
ขอบจักรวาล        ใจหวั่น
อีกหนึ่งร่วง           ล่ะหรือ

๐ฤาจิตต้อง        เงินตรา
ฤาชฎา             ใส่ดิ้น
ฤาหน้าหนา        แต่งกาก
จึงหมดสิ้น         กำแหง

๐รสโลกหล้า      พิลึก
รอนคนคึก        ไขว่ห้าม
ลวงการตรึก       ตรองหลอก
ข่มขี่คร้าม         ข่วงใจ

๐ยืนอยู่เบื้อง      บุญหน
ยืนหยัดบน        บาปบ้า
ยืนเพื่อยล         ใดเล่า
ทางทอดท้า       เลือกทาง

๐กายแค่รู้        หายใจ
กายกลไก        กอปรเข้า
ชีวาลัย           ลอยล่อง
ชีวาตม์เศร้า     เศษคน

๐อยู่อย่างโก้       อาเกียรณ์
เฝ้าวนเวียน        กราบไหว้
เฝ้าสองเศียร       ทอส่วย
แค่สอดไส้         โศกศัลย์

๐วันหนึ่งป้อม      ปราการ
กังสดาล            กึกก้อง
จักพับพาน         ตกพ่าย
แตกหักร้อง         รื่นไฉน

๐ชีพหนึ่งสั้น       โศกา
ใช่โสภา            ผ่องแผ้ว
รัตนา                คืนเก็จ
ยาวยิ่งแล้ว         ระยับ/.				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟราม ลิขิต
Lovings  ราม ลิขิต เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟราม ลิขิต
Lovings  ราม ลิขิต เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟราม ลิขิต
Lovings  ราม ลิขิต เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงราม ลิขิต