11 พฤศจิกายน 2552 23:25 น.
รัสสะตะ
เพิ่งจะได้รู้ ถึงข่าวคราว
หลังจากเรา ไม่เจอหน้า มาแสนนาน
เมื่อเวลา ถึงครา เดินล่วงผ่าน
สุขวันวาน กลับกลาย เป็นความขม
ฉันควรจะ ทำใจ ตั้งนานแล้ว
แต่ใจแป้ว อิดออด แอบเพาะบ่ม
ถึงวันนี้ จึงต้อง ร้าวระทม
ปวดระบม ทุกอณู ห้องหัวใจ
รู้ว่าเรา คงไม่เจอ กันอีกแล้ว
ต้องคลาดแคล้ว ไม่สม ประสงค์ได้
แต่รู้ว่า เพื่อก้าวหน้า เธอจึงไป
ก็ดีใจ อวยพร ให้กับเธอ
ฉันคงต้อง ค่อยค่อยลืม เธอให้ได้
หมั่นเปิดใจ จากกรงรัก อยู่เสมอ
เมื่อรู้ว่า วันข้างหน้า ไม่อาจเจอ
หัวใจก็ กลับสั่นเบลอ ล้าแรงเดิน
8 พฤศจิกายน 2552 12:00 น.
รัสสะตะ
ครั้งหนึ่งเมื่อถึงฤดูเปิดเทอม
ฉันนั้นได้เริ่มลงทะเบียนใจ
เธอส่งปากกาความรักมาให้
ฉันรับเอาไว้เพื่อใช้เขียนเล่าเรื่องราว
ฉันนั้นมีสมุดอยู่หนึ่งเล่ม
เขียนจนเต็มบรรยายรักสีขาว
สายตาอิ่มเอิบฉายแวววาว
ยิ้มแพรวพราวส่งมาจากข้างใน
วันนั้นเธอยื่นหนังสือมา
บอกฉันว่าอ่านมันให้จบให้ได้
ฉันจึงรับหนังสือนั้นเอาไว้
อ่านจบลงไปด้วยใจที่บรรจง
ความรู้จึงได้คู่กับความรัก
เป็นแรงผลักบันดาลสมประสงค์
ไม้บรรทัดวัดใจที่ซื่อตรง
ว่าฉันคงเก็บรักไว้เนิ่นนาน
ณ วันนี้ผ่านมานานหลายปี
เข้าใจดีเมื่อเวลาได้เปลี่ยนผ่าน
วงเวียนรักฉันยังคงคืบคลาน
ด้วยมันจารด้วยปากกายากลบเลือน
ถึงแม้ฉันลองลบด้วยลิควิท
ยังสะกิดสายตาด้วยรอยเปื้อน
รักเธอเขียนด้วยดินสอจึงลางเลือน
ด้วยยางลบเธอกลบเกลื่อน...ความทรงจำ
13 ตุลาคม 2552 00:32 น.
รัสสะตะ
ในสภาวะธรรมชาตินั้น
รุสโซลั่น..ฉันเกิดมาโดยเสรี
คุณค่าความเป็นมนุษย์และศักดิ์ศรี
ฉันจึงมีเสมอภาคทุกประการ
แต่ฉันมีสภาวะความบกพร่อง
มาร์คบอกลองวิภาษวิธีช่วยไขขาน
ก็พบว่าใจฉันถูกพันธนาการ
ดูหยาบกร้านด้วยขาดนิติรัก
ตัวฉันจึงเปรียบดังทรราช
แสนเกรี้ยวกราดไม่อาจจะหาญหัก
อีกแง่หนึ่งตกเป็นทาสอยู่นานนัก
ไม่เดินในวิถีรักหลงเมามัว
ต่อไปนี้คงต้องปฏิวัติ!
แหวกกฎรัดที่เผด็จการจนจิตรั่ว
จะเรียนรู้ในรักอย่างไม่กลัว
จะดีชั่วขอเป็นเสรีชน
จะยึดมั่นในเจตจำนงที่คงมั่น
ไม่ปิดกั้นหวังเห็นประสิทธิผล
เสรีภาพแห่งความรักจักช่วยดล
ให้พบคนถูกใจในสักวัน
2 ตุลาคม 2552 21:23 น.
รัสสะตะ
ไม่คิดไม่ฝันว่าวันนี้
ได้ยืนอยู่จุดที่ฉันใฝ่ฝัน
จากเด็กที่กะโปโลไปวันวัน
ตื่นสายปั่นจักรยานไปโรงเรียน
แบกหนังสือแสนหนักทุกทุกเช้า
ฟังครูเล่าครูสอนให้อ่านเขียน
ครูบอกว่าปัญญาดั่งแสงเทียน
สร้างคนเพียรก้าวไกลได้ทุกคน
ฉันจึงต้องขยันหมั่นศึกษา
ไม่เลิกราไม่ย่อท้อเพื่อก่อผล
การศึกษาจะชนะความรวยจน
และมานะจักดลให้ก้าวไกล
เมื่อยามที่ย่อท้อและลำบาก
คิดถึงคนจนยากน้ำตาไหล
เมื่อทุกข์ท้อกังวลต่อสิ่งใด
คิดถึงแม่ผู้ให้เสมอมา
ฉันไม่ได้มุ่งหวังเป็นนายคน
เพราะความจนสอนคนให้เห็นค่า
ความเป็นคนใช่อยู่ที่เงินตรา
ใช่อยู่ที่ยศฐาเบ่งอวดมี
หวังได้เป็นฟันเฟืองอันน้อยน้อย
จุดประกายเทียนเป็นร้อยฉายรัศมี
สร้างความหวังให้คนสร้างสิ่งดี
เป็นแค่นี้..ไม้ขีดไฟ..ไม้ขีดไฟ
19 กรกฎาคม 2552 12:59 น.
รัสสะตะ
เฝ้ามองตัวเองอย่างครุ่นคิด
ผลผลิตของความด้อยที่มีฝัน
คุณรู้ไหมว่าฉันคือใครกัน
อยู่ชนชั้นใดเล่าในสังคม
ตอนนี้ฉันเป็นแค่ขอทาน
ขอเจือจานความรู้สู้สั่งสม
นั่งตาเหม่อเคว้งคว้างอย่างโง่งม
ทุกข์ระทมในประเทศที่เหม่อลอย
ได้แต่หวังว่าจะมีอนาคต
ฝันสวยสดแม้อยู่สูงฉันจะสอย
เป็นกรรมกรสังคมที่เฝ้าคอย
ร่วมแรงร้อยขับเคลื่อนความเท่าเทียม
ฝันว่าจะเห็นประชาธิปไตย
เบ่งบานในประเทศไทยให้เต็มเปี่ยม
พัฒนาอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม
คนชั่วเจียมคนดีได้ปกครองเมือง