9 พฤษภาคม 2546 19:54 น.
ราชิกา
จิตเดิมเราอยู่นี้ ประภัสส์
คราที่ใจสงัด ผ่องแผ้ว
หลุดพ้นเครื่องรึงรัด กิเลส นั้นแล
งามดั่งดุจดวงแก้ว เพริศแพร้วแดนสรวง...ฯ
จิตเดิมนั้นแน่แล้ว ผุดผ่องแผ้ว.ณ.แดนไกล
ประภัสส์นิ่งในหทัย ห้วงดวงใจของทุกคน
คราจิตนี้เริ่มเคลื่อน พลันลอยเลื่อนจากเบื้องบน
ดุจดั่งกระแสชล ไหลเวียนวนลงสู่ดิน
จิตนั้นพลันได้พบ เมื่อประสบและยลยิน
เครื่องรึงรัดมัดใจสิ้น ยิ่งเริ่มดิ้นให้ป่วนใจ
กิเลส...คือตัวมาร ที่คอยผลาญเติมเชื้อไฟ
เร่าร้อน...อยู่ภายใน ใจสั่นไหวกายสะเทือน
แม้เพียงตั้งจิตมั่น สติ...นั้นจะคอยเตือน
ไม่ลุ่มหลงและแชเชือน กลับลางเลือนเหมือนไม่มี
เมื่อ...หยุดอยู่ที่ใจ.. ปรับจิตให้ทันท่วงที
ใสนิ่งดั่งวารี จิตที่ดี..จะร่มเย็น
รู้ทัน...ในความคิด ดับสนิทไม่ซ่อนเร้น
ปิดกั้นสิ่งที่เห็น ละว่างเว้นจิตวาวแวว
จิตนั้น..พลันสว่าง แจ่มกระจ่างและเพริศแพร้ว
ใสงามดุจดวงแก้ว ใจผ่องแผ้วจากผองภัย
จิตสงบ..สะอาดนั้น ส่องฟ้าพลันให้สดใส
ประดับในห้วงหทัย หยุดที่ใจ...ของตนเอง...ฯ
8 พฤษภาคม 2546 15:05 น.
ราชิกา
สายฝนหลั่ง พรั่งพรูมา ไม่ขาดสาย
น้ำกระจาย สาดกระเซ็น เป็นฟองฝอย
หล่นสู่พื้น ในแดนดิน ถิ่นดงดอย
สายฝนปรอย ให้ชุ่มเย็น เป็นสุขใจ
เมื่อฝนซา นภาพร่าง กระจ่างฟ้า
รุ้งเจิดจ้า ทอโค้งพาด ขอบฟ้าใส
ม่วงเขียวคราม น้ำเงินเหลือง เรืองอำไพ
แสดแดงให้ รุ้งงามตา และน่ามอง
ธรรมชาติ ช่วยเตือนใจ ให้เราคิด
ดั่งชีวิต คล้ายเมฆฝน ที่หม่นหมอง
ฝนจากฟ้า ไหลหลั่งมา น้ำตานอง
ฟ้าหยุดร้อง เมฆดำหาย มลายไป
เกิดเป็นแสง ทอสีรุ้ง เฟื่องฟุ้งจิต
ดุจนิมีต แห่งความดี ที่สดใส
ฟ้าหลังฝน ช่วยดาลดล พลังใจ
ก้าวต่อไป ด้วยใจมั่น มิหวั่นกลัว....ฯ
7 พฤษภาคม 2546 21:52 น.
ราชิกา
มองดาวพราวพร่างฟ้า ธาตรี
ใสดุจดวงฤดี พี่น้อง
รักเราร่วมชีวี ชมชื่น
คอยวันพี่ปกป้อง นิ่มน้องเนื้อนวล....ฯ
มองดวงดาว ที่พราวพร่าง ณ.กลางฟ้า
ท้องนภา ประดับดาว พราวสดใส
เปรียบดั่งรัก สองเรานั้น มั่นฤทัย
ด้วยดวงใจ มั่นคงแน่ อย่างแท้จริง
คราเมื่อลม พรมพร่างพริ้ว ปลิวลอยล่อง
ใจเคยท่อง เพื่อเสาะหา ในทุกสิ่ง
ใครกันหนอ ขอใจแนบ แอบพักพิง
สุขล้นยิ่ง เมื่อเราสอง ครองคู่ใจ
รักคือรัก...ประจักษ์ใจ ในแรกเห็น
รักคือรัก...เป็นดั่งเช่น ธารน้ำใส
รักคือรัก...ประทับแน่น ในหทัย
รักคือรัก...ผูกพันใจ ไว้เคียงกัน
คอยวันที่ ฟ้ารุ่งราง สว่างแสง
ไม่เปลี่ยนแปลง แรงรักนี้ ที่ฝากฝัน
มอบดวงใจ ข้ามขอบฟ้า มาให้กัน
ตราบถึงวัน พี่ปกป้อง น้องเนื้อนวล.....ฯ
6 พฤษภาคม 2546 23:34 น.
ราชิกา
โอ้หญิงไทย เคยเลื่องชื่อ ระบือขาน
แต่โบราณ ท่านสอนไว้ อย่างเหมาะสม
เป็นเบญจ กัลยาณี น่านิยม
ใครได้ชม ชื่นชอบแท้ และแน่ใจ
ความเก่งกล้า สามารถ ที่มีอยู่
เปลก็ไกล ดาบก็สู้ สุดทนไหว
ครามีศึก ร่วมฟาดฟัน ให้บรรลัย
เมื่อเข้าครัว นั้นไซร้ ใจชื่นบาน
ขาดคอช้าง สะพายแล่ง แสดงถึง
ความเป็นหนึ่ง ที่เด็ดเดี่ยว และกล้าหาญ
เสียสละ ด้วยเลือดเนื้อ และวิญญาณ
หาใดปาน ชีพคงฝัง พังทลาย
โอ้หญิงไทย ควรตระหนัก ในศักดิ์ศรี
วอนน้องพี่ มีคุณค่า อย่าห่างหาย
งามด้วยใจ กิริยา และรูปกาย
งามไม่คลาย กุลสตรี ที่ดีเอย.....ฯ
5 พฤษภาคม 2546 17:07 น.
ราชิกา
น้ำโขงไหลหลั่งล้น ธารา
ด้วยรักจักต้องมา ปกป้อง
คิดถึงจึ่งโหยหา วานบอก เจ้าเอย
ดวงจิตนี้พี่ข้อง เกี่ยวแท้แม่นาง.....ฯ
โขงเอยไหลเลยล่องไป สู่ท้องธารใส
หัวใจข้าร้องร่ำหา
โขงเอยไหลเลยพัดพา นำรักของข้า
ช่วยฝ่าคลื่นลมเรรวน
โขงเอยไหลเลยไม่ทวน หวานเพลงแว่วครวญ
สู่ดินถิ่นแดนแสนไกล
เว้าวอนอ้อนสาวฝั่งไทย หนุ่มลาวสดใส
ฝากใจอ้อนคำรำพัน
แม้นคนละฟากฝั่งกัน คิดถึงจอมขวัญ
ผูกพันด้วยรักแก้วตา
คิดถึงพี่จึ่งได้มา วอนน้องคอยท่า
อย่าราแรมร้างจางไกล
โขงเอยเจ้าจงเป็นใจ นำรักข้าไซร้
มอบให้นวลน้องชื่นบาน
โขงเอยจงเป็นพยาน ขอรักยืนนาน
พบพานคู่กันตลอดไป
อย่าได้มีความทุกข์ใจ หนุ่มลาวสาวไทย
มั่นในรักแท้แน่นอน......ฯ