17 มิถุนายน 2546 20:50 น.
ราชิกา
ชีวิตหนึ่ง ซึ่งแขวน บนเส้นด้าย
ดุจดั่งว่าย ในสายชล เชี่ยวลึกหนอ
กำลังใจ ที่ส่งไป เฝ้าคอยรอ
เพื่อสานต่อ ชีวิตเธอ กลับคืนมา
จากพลัง แห่งแรงใจ ไทยโพเอม
ทุกคนเต็ม ด้วยศรัทธา ให้ห่วงหา
เพียงเพื่อฟื้น คืนชีวิต นะน้องยา
พร้อมกันมา อธิษฐาน สานด้วยใจ
จากพลัง และแรงใจ ที่ได้รับ
จนระดับ ความรู้สึก เริ่มสดใส
เริ่มรับรู้ พลังจิต ที่มอบไป
ด้วยดวงใจ ที่ห่วงใย ไม่เสื่อมคลาย
สิบห้าวัน ราชิกา ได้ดูแล
กายกลับแย่ เพราะพิษยา นั้นขยาย
ไปทุกส่วน อวัยวะ ทั่วร่างกาย
และทำลาย ดับชีวิต ให้ปลิดปลง
ชีวิตหนึ่ง ซึ่งแขวน บนเส้นด้าย
ได้วางวาย หมดสิ้นแล้ว เป็นผุยผง
คงเหลือไว้ เพียงความดี ที่ยืนยง
ประทับลง ตรงกลางใจ ให้จดจำ
ขอวิญญาณ ของเธอ จงมีสุข
หมดสิ้นทุกข์ โรคภัย ใจสุขล้ำ
ด้วยกุศล แห่งผลบุญ ที่เคยทำ
หนุนเนื่องนำ บุญน้อมอยู่ สู่เบื้องบน....ฯ
15 มิถุนายน 2546 18:38 น.
ราชิกา
จากวันนั้น จนกระทั่ง ถึงวันนี้
ฉันยังมี เธอเคียงข้าง ไม่ห่างหาย
อุ่นไอรัก สลักซึ้ง ตรึงใจกาย
รักมิคลาย สุดคิดถึง คนึงครวญ
หากคราใด ที่ดวงใจ นั้นไกลห่าง
เหงาอ้างว้าง ในดวงจิต คิดไห้หวน
วาดหวังไว้ รักร้อยใจ ไม่เรรวน
น้องเนื้อนวล ป่วนฤทัย ไม่สร่างซา
มองภูเขา เมฆหมอกฟ้า ในหน้าฝน
คล้ายต้องมนต์ ดลหทัย ใฝ่ฝันหา
อยากจะบอก ให้ทุกคน ในโลกา
ได้รับรู้ คู่ชีวา รักสองเรา
กระซิบแผ่ว แว่วข้างหู สู่ที่รัก
ใจแน่นหนัก ด้วยรักมั่น ดั่งขุนเขา
กระซิบหวาน เธอคนดี เสียงเบาเบา
คราใดเหงา เฝ้ารำพึง คิดถึงเธอ.....ฯ
12 มิถุนายน 2546 14:37 น.
ราชิกา
ขอบฟ้ากว้าง ทางแสนไกล ใจยังภักดิ์
ด้วยความรัก ประจักษ์ใจ ให้ใฝ่ถึง
แม้นไกลห่าง เพียงใด ใจรำพึง
รักหวานซึ้ง แห่งสองเรา เฝ้าเคลียคลอ
ความผูกพัน ที่ผันผ่าน กาลเวลา
กี่ภพพา อดีตกาล สานใจหนอ
ให้พบเธอ รักสัมพันธ์ เฝ้าคอยรอ
รักไม่ท้อ ด้วยแรงใจ ให้แก่กัน
ด้วยห่วงหา ทุกเวลา คราคิดถึง
สองใจซึ้ง สัมพันธ์แนบ แอบอิงฝัน
หวานรักเรียง เคียงคู่คล้อย ร้อยใจกัน
รอเพียงวัน สองใจนั้น ฝันฝากกาย
ขอบฟ้ากว้าง ทางแสนไกล ไม่ยากนัก
อุปสรรค และขวากหนาม นั้นสลาย
ด้วยรักเรา เนาว์แนบอยู่ มิรู้คลาย
ตราบชีพวาย กายใจสอง ครองรักเคียง.....ฯ
10 มิถุนายน 2546 20:48 น.
ราชิกา
มองดูเมฆ ตั้งเค้ามา ในหน้าฝน
ช่างทุกข์ทน ปนเศร้าใจ ให้หม่นหมอง
สายฝนหลั่ง เปรียบดั่งว่า น้ำตานอง
ตามครรลอง ของวิถี ที่เป็นไป
หากมองเมฆ ด้วยใจ ที่โศกเศร้า
ดำคละเคล้า ขุ่นข้อง ไม่ผ่องใส
ฟ้าแปลบปลาบ พายุโหม โถมคราใด
แสนทุกข์ใจ ดั่งไฟเผา ทุกนาที
เปรียบชีวิต ในคราใด ที่ใจท้อ
หมดแรงต่อ สู้ชีวิต คิดหลีกหนี
จงเติมไฟ ให้พลัง แห่งชีวี
ด้วยฤดี มุ่งมั่นท้า และฝ่าฟัน
หากทำใจ ผ่อนคลาย คล้ายก้อนเมฆ
ให้วิเวก สุขที่ใจ ดั่งในฝัน
เมฆรวมตัว ทั้งกาย และจิตพลัน
ร่วมสร้างสรรค์ สิ่งดีไว้ ในโลกา
ทั้งเมฆกาย และเมฆจิต ที่คิดหวัง
สร้างพลัง เมตตาธรรม อย่ากังขา
ละความคิด ที่ปรุงแต่ง จากจิตมา
สู่มรรคา สติเห็น เย็นที่ใจ.......ฯ
8 มิถุนายน 2546 17:53 น.
ราชิกา
มองสายน้ำ ที่ไหลไป ไม่หวนกลับ
ล่วงเลยลับ จากไปไกล ในวิถี
คือสายฝน หล่นจากฟ้า สู่ธาตรี
ไหลเร็วรี่ สู่ท้อง ชลาลัย
มองใบไม้ ที่ร่วงหล่น บนพื้นหญ้า
ก่อนนั้นหนา ช่างงามงด ดูสดใส
ผลิช่องาม แตกกิ่งก้าน ระบัดใบ
ชูช่อไว้ ให้เด่นงาม อร่ามตา
สรรพสิ่ง เกิดมานี้ คือชีวิต
ผู้ลิขิต คือตัวตน ของเราหนา
บางครั้งอาจ พ่ายแพ้ โชคชะตา
ปลิดชีวา ดุจใบไม้ หล่นลงดิน
เราทุกคน เกิดมา นั้นมีค่า
ควรรักษา คุณค่าอยู่ มิรู้สิ้น
สติตรอง ระลึกรู้ เป็นอาจินต์
เพื่อชีวิน บินไปถึง ซึ่งปลายทาง
อย่าท้อแท้ กับชีวิต ต้องคิดสู้
มุ่งมั่นสู่ ด้วยแรงใจ ให้ถากถาง
จิตเข้มแข็ง สู้ไม่ถอย คือแนวทาง
ต้องปล่อยวาง ว่างที่ใจ ให้ทำดี.....ฯ