5 เมษายน 2546 14:23 น.
ราชิกา
หากเหนื่อยนัก จงพักใจ ไว้ที่นี่
ตรงที่มี ความร่มเย็น เช่นธารใส
หล่อเลี้ยงราก ฐานชีวิต และจิตใจ
เยือกเย็นไซร้ สงบนิ่ง ยิ่งนานวัน
ดุจสายน้ำ หล่อหลอมรวม ร่วมชีวิต
และลิขิต ความเมตตา พาสุขสันต์
มอบความรัก เอื้ออาทร ให้แก่กัน
ความสุขนั้น อยู่ภายใน ใช่นอกกาย
งามภายนอก บอกว่ามี หลากสีสัน
ภายในนั้น งามที่ใจ ไม่สลาย
ใจใสซื่อ บริสุทธิ์ ไม่เสื่อมคลาย
ดุจดั่งสาย ฝนจากฟ้า มาสู่ดิน
หากเหนื่อยนัก จงพักใจ ไว้ที่นี่
หลอมชีวี ดั่งสายธาร กระแสสินธุ์
เย็นชื่นฉ่ำ เมตตาธรรม นำชีวิน
มิสูญสิ้น ศรัทธาใส ให้ปวงชน.....ฯ
5 เมษายน 2546 13:09 น.
ราชิกา
อย่าดูหมิ่น ชาวนา ดั่งตาสี
เพิงพักที่ คือผืนนา และป่าเขา
ในท่ามกลาง ธรรมชาติ ถิ่นเคยเนา
แดดแผดเผา เราทนได้ ไม่อุทธรณ์
เหงื่อรินหยด หลั่งลงรด แผ่นดินไทย
ด้วยดวงใจ อันยิ่งไหญ่ ดุจสิงขร
แม้นเหนื่อยหนัก มากเพียงใด ไม่อาทร
เพิงพักนอน มีเพียงควาย ที่เคียงกัน
เรามีสุข อยู่ท่ามกลาง ธรรมชาติ
ดั่งภาพวาด เนรมิต แห่งความฝัน
ไม่สดสวย ด้วยแพรผ้า อาภรณ์พรรณ
กระแจะจันทร์ น้ำหอมปรุง ฟุ้งราคา
หอมเพียงกลิ่น โคลนสาบควาย เคล้ากายเจ้า
ยังคอยเฝ้า ด้วยจริงใจ ห่วงใยหนา
คุณค่าคน นั้นสูงล้น กว่าเงินตรา
เราชาวนา ขอบูชา ค่าความดี......ฯ
5 เมษายน 2546 11:19 น.
ราชิกา
ในดวงตา ที่แห้งผาก ยากจักรู้
ต้องทนสู้ ความเจ็บปวด รวดร้าวหนา
พิษแห่งไข้ ให้รุมเร้า ทั่วกายา
ในอุรา มีแต่เศร้า เงียบเหงาใจ
ต้องทิ้งบ้าน ถิ่นฐาน ที่พำนัก
เพื่อมาพัก รักษาตัว ในเมืองใหญ่
เพราะเจ็บป่วย ด้วยโรคร้าย ไม่เหมือนใคร
ไข้หวัดภัย มรณะผลาญ นานนับวัน
ด้วยเมตตา ความสงสาร บันดาลจิต
ช่วยชีวิต เพื่อนมนุษย์ สุดโศกศัลย์
พร้อมเหน็ดเหนื่อย เพื่อโรคร้าย หายเร็วพลัน
และรอวัน ให้เธอสุข สิ้นทุกข์คลาย
ในดวงตา ที่แห้งผาก หากได้เห็น
ความหวังเป็น เช่นแสงไฟ ใกล้สลาย
ดวงชีวี ค่อยริบหรี่ แล้วมลาย
ชีพวางวาย ท่ามกลางสาย ฝนปรายโปรย....ฯ