28 กุมภาพันธ์ 2546 00:51 น.
ราม ลิขิต
เราเป็นคนอยู่ในสังคมซึ่ง
ขมึงทึงแหลกเหลวและเลวเหลือ
ในสูงต่ำดำขาวต่างเหง้าเครือ
ล้วนเลือดเนื้อแห่งโลกที่โศกตรม
อันตรายในวันอันกระจ่าง
อันตรธานเส้นทางหลุมพรางถม
อันตราค่าต่างย่างพระยม
อัญขยมปริเทวนาการ
เสียงหัวใจสี่ห้องยังก้องกรุ่น
เพลงการุณย์กาลีพลีและผลาญ
ท่วงทำนองธรรมาและสามานย์
แว่วเวตาลเล่นกลบนโลกา
ปานจะกล่อมย้อมสิ้นวิญญาณเศร้า
ปานจะเข้าเข่นคอล่อถลา
ปานจะตอบปลอบโยนโพ้นนภา
ปานจะเผาแผ่นผาให้พังภิณ
ฮะฮะเหยเย้ยหยันสวรรค์ว่า
นรกร้อนจะรอนฟ้าภูผาหิน
จงจำไว้เถิดว่าหน้ากลบดิน
จะดูดกินกลืนกรรมให้หนำใจ
ปัจเจกชนบนโลกอันโศกเศร้า
อาจบ้างเขลาเหงาความนิยามไข
อาจบ้างเชี่ยวเต็มล้นธนญชัย
พร่าชัดในห้วงมโนโตหรือตาย
โศกใช่โศกโลกเราก็เท่านี้
ปฐพีแผ่นหล้าหาความหมาย
ในริ้วรอยเลือนลางทางท้าทาย
บรรจบท้ายไถ่ถามความเป็นคน/.
25 กุมภาพันธ์ 2546 01:59 น.
ราม ลิขิต
คนกินเหล้าเมากับรับไมไหว
เปลืองเกินไปทั้งปีไม่ดีหนอ
เป็นเกลอกันฉันว่าสุราพอ
มามาขอชนกันให้บรรลัย
ชอบโซดาว่าไปเอาให้พล่าน
แต่อย่าผลาญซดเพียวเสียวกระษัย
เรื่องแอบดมอมบ้วนอย่ากวนใจ
เรื่องจิบใบ้สาบานว่าจานปลิว
เห็นไหมเล่าที่เขาว่าโลกาสุข
แล้วจะทุกข์ทำไมให้ใจหวิว
เลิกเพลย์เซฟเสพซากชะวากวิว
เลิกเป็นนิ่วในหน้าเลิกบ้าบอ
เอ้า!รินมารินมาเพื่อนยาดื่ม
ทำเป็นลืมรู้ไหมน้ำลายสอ
จะอกแล้งแห้งรักหรือหักงอ
เชิญหักไปให้พอขอเนย์โว
แม้มิใช่คัยยัมอันล้ำเลิศ
ตามมีเกิดสุขีก็ดีโข
ด้วยหัวใจใสพร่างกระจ่างโชว์
ได้รู้ซึ้งซึ่งเซโซ โอ้!โอมาร์
แต่เมื่อสุขย่อมทุกข์งามมาตามบ้าง
มันเยื้องย่างเหมือนเงา เอ้า!เหมือนหมา
ที่ดมกลิ่นสิ้นใจไร้เมตตา
ระวัง!ตายหงายร่าสุราโรย
เมื่อกินเหล้าต้องเข้าใจในกินเหล้า
กินแล้วเมาโผเผเซระโหย
ห่ามเมื่อแล่นแอลกอฮอล์เขาห้อโกย
ถึงเช้าโอยอ้วกแฮงค์หมดแรงบิน
คนกินเหล้าเมากับรับไม่ไหว
ช่างเจ้าภาพเขาประไรคอใช่หิน
กินแต่เหล้าเมาแหลกถึงแหวกดิน
ไม่รู้กินกับเหมาะกระเพาะบาน/.
24 กุมภาพันธ์ 2546 02:08 น.
ราม ลิขิต
ภาสกรรอนแสงแดงอ่อนสาย
สวยระบายคคนางค์เหมือนทางฝัน
หางนกยูงไหวคลอล้อสายัณห์
ดูคล้ายวันยากลืมเคยดื่มใจ
ในรอยซากพรากซวนกำสรวลจิต
แผ่วจุมพิตภุมรานุ่มกว่าไหม
ในปีกร่อนร่าเริงเหลิงพิไล
ยังอุ่นไอโอบเตือนออดเอื้อนตรึง
เติมฝันใฝ่ไปสู่เต็มรู้จัก
เห็นรุ้งรักแต่ทว่าถาไม่ถึง
กลับแหลกริ้วปลิวป่านนานคำนึง
บาดแผลผึ้งบอกค่าของมาลี
แต้มน้ำตาอาลัยไล้รอยเจ็บ
เกินจะเก็บเสียงกลืนสะอื้นหนี
ร่างสะท้านสั่นเทาเข้าทุกที
หทัยที่ถูกกระแทกก็แตกราน
กอปรเป็นใครคนหนึ่งซึ่งตระหนก
หนาวนรกบนดินถิ่นสถาน
แว่วสวรรค์ฝันหนอทรมาน
ณ สุสานสรรพางค์ว้างวิญญาณ์
หางนกยูงปลอบโยนโพ้นพันแสง
ระเรื่อแดงจับโพยมห่มเวหา
กระซิบศักดิ์มาลีศรีมาลา
กระซิบค่าของคนผ่านพ้นคลี
อาจยังจำคำงามเคยหวามจิต
แต่คำพิษจำตายแม้กลายผี
ใช่! แม้ยากอยากลืมปลื้มฤดี
แต่ต้องมีสักวันฉันมั่นใจ/.
22 กุมภาพันธ์ 2546 17:40 น.
ราม ลิขิต
ไปนั่งกลุ้มกุมคางวางกลยุทธ
ศาสตร์สุดสุดแสบไส้ไล่ขึ้นหัว
สุมสมองตรองละเอียดเครียดทั้งตัว
จนหูมัวมืดหน้าและตาลาย
ขุดปัญหาสาเหตุนัยเลศส่อ
อะไรก่ออะไรแก้แฉสิ่งหมาย
ดูจุดอ่อนจุดแข็งแข่งกันคาย
องค์กรยายหรือยังวาดผังมา
ผลกระทบภายนอกบอกโอกาส
เค้นจุดอาจอุปสรรคที่หนักหนา
เรียกสวอทบอดสวีทกรีดตีนกา
พิเคราะห์ค่าคิดเข้าเอาให้ดี
แล้วตั้งเป้าตรงไปปีนไต่มุ่ง
ตัวชี้วัดอัดกระบุงหลายบุ้งกี๋
ของชาติชัดจังหวัดเล่าช่วยเว้าที
สูงต่ำตี๋ลองบอกดูกู๋จะฟัง
พันธกิจคิดให้กรุ๊ปสรุปหน่อย
กระชับถ้อยเขียนกรอกให้ออกขลัง
เป็นหัวใจไชจี้มีพลัง
เหมือนชกปังต่อยเปรี้ยงเดี้ยงนับดาว
ประสงค์ใดใส่ซัดเป็นวัตถุ
ฝันบรรลุเฟ้นใส่อย่าให้หนาว
ปีนบันไดไปยากลำบากยาว
หากลากกราวโลภกลไม่พ้นเกร็ง
แต่ละส่วนสู่จุดยุทธศาสตร์
ทำเพื่อชาติแบบบรรจงให้ตรงเผ็ง
บริหารสานก่อล่อให้เล็ง
วิชาการหัวเต่งเบ่งจนบอ
ปฏิบัติปัดป่ายถึงส่ายเศียร
เกิดวิงเวียนงอขิงเป็นลิงจ๋อ
ถึงอย่างไรอาจแม้ว่าน้ำตาคลอ
สู้เถิดหนอให้สมว่าข้าราชการ/.
22 กุมภาพันธ์ 2546 15:05 น.
ราม ลิขิต
หัวถึงหมอนตอนหมาหน้าบ้านเห่า
ดึกเงียบเหงาวังเวงเกรงจะหอน
ผีไม่กลัวอย่ายั่วหูหนูจะนอน
ขืนทำบอนบ่นดีเดี๋ยวตีตาย
ไม่ใช้มุ้งแบบเก่าเราไม่ชอบ
อยู่ในกรอบคับคอกเลยบอกขาย
ใช้มุ้งลวดโล่งร่างกว้างสบาย
ถึงดูคล้ายมุ้งสายบัวไม่กลัวเลย
จะกลิ้งซ้ายส่ายขวาขดหน้าหลัง
จะลุกนั่งจะออกฉี่ดีจริงเหวย
หายใจคล่องสองรูรู้เสบย
ไม่ต้องเกยเก็บมุ้งให้ยุ่งมือ
เป็นความสุขทุกข์ไร้ใจขี้เกียจ
เรื่องความเครียดปลิดหายสบายบรื๋อ
จนวันหนึ่งเมื่อร้อนย่างถึงครางฮือ
หลังหนาวปรื๋อจากไปไม่กี่วัน
ร้อนตับแลบแสบทรวงทะลวงแหลก
เหงื่อมันแตกอกตรมระทมถัน
เปิดพัดลมพรมห้องอยู่สองจันทร์
แต่ลมมันไม่ระบายตายแล้วเรา
ลมข้างนอกดับสนิทติดมุ้งลวด
ข้างในพรวดเผโผอย่างโง่เขลา
จำใจเปิดมุ้งหน้าต่างอย่างเบาเบา
ยุงก็เข้ากัดยับนับสิบตัว
คิดถึงมุ้งหลังเก่าเข้าจับจิต
ใครจะคิดว่าเรื่องมุ้งยุ่งปวดหัว
เคยลมชื่นรื่นรำเพยไม่เคยกลัว
หนังสี่จอหยอกยั่วพระจันทร์เพ็ญ
สมน้ำหน้าตัวฉันทันสมัย
ก็แล้วไงตลอดร้อนต้องนอนเข็ญ
อยู่ในมุ้งคลุ้งควันยาว่าแต่เย็น
จุดกันยุงมุ้งหมอนเหม็นเล่นเอางอม/.