16 พฤศจิกายน 2552 19:30 น.
ราชิกา
* ยินเพลงกานท์ ขับขานไพเราะ
เสียงเสนาะ ออเซาะกล่อมนาง
* เพลงหวานแว่ว พริ้วแผ่วรุ่งสาง
น้องนวลปราง มิจางจากจร..........
* กล่อมคืนรัก หนุนตักแทนหมอน
ยังอาวรณ์ อาทรเพียงเธอ
* คราจากไกล อาลัยเสมอ
ฝันละเมอ พร่ำเพ้อเดียวดาย....
* เหมันต์นี้ ฤดีมิหาย
ห่วงมิวาย พระพายพัดพา
* น้องน้อยรอ ถักทอรักมา
แด่พี่ยา แก้วตาดวงใจ.......
* อยู่แห่งหน จงพ้นโพยภัย
ร้อยหทัย คอยให้พี่ครอง
* ณ.วันนี้ ขอมีเราสอง
รักสมปอง เพียงน้องนางเดียว.....ฯ
* รอคอยวันรักนี้............เพียงเธอ
คราเมื่อไกลละเมอ..........แต่เจ้า
ยังครวญคิดเสมอ............กายห่าง กันนา
เพียงหากใจคอยเฝ้า.........คลอเคล้ารักสนอง.....ฯ
10 พฤศจิกายน 2552 21:49 น.
ราชิกา
** คือภาพหนึ่ง ซึ้งทรวง ในดวงจิต
พรหมลิขิต หรือไร ใครเสกสรรค์
หญิงชายสอง ประคองคู่ อยู่เคียงกัน
เบื้องหน้านั้น อาณาจักร แห่งล้านนา
กษัตริยา ราชินี ศรีเชียงแสน
ณ.ดินแดน เกรียงไกร ให้หรรษา
ภาพอดีต หนึ่งพันปี นี้หวนมา
ขอมบีฑา พลัดพราก ให้จากไกล
จอมกษัตริย์ หลบลี้ ต้องหนีทัพ
เจ้านางจับ เป็นเชลย มิสดใส
ถูกคุมขัง ในกู่แก้ว ที่กลางไพร
สื่อด้วยใจ แทนสาส์น ทุกวารวัน
องค์ราชัน กลับมา หาคนรัก
ด้วยแน่นหนัก รักแท้ มิแปรผัน
ขัตติยะ ราชินี ที่ผูกพัน
ปลิดชีวัน ด้วยคมกริช แห่งบิดา
ก่อนวิญญา จะลาลับ ไปกับร่าง
องค์เจ้านาง พร้อมคู่ เสน่หา
ตั้งสัจจะ อธิษฐาน วานเทวา
ขอรักข้า อย่าแคล้วคลาด ทุกชาติไป
คือภาพหนึ่ง งดงาม ในความฝัน
ปัจจุบัน ปรากฏ พลันสดใส
หญิงชายเดิม เคียงครอง สองหทัย
รักร่วมใจ คู่ขวัญ ทุกวันคืน.......ฯ
6 พฤศจิกายน 2552 18:55 น.
ราชิกา
....ปลายฝนต้นหนาว....
คิดถึงทุกคราว ดวงดาวสดใส
น้ำค้างพร่างพรม ท่ามห่มพฤกษ์ไพร
ดุจดั่งสายใย สื่อรักศรัทธา
......เมื่อปลายวสันต์....
สองเราผูกพัน รักกันหนักหนา
สื่อรักเรียกร้อง กู่ก้องนภา
แม้นอยู่ไกลตา ส่งใจให้กัน
......ต้นเหมันต์นี้........
หวังพบคนดี ชีวีสุขสันต์
รักแห่งน้องน้อย เฝ้าคอยนับวัน
มิสิ้นไฟฝัน แรมร้างห่างไกล
. .....ปลายฝนต้นหนาว......
ดวงจันทร์พร่างพราว สกาวสุกใส
พระพายโชยพริ้ว ลอยลิ่วล่องไป
ฝากบอกความนัย ขอรัก..คืนเรือน.....ฯ
1 พฤศจิกายน 2552 19:50 น.
ราชิกา
** รวงข้าวเหลือง เรืองรอง สีทองทาบ
อิ่มเอิบอาบ เรื่อเรือง เหลืองสดใส
ข้าวออกรวง สีทอง ผ่องอำไพ
ระบัดใบ พริ้วพร่าง กลางท้องนา
ข้าวรวงลีบ ชูช่อ ล้อลมหนาว
เด่นพร่างพราว แข่งตะวัน ฉันแหละหนา
หยิ่งทะนง ศักดิ์ศรี คอยบีฑา
สิ้นไร้ค่า ต้องฝืน ยืนต้นตาย
เปรียบดั่งคน รู้น้อย ด้อยศึกษา
อวดศักดา เก่งแท้ แน่ไม่หาย
มีทิฐิ ท่วมท้น ล้นใจกาย
ต้องเดียวดาย อ้างว้าง ร้างคนมอง
ข้าวรวงเต็ม อ่อนน้อม ค้อมสู่หล้า
ทอดกายา โน้มต่ำไว้ ให้ทั้งผอง
หากคุณค่า มากล้น ชนใฝ่ปอง
พร้อมประคอง ประโยชน์แท้ แก่ทุกคน
เปรียบคนดี ที่เก่งกล้า และสามารถ
ชาญฉลาด การงาน ในทุกหน
ยิ่งอ่อนน้อม ถ่อมตัว ให้ปวงชน
ซึ้งกมล คนเชิดชู และบูชา
** ธรรมชาติ วาดไว้ ให้ได้เห็น
เฉกดั่งเช่น แนวคิด ปริศนา
จะเลือกเป็น ข้าวรวงลีบ ด้อยราคา
หรือล้นค่า ข้าวรวงค้อม น้อมที่ตน......ฯ
30 ตุลาคม 2552 13:14 น.
ราชิกา
** ท่ามแสงจันทร์ วันเพ็ญ ดาวเด่นฟ้า
งามนภา แวววับ ระยับฝัน
ไร้เมฆหมอก ม่านมัว มาพัวพัน
งามเฉิดฉัน พราวพร่าง สู่ทางไกล
ดาริกา งามระยิบ เพ็ญสิบสอง
น้ำเจิ่งนอง ห้วยระหาน ลำธารไหล
จันทร์สาดส่อง เจิดจ้า นภาลัย
สะท้อนใน ธารทอง ของคงคา
ริมฝั่งน้ำ ประทีปทอง มองระยับ
ละเลื่อมจับ วาววาม งามหนักหนา
เพ็ญสิบสอง น้ำนอง ทั่วธารา
ข้าฯบูชา จุดเทียน เวียนนที
กระทงใจ ไกลแสน ในแดนสรวง
รักอย่าลวง ร้างกาย มิหน่ายหนี
วอนพระแม่ คงคา โปรดปรานี
สองชีวี ผูกพัน มั่นมิเลือน
กระทงน้อย ลอยนิ่ง อ้อยอิ่งไหล
ส่งหทัย ข้ามขอบฟ้า ว่าเสมือน
รักคิดถึง ห่วงใย ให้ย้ำเตือน
พี่คือเพื่อน ปลอบขวัญ ทุกวันวาร
** ท่ามแสงจันทร์ วันเพ็ญ ดาวเด่นฟ้า
ห้วงนภา งามระยับ ร่วมขับขาน
เพลงพริ้วแผ่ว ลำนำ ดุจตำนาน
สู่ห้วงกาล ธารสรง แม่คงคา.......ฯ