20 เมษายน 2546 14:36 น.
ราชิกา
สายฝน หล่นจาก ฟากฟ้า
สู่ท้อง ธารา ธารใส
ไหลริน เอื่อยเอื่อย เรื่อยไป
สดใส ชื่นใจ ให้เย็น
มัจฉา แหวกว่าย ไปมา
ฝูงปลา ใหญ่น้อย ลอยเด่น
ธรรมชาติ สวยงาม ร่มเย็น
หลากเช่น หลายพันธ์ มากมี
น้ำนิ่ง แลใส ใจนึก
รำลึก ถึงดิน ถิ่นที่
ป่าไม้ กลางดง พงพี
นที หล่อเลี้ยง พฤกษ์ไพร
สายน้ำ ไหลไป ทั่วถิ่น
แผ่นดิน ดอยแดน แคว้นไหน
ชื่นฉ่ำ สุขล้น หทัย
ดุจธาร น้ำใจ แด่ชน.....ฯ
16 เมษายน 2546 14:03 น.
ราชิกา
คราเมื่อใด ที่มีรัก ประจักษ์จิต
คล้ายชีวิต มีชีวา พาสดใส
เปรียบดั่งเช่น เป็นมัจฉา ว่ายแหวกไป
สู่วังใหม่ น้ำไหลเย็น เห็นตัวปลา
สกุณา เริงร่าร้อง ก้องกลางถิ่น
โบกโบยบิน ส่งสำเนียง เคียงหรรษา
ลมรำเพย พัดพริ้วแผ่ว แว่วหวานมา
ซึ้งอุรา ประโลมไล้ ใจสองเรา
คราเมื่อใด หากไร้รัก ประจักษ์จิต
คล้ายชีวิต สิ้นวิญญา พาใจเหงา
เปรียบดั่งเช่น เป็นมัจฉา หลงมัวเมา
วังน้ำเก่า ต้องเศร้าใจ ใครเมตตา
เปรียบดั่งเช่น ต้นพฤกษา คราขาดฝน
ไร้ซึ่งคน คอยดูแล และรักษา
หล่อเลี้ยงใจ ให้ความสุข ทุกทิวา
ขอเธอมา เป็นสายฝน หล่นสู่ใจ......ฯ
15 เมษายน 2546 20:10 น.
ราชิกา
คราเมื่อลม พรมพริ้วมา พาหนาวสั่น
หัวใจนั้น เคียงคู่กัน ไม่หวั่นไหว
ยามลมโชย โบกโบยพริ้ว วาบหวิวใจ
ระบัดใบ ดุจสร้อยเสียง ที่เรียงราย
เมื่อเธอฉัน นั้นสบตา สัญญามั่น
มอบรักกัน จวบถึงวัน ชีพสลาย
ยามลมโชย โบกโบยพริ้ว วาบหวิวกาย
รักไม่คลาย จากใจฝัน นั้นคือเธอ
จนตะวัน ลับขอบฟ้า คราพลบค่ำ
ฝากถ้อยคำ เพ้อพร่ำวอน อ้อนเสนอ
จวบจันทรา ทอแสงนวล ชวนละเมอ
ให้พร่ำเพ้อ ด้วยรักซึ้ง ติดตรึงใจ
เฝ้ามัวหลง เพ้อพะวง ภวังค์รัก
สุดจะหัก ห้ามดวงจิต คิดไฉน
ค่ำคืนคล้อย ดวงจันทรา ต้องลาไกล
ฝากรักไว้ ใต้แสงเดือน ที่เคลื่อนคลา.....ฯ
15 เมษายน 2546 18:10 น.
ราชิกา
สุดฟากฟ้า หนแห่งใด ใจใฝ่หา
ฝากรักมา มอบเธอไว้ ให้สดใส
จะสุดแคว้น แดนดอยดิน ณ.ถิ่นใด
ด้วยดวงใจ นั้นชิดใกล้ ไม่ห่างกัน
หากข้ามฟ้า ภูผาไพร ใจเจ้าเอย
อย่าละเลย แรมร้างรา คราร่วมฝัน
ห่วงฤทัย ด้วยอาลัย รักผูกพัน
จนถึงวัน ที่เราสอง ต้องจากลา
สายลมซึ้ง ฟังเสียงซึง ซึ่งคลอเคล้า
ให้เงียบเหงา แสนโศกเศร้า เป็นหนักหนา
ดอยเด่นสูง ส่งใจเพ้อ ละเมอมา
ด้วยเวลา มิสร่างซา รักจากใจ
สุดฟากฟ้า หนแห่งใด ใจสุขสันต์
รอสักวัน รักคงมั่น ไม่หวั่นไหว
ข้ามขอบฟ้า แดนดงดอย ล่องลอยไกล
หากหัวใจ ยังข้ามไป ใฝ่หาเธอ.......ฯ
14 เมษายน 2546 17:58 น.
ราชิกา
ชื่นใด ไหนจักเท่า ชื่นรักเรา เคล้าคลอเคียง
ค่ำคืน ได้ยินเสียง แว่วสำเนียง เพียงสายลม
ร่ำร้อง ในดวงจิต ให้ชีวิต นั้นสุขสม
ร้อยใจ ไว้ชื่นชม สุขภิรมย์ สมฤทัย
คราใด ที่เหน็บหนาว อุระร้าว ต้องหวั่นไหว
ได้ซบ อกอุ่นไอ ยอดดวงใจ ใครคนดี
คราใด ที่เหนื่อยล้า ปลอบขวัญตา ด้วยวาที
ได้หนุน ไหล่ของพี่ ให้น้องนี้ มีสุขใจ
คราใด ที่มีทุกข์ พี่คอยปลุก ปลอบดวงใจ
กล่อมขวัญ ดวงหทัย ประคองไว้ ไม่ห่างตา
ชื่นใด ไหนจักเท่า ชื่นรักเรา เฝ้าห่วงหา
ค่ำคืน แม้เคลื่อนคลา ดวงจันทรา จะจากจร
ด้วยรัก ประทับจิต จึงลิขิต เป็นอักษร
ขอรัก อย่าคลายคลอน เอื้ออาทร ทั้งสองใจ
รอพี่ คืนกลับมา น้องแก้วตา พลันสดใส
รับขวัญ ด้วยมาลัย น้ำใจรัก...จักรอคอย.....ฯ