12 มีนาคม 2546 02:38 น.
ราม ลิขิต
นั่นยังไงโลกเศร้าที่เหงาเงียบ
นั่นหัวใจเย็นเยียบเสียบด้วยศร
เห็นไหมเล่าโลกหรือคือละคร
ตัวแสดงแบ่งตอนจะฟ้อนตน
หวังหรือโลกหายคลายโศกเงียบ
หวังหรือพร้อมเพียบบุปผาผล
หวังหรือกลิ่นหอมล้อมทุรน
หวังใดใครด้นกมลเย็น
ตัวอักษรค่อนฟ้ามาเถิดเหวย
เอาเลยทิ่มแทงเต็มแรงเข็น
เลาะกระดูกไส้ขดไปจรดเอ็น
กองสรวงถ่วงเซ่นวิญญาณทราม
เศร้ากันแสงของใครในโศกเงียบ
รินเรียบแต่ทว่าท่วมหล้าสาม
โอ้โกสินทร์อกข้าสะทกความ
ไหวหวั่นขวัญขามสังคมคน
ด้วยว่าศาสดาของข้าดับ
ทุกข์ทับหนักท้อการฉ้อฉล
ไร้ยิ้มพิมพ์ใจสาธุชน
เขาโยนแก้วหล่นร้าวกับดิน
โอ้แม่ธรณีวิถีลูก
ฤาหนทางถูกกระทบสิ้น
มืดมรรคหมองไหม้ใจชีวิน
แม่จ๋าขอจินตนาการ
เพื่อไปปลดโลกเศร้าที่เหงาเงียบ
จะถอดศรแทงเสียบ ณ สุสาน
จะเปลื้องแอกปลดพันธนาพาล
ให้โลกเลิกคลานเล่นละคร/.
10 มีนาคม 2546 14:21 น.
ราม ลิขิต
มันคือความอัปยศและอดสู
กลางหัวใจไหวอยู่โดยรู้เห็น
จากเสียงแหบปร่าอันชาเย็น
สู่การฆ่าเข่นด้วยสงคราม
ความตายซาตานจะผลาญโลก
กวักปีกจะโบกสะบัดหนาม
ปากเน่าจะงับมนุษย์นาม
เท้าจะลบนิยามนนุษย์ชน
เยื่อใยไมตรีที่อวลออก
จะกลายหมอกฝ้ามัวสลัวหน
เส้นทางพร่างในน้ำใจคน
จะวางทอดทุกข์ทนทุกเส้นทาง
ธารเลือดจะฟ่องละล่องไหล
ท่วมยอดหิมาลัยในรุ่งสาง
ซากศพจะดั้นบันไดวาง
ก้าวสู่เวิ้งว้างสวรรค์ใด
หรือว่านี่คือชะตากรรม
ของมนุษย์ที่กระทำมนุษย์ได้
พระเจ้าท่านยืนอยู่ข้างใคร
พระองค์อวยชัยอย่างไรกัน
รักโลกโยกยาตรอนาถอเนจ
เบ็ดเสร็จรีบรี่ขมีขมัน
ถึงใครกล่าวโทษจะโจษจะจัน
ตีบตันหูตึงตะบึงตะบอน
สงคราม
ต่ำทรามสู่มหาอนุสรณ์
ดับดิ้นทุกฐานันดร
ที่ย้อนคืนกลับไม่มี/.
.................................................
ขอต่อต้านอริแห่งสันติภาพ
ในนามของมนุษย์คนหนึ่งบนโลกใบนี้
9 มีนาคม 2546 02:08 น.
ราม ลิขิต
เรื่องของเมียละเหี่ยใจต้องไปขอ
ม่ายงั้นก้อเขาไม่มาอยู่อาศัย
คำมะเมียหมายถึงว่าอาชาไนย
ต้องระไวสุดขีดเขาดีดเอา
ที่พูดมาดูเหมือนเพื่อนมันบอก
ด้วยว่าออกจะชำนาญถึงการเก๋า
สังเกตได้ที่หูยานอานถึงเพลา
อีกทั้งเบ้าตานี้ปี๋ประจำ
เขาเหลียวซ้ายแลขวาทั้งหน้าหลัง
เหมือนระวังคุณเมียเขี่ยจุดขำ
เขากระซิบบอกพี่ได้สี่คำ
เห็นหน้าคว่ำคาตาครกพาเพลิน
เขาบอกว่าเมียดีเหมือนมีแม่
แต่เขาแย่ถูกอัดจนขัดเขิน
ด้วยแม่เขาดุมากจึงอยากเมิน
เขาเลาะเดินอยากแท้ทิ้งแม่ไป
เขางกเงิ่นเดินลิ่วหานิวแม่
เที่ยวร้องแร่แห่กระเฌอคนเผลอไผล
เห็นมัจฉาปลากระจุกรีบซุกไซ
เขาบอกใครเขานี้ไม่มีเมีย
ด้วยเขามีแต่แม่เป็นแต่ลูก
ความพันผูกเฉกเพื่อนจึงเลือนเสีย
ความผูกพันฉันทาจึงพาเพลีย
ต้องใส่เกียร์ห้าหมดเที่ยวปดใคร
จะใจอ่อนก็ได้ถ้าใจอ่อน
แต่เผือกร้อนดูให้ดีคลี่เปลือกไข
เรื่องของจิตชิดชอบมอบกันไป
แต่แค่ใจเท่านั้นม่ายงั้นซวย
เรื่องของเมียละเหี่ยใจไม่คิดขอ
คนหน้างอทุกวันมันไม่สวย
ทั้งหมดนี่จากเห็นเพื่อนเกลื่อนระทวย
ส่วนผม ฮ่วย! จนป่านนี้ไม่มีเมีย/.
9 มีนาคม 2546 02:06 น.
ราม ลิขิต
ระบำฝนหล่นฝายจากปลายฝัน
มาปรุงปันน้ำตาเทวาสรวง
ในก่องเก็จเพชรพร้อยนับร้อยพวง
กระหน่ำดวงใจคนสับสนพรู
เมื่อแรกพบสบตาเธอว้าเหว่
ท่ามเพลงเห่อึงอลกังวลหู
กลางความมืดตัดหมอกออกมาดู
ใครจะรู้บ้างหนอเธอขอใด
ไม่เอื้อนคำพร่ำออกหรือบอกถ้อย
การแกะรอยยากเข็ญเป็นไฉน
ความขื่นขมพรมหน้านั้นชาใจ
เอื่อยเหมือนไฟสุมขอนมิรอนเลย
หากซาบซึ้งโทโสจากโมหา
เวทนาเหลือแล้วหนอแก้วเอ๋ย
หากว่าเหงาเขาเถื่อนเหมือนเชลย
พุทโธ่เอยคนดีเจ้าหนีใคร
พี่ก็เคยเศร้าหมองนะน้องรัก
รู้ว่าหนักหน่วงน่าน้ำตาไหล
บนเส้นทางสายเชือดชุ่มเลือดใจ
พี่รู้ภัยครอบครัวด้วยตัวเอง
พี่จะบอกเช่นไรไม่ต้องเชื่อ
ต่างเลือดเนื้อต่างกันไปใครเล่าเจํง
พี่เคยตรองมองฟ้าถามหาเพลง
ที่บรรเลงรักให้หัวใจฟัง
จึงรู้ว่าแม้เมฆจะเสกโศก
แทงกระโชกชลมาเป็นบ้าหลัง
ครั้นสิ้นเชี่ยวเคี่ยวดุคุประดัง
ก็สิ้นชังรุ้งฉายเป็นสายพราว
กับพร่าฝนคนดีมีโลกฝัน
ขอเทวันกอดกระชับดับใจหนาว
กระซิบบอกคนใคร่ตะกายดาว
ยังมีคนปวดร้าวอีกหนึ่งคน/.
6 มีนาคม 2546 13:16 น.
ราม ลิขิต
ฉันสาวเท้าเข้าไปใต้เงาร่ม
เขียวมะยมอยู่ไหนใครมาหา
เอาอีกแล้วหนอคนดีมีน้ำตา
โอ๋ขวัญมาอย่าร้องซิน้องเรา
มาเจอกันทั้งทีมีความสุข
เก็บงำทุกข์เอาไว้ใจจะเฉา
ยิ้มจะยื่นรื่นอุราปัญญาเชาวน์
มาหนุนเพลาของพี่ฟังนิทาน
กาลครั้งหนึ่งนานปียังมีเด็ก
ตัวเล็กเล็กหลายคนซนประสาน
พระลบบ่ายสายรู้กรูทยาน
เข้าตั้งฐานทัพใหญ่ใต้มะยม
เล่นซ่อนหาฮาเฮสรวลเสซ่า
ต้องโออาน้อยออกบอกกันขรม
เป่ายิงฉุบกระดาษต้อนค้อนระงม
ใครถูกต้มรู้ท่าว่าเป็นใคร
บ้างโดนโป้งโดนแปะและโดนปรับ
ผลัดรุกรับซ่อนเร้นเห็นใสใส
ใครคนหาแสนเบื่อจนเหลือใจ
เขาโกงไปโกงมาทำหน้าจริง
มาวันหนึ่งเมื่อแดดบ่ายเขาหายหน้า
ไปไหนนาหนูเล็กเด็กชายหญิง
ทิ้งละเมาะเลาะไม้เคยไต่ลิง
ทิ้งมะยมเนานิ่งวิ่งสู่เฟือง
เขาเติบใหญ่ได้ดีมีคุณค่า
ต่อชีวาต่อสังคมเขียวอมเหลือง
ไม่รู้สิว่ามีใครหัวใจเมือง
แต่ฉันนี้เนืองเนืองคิดถึงเธอ
จบนิทานของพี่แล้วที่รัก
บ่ายฉ่ำนักนิทรารมณ์สมเสมอ
ใต้มะยมต้นเก่าเหงาละเมอ
เฝ้าชะเง้อคนหายเมื่อไรมา/.